14 ก.ย. 2019 เวลา 12:19 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อลูกหลานกำลังจะไม่รู้จักกัน
ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com
ผมเคยเขียนบทความอยู่บทความหนึ่งของตัวเอง และในบทความนั้นผมได้เล่าว่า..
ตอนผมเด็กๆ ในช่วงปิดเทอมใหญ่ คนที่เป็นเด็กๆซึ่งจะเป็นรุ่นหลานๆของยายผม ไม่ว่าจะอยู่ที่จังหวัดไหน จะกรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น เมืองชล อุบล อุดร ต้องถูกส่งมารวมตัวกันที่บ้านยายนับสิบชีวิต กิน นอน เล่น กันที่บ้านของยาย ให้ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา แถวๆบ้านยาย อบรมสั่งสอน ฟาดด้วยไม้เรียวให้หายดื้อ หายซน ถึงจะกลับไปเรียนต่อตอนเปิดเทอมได้
ทุกๆครั้งที่ญาติพี่น้องมีงานสำคัญไม่ว่า งานแต่งงาน งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้แต่งานศพ ลูก หลานที่อยู่ไกลกัน ก็ยังได้กลับมาเจอกัน มาเล่นกัน ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตามที
ความสัมพันธ์ระหว่างลูกหลานพี่น้องรุ่นเดียวกันหรือจะเรียกว่า Level เดียวกันนั้น ก็ได้สานต่อมาจนโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้ห่างหายกันไปไหน
แต่หลายปีมานี้ ผมเริ่มพบว่า เวลาผมไปงานต่างๆของญาติ พี่น้อง ผมกลับพบว่า ลุง ป้า น้า อาและพี่ๆ ไม่ค่อยพาลูก พาหลานมาด้วย ทำให้พอเวลาผ่านไปนาน ๆ ลูกหลานรุ่นหลัง ๆ ก็เริ่มที่จะไม่รู้จักกัน
1
พอนานเข้า ๆ จากความเป็นญาติ ก็ชักจะห่างไปเรื่อย จนเริ่มรู้สึกว่าเป็นคนอื่น ไม่ใช่ญาติพี่น้องกันซะแล้ว
อาจจะด้วย ปัจจุบันเราอยู่กันแบบครอบครัวเดี่ยว และเด็กรุ่นใหม่ก็ไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นที่ต้องรู้จักลูกของน้า หลานของลุง ลูกของอา ไปทำไม ไร้ประโยชน์
ทุกคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำว่าสายเลือด กันแล้ว
ที่ผมสังเกตุง่าย ๆ คือ แม้แต่ประเพณีสำคัญ ๆ ของแต่ละเชื้อชาติ เช่นตรุษจีน สงกรานต์ งานเดือนสิบ ลูก หลาน บางคน ยังไม่มาเลย มีแต่คนแก่ๆ ที่มาร่วมงาน
ลูก หลานรุ่นใหม่ๆ กลับให้ความสำคัญกับงานของเพื่อน งานของบริษัท งานของหน่วยงาน หรือแม้แต่ การไปเที่ยวมากกว่าการไปร่วมงานของญาติพี่น้อง
เราอยู่ในยุค" งานเลี้ยงวันเกิดเจ้านาย
มาก่อนงานตายของพี่ชายพ่อ"
คำว่า เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ น่าจะเริ่มจางลงเสียแล้ว พ.ศ.นี้ คุณว่าจริงไหม
#ขอบคุณครับที่สละเวลาอ่านบทความนี้ 🙏🙏🙏🙏นะครับ
1
โฆษณา