19 ส.ค. 2019 เวลา 08:30 • สุขภาพ
“บุหรี่ไฟฟ้า”...กับสิ่งที่คนอยากลองต้องรู้
บุหรี่ไฟฟ้า ก็อย่างที่รู้กันว่ามีใช้กันมานานกว่า 10 ปีแล้วนะครับ แต่ในเมืองไทยก็ต้องบอกว่าเห็นใช้กันน้อยมากจริงๆ เพราะบุหรี่ไฟฟ้ายังถือว่าเป็นสินค้าต้องห้ามอยู่ ห้ามนำเข้า และห้ามครอบครอง และโทษก็ไม่ใช่น้อยๆ
ว่าแล้วหมอก็เลยขอลองไปดูในร้านค้าออนไลน์เสียหน่อย ซึ่งก็เห็นว่ามีขายกันค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยนะ เยอะจนงงว่ามันถูกหรือผิดกฏหมายกันแน่ แต่เมื่อมี Suppy เยอะ ก็แสดงว่าน่าจะมี Demand เยอะเช่นเดียวกัน คิดว่าคงมีคนซื้อเอาไปแอบสูบในบ้านกันอยู่เยอะพอสมควร
เอาล่ะ พอดี 2 บทความที่หมอเขียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่ เลยคิดว่าต้องเขียนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเสียหน่อย เพราะคิดว่าน่าจะมีคนที่เข้าใจเรื่องบุหรี่ไฟฟ้ากันผิดอยู่ไม่ใช่น้อยๆ ดังนั้นใครที่กำลังสนใจเจ้าบุหรี่ชนิดนี้อยู่ มาอ่านบทความนี้ของหมอก่อนดีกว่าครับ
บุหรี่ไฟฟ้า เป็นบุหรี่ที่ทำขึ้นมาเลียนแบบบุหรี่ของจริงจากใบยาสูบ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เป็นบุหรี่ที่มีโทษต่อร่างกายผู้สูบน้อยลง แต่ยังคงมีความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับการสูบบุหรี่ทั่วไปเนื่องจากมี”นิโคติน” แต่มีในระดับต่ำๆ
สำหรับบุหรี่ไฟฟ้านั้น แน่นอนว่ามันปลอดภัยกว่าบุหรี่ของจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่อันตราย โดยข้อแตกต่างสำคัญระหว่างบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่จริงมีอยู่ 2 ข้อ
1.กระบวนการเกิดควัน
การเกิดควันในบุหรี่จริงนั้น จะเกิดจากการเผาไหม้โดยตรง เลยทำให้เกิดสารพิษมากมาย เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ แต่ในขณะที่บุหรี่ไฟฟ้านั้นเกิดจากความร้อนจากแบตเตอรี่ ทำให้สารระเหยออกมาเป็นไอ ตรงจุดนี้เลยเกิดควันพิษน้อยกว่าอย่างแน่นอน
1
2.สารที่เป็นส่วนประกอบ
อย่างที่รู้กันว่าบุหรี่นั้นมีส่วนประกอบที่เป็นสารเคมีจำนวนกว่า 4,000 ชนิด และสารหลายๆชนิดก็เป็นสารก่อมะเร็ง แต่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้านั้นจะมีสารอยู่เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย 1) นิโคติน ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนบุหรี่จริง 2) โพรพีลินไกลคอล หรือสารอื่นๆที่ช่วยรักษาความชื้น 3) สารตกแต่งกลิ่น และ 4) อื่นๆ ซึ่งมักแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ เช่น ตะกั่ว นิเกิล โครเมียม ไนโตรซามีน สารระเหย เป็นต้น ซึ่งสารหลายๆชนิดก็จะเป็น”สารก่อมะเร็ง”
2
แล้วบุหรี่ไฟฟ้าจะมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริงๆไหม? ต้องบอกก่อนว่าผลเสียของบุหรี่นั้น มีอยู่ 3 ประเด็นสำคัญอย่างที่ได้เล่าไปในบทความที่แล้ว นั่นก็คือ
1.โรคมะเร็ง
อย่างที่ได้บอกไปว่าสารต่างๆในบุหรี่นั้นทำให้เกิดมะเร็งได้แทบทั่วทั้งร่างกาย ทำให้บุหรี่ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ1ของโรคมะเร็ง โดยทิ้งห่างอันดับ2อย่างไม่เห็นฝุ่น
สำหรับในบุหรี่ไฟฟ้านั้น ก็ต้องบอกว่ามี”สารก่อมะเร็ง”เช่นกันตามที่บอกไป เช่น โพรพีลินไกลคอล, ไนโตรซามีน, สารระเหย, โลหะหนัก เป็นต้น แต่ก็มีในปริมาณที่น้อยมากๆ จึงมีความเสี่ยงโรคมะเร็งน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่มี และจากผลการสำรวจวิจัยหลายๆชิ้น ก็ยัง”ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด”
2.โรคหัวใจและหลอดเลือด
“นิโคติน” สารที่มีฤทธิ์เสพติด อันตรายที่โดดเด่นของสารตัวนี้ก็คือผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด เพราะนิโคตินจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ทำงานหนักมากขึ้น และที่สำคัญ ทำให้เกิดลิ่มเลือดได้ง่ายขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการอุดตันเส้นเลือดต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง และอวัยวะต่างๆ
จากการสำรวจวิจัยพบว่าคนสูบบุหรี่ที่เสียชีวิตจากโรคเลือดเลือดหัวใจอุดตันนั้น มักมีก้อนลิ่มเลือดที่มีขนาดใหญ่กว่าคนทั่วไปอุดตันอยู่ นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตเหล่านี้มักมีโครงสร้างหลอดเลือดที่ค่อนข้างดีกว่าคนทั่วไป นี่หมายความว่าคนสูบบุหรี่นั้นสามารถเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจจนถึงขึ้นเสียชีวิตได้ แม้หลอดเลือดของพวกเขาจะไม่มีโรคอะไรมากมายเลยก็ตาม เพราะว่าเพียงการสูบบุหรี่ก็อาจเพียงพอเเล้วที่จะทำให้พวกเขาเสียชีวิต
1
สำหรับสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้านั้น จะมีปริมาณน้อยกว่าบุหรี่จริงค่อนข้างมาก ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพดังกล่าวน้อยลง แต่ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในปริมาณมาก ก็สามารถทำให้ได้รับสารนิโคตินในระดับใกล้เคียงกับบุหรี่จริงๆได้เช่นกัน นอกจากนี้การสำรวจวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยัง”ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน”ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในระยะยาวนั้นจะส่งผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดหรือไม่
3.โรคปอด
โรคปอด ถือเป็นโรคคู่หูของการสูบบุหรี่ โดยทำให้เกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง จากการสำรวจวิจัย พบว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีผลทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง เสมหะ หลอดลมอักเสบได้ แต่ยัง”ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน”ว่าเกี่ยวข้องกับโรคปอดที่รุนแรงกว่านี้ได้หรือไม่
จะเห็นได้ว่าอันตรายต่างๆที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น จะมีผลการสำรวจวิจัยที่ยัง”ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด”แทบทั้งนั้น หมายความว่าการศึกษาเรื่องนั้นๆ มีทั้งผลการศึกษาในทางบวกและในทางลบ หรืออาจมีการศึกษาวิจัยที่น้อยมากๆ สาเหตุก็คือ การวิจัยหาความสัมพันธ์ว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีผลเสียต่อระบบต่างๆของร่างกายหรือไม่นั้น ทำได้ยากมากๆ เพราะคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าก็มักไม่ใช่คนที่ดูแลสุขภาพ คนเหล่านี้มักมี”ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ”ที่ทำให้เกิดโรคอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูบบุหรี่จริงร่วมด้วย ทำให้การศึกษามีปัจจัยอื่นๆที่เข้ามาก่อกวนมากมายจนไม่รู้ว่าผลลัพธ์ที่ได้ เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า หรือปัจจัยเสี่ยงอื่นๆกันแน่ และนอกจากนี้ การวิจัยเหล่านี้ก็มักใช้เวลายาวนานหลายสิบปีในการสำรวจผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว แต่บุหรี่ไฟฟ้ายังเกิดขึ้นมาแค่กว่า 10 ปีเท่านั้นเอง
1
เมื่อยัง”ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด” ก็แปลว่ายังไม่สามารถวางใจได้ โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีการแนะนำให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทดแทนบุหรี่จริงๆ และองค์กรสุขภาพระดับโลกส่วนใหญ่ เช่น WHO, FDA, AHA ก็ไม่สนับสนุนให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเช่นกัน โดยเฉพาะในวัยรุ่นและผู้ที่ยังไม่เคยสูบบุหรี่ โดยมีเหตุผลเดียวเลยตามที่ได้เล่าไป เพราะว่าการศึกษาส่วนใหญ่ยังคง”ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน”
2
สำหรับผลเสียอื่นๆ บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดโรคเสพติดนิโคตินได้ และมีงานวิจัยพบว่าผู้สูบสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้น มีโอกาสสูงขึ้นที่จะไปลองใช้สิ่งที่แรงขึ้น หรือก็คือบุหรี่จริงๆ โดยเฉพาะในวัยรุ่น ทำให้ประเทศส่วนใหญ่มีกฎหมายห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในผู้ที่ยังมีอายุไม่ถึงเกณฑ์
นอกจากนี้ หลายๆคนอาจเข้าใจว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นการรักษาที่ช่วยให้เลิกสูบบุหรี่จริงๆได้ หมอก็ต้องบอกว่ายัง”ไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน”อีกเช่นกัน ในขณะที่ปัจจุบันมียาเลิกบุหรี่มากมายที่มีการวิจัยรองรับอยู่แล้ว หมอจึงขอแนะนำให้ใช้ยาเลิกบุหรี่ดีกว่า
สรุปแล้วสำหรับบทความนี้ บุหรี่ไฟฟ้าก็คือสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่แน่ชัด รอวันพิสูจน์ความจริงกันต่อไป สำหรับความเห็นของหมอ หมอคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีโทษอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าอาจมีน้อยจนไม่ชัดเจน สุดท้ายก็ต้องถามใจของคุณเองว่าพร้อมยอมรับสิ่งที่อาจเกิดตามมาได้หรือไม่ แน่นอนว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงๆ แต่จะเป็นการดีกว่าไหมครับ ถ้าพวกเราเลือกที่จะไม่สูบพวกมันเลยสักอย่างเดียว...
1
#Healthstory
อย่าลืมกดLike&Shareด้วยนะครับ^^
ติดตามเรื่องราวสุขภาพดีๆจากปากหมออีกได้ที่
[R]
UpToDate(แหล่งรวมข้อมูลทางการแพทย์โดยเน้นหลักฐานที่ทันสมัย)
-E-cigarettes
-Cardiovascular effects of nicotine
โฆษณา