8 ก.ย. 2019 เวลา 23:30 • ประวัติศาสตร์
สุดยอดนักกวี แห่งเกาะอังกฤษ
ที่ได้รับ ฉายาว่า "Bard of Avon"
ผู้ประพันธ์ บทละครสุดโด่งดัง ที่รู้จักกันทั่วโลก
"โรมิโอ แอนด์ จูเลียต"
วิลเลียม เชคสเปียร์
วิลเลียม เชคสเปียร์ เกิดวันที่ 23 เมษายน 1564 เขาเกิดใเนมือง Stratford-upon-Avon ซึ่งพ่อและแม่ของเขานั้น อ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ซ้ำยังมีฐานะที่ค่อนข้างจะยากจน แต่ด้วยความรักลูก พ่อของเขาได้ส่ง เช็คสเปียร์ ไปเรียน โรงเรียน King’s New School โดยทางโรงเรียนมีหลักสูตรที่ถูกควบคุมตามกฎหมายที่จะต้องสอนไวยากรณ์ละตินและเรื่องของวรรณกรรมคลาสสิคเท่านั้น
ชีวิตในวัยเด็กของ เขานั้นแทบไม่มีอะไรน่าสนใจ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ปกติธรรมดา จนปี 1582 เขาอายุ 18 ปี เชคสเปียร์ ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่อายุมากกว่า ถึง 8 ปี โดยสาเหตุก็คือ ท้องก่อนแต่ง
หลังจากแต่งงานเพียง 6 เดือน เขาก็ได้ลูกสาวคนแรก และในปี 1583 เขาก็ได้ลูกแฝดเพิ่มอีก 2 คน เป็น ชาย1 หญิง 1 แต่ก็มีเรื่องที่ต้องเสียใจคือ ลูกชายของเขานั้น เสียชีวิตลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
ประวัติของ เชคสเปียร์ นั้นมีช่วงที่เป็นรูโหว่อยู่ ก็คือปี ค.ศ. 1585-1592 รวมเป็นระยะเวลา 7 ปี ที่หน้าประวัติศาสตร์นั้นไม่รู้เลยว่า เชคสเปียร์ หายไปทำอะไร
จนมารับรู้อีกทีก็เมื่อปี ค.ศ.1592 ที่เขาได้มาอยู่กับคณะละคร แชมเบอร์เลน (Lord Chamberlain) ณ กรุงลอนดอน
ตรงนี้ มีข้อสันนิษฐานมากมายหลายข้อ ว่า 7 ปีที่ผ่านมานั้นเขาไปทำอะไรมา
ว่ากันว่า ครอบครัวเขาประสบปัญหาจนต้องย้ายเข้ามาหากินที่ลอนดอน เขาเริ่มต้นจากคนดูแลม้า ที่โรงละครก่อน และเมื่อเห็นแวว ก็ถูกทาบทามมาให้อยู่ในโรงละคร
ประมาณค.ศ. 1594 และเป็นหนึ่งในสามนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังของคณะละครนี้ ซึ่งส่งผลให้เขาได้แสดงละครถวายต่อหน้าพระพักตร์ของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 โดยในเวลานี้เองที่เช็กสเปียร์เริ่มแต่งบทละครและผลงานอื่นๆ เอาไว้มากมาย
ซึ่งปี ค.ศ. 1591 (บ้างก็ว่าปี ค.ศ. 1588) คงจะเป็นปีที่เขาเริ่มเขียนบทละครเป็นเรื่องแรก คือบทละครชวนหัวเรื่อง Love’s Labour’s Lost ซึ่งเป็นเรื่องที่รวมเอาข้อสังเกตต่างๆ เกี่ยวกับแฟชั่นในกรุงลอนดอน ความคิดตลกๆ วิธีการพูดและการล้อเลียนคำพูดต่างๆ ในสมัยนั้น
บทละครที่เขาแต่งก็จะเป็นแนว อิงประวัติศาสตร์ มีทั้งแนว ตลกขบขัน เสียดสีการเมือง รวมไปถึง โศกนาฏกรรม
นับว่าเป็นโชคของเขาด้วย ที่ช่วงนั้น ในอังกฤษ นั้น นิยมการดูละคร เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมักจะเป็นที่ชื่นชอบของเชื้อพระวงศ์ต่างๆ มากมาย ทำให้ชื่อเสียงและรายได้ของเชค สเปียร์ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
สิ่งที่่ทำให้คนชอบบทประพันธ์ของเขา ก็คงจะเป็น การใช้คำที่ดูไม่เหมือนใครในยุคนั้น รวมถึงคำพูดที่ดูสละสลวยชวนฟังอีกในบทละคร จึงทำให้ติดหูคนฟัง จนกลายเป็นที่นิยม
ความสามารถทางด้านนี้สร้างรายได้ให้กับเขามากมาย จนทำให้เขากลายเป็นเจ้าของโรงละครอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว ทั้ง โรงละครชื่อเดอะโกลบ (The Globe) โรงละครเดอะ สวอน (The Swan)
ช่วงเวลานี้เขาได้เขียนบทละคร ดังๆ ขึ้นมากมาย อาทิเช่น Henry IV, Richard II Julius Caesar, Hamlet, Macbeth, King Lear
1
บทละครพวกนี้โด่งดังมาก ถึงขนาดที่ พระราชินีอลิซาเบธที่ 1 โปรดปรานให้แสดงต่อหน้าพระพักษ์ เมื่อพระราชินีสิ้นพระชนม์ ความดังของเขาก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุคของ พระเจ้าเจมส์ที่ 1 ซึ่งทรงโปรดปรานละครของ เชคสปียร์ ไม่แพ้กัน
นอกจากเชคสเปียร์ ที่โด่งดังในยุคนั้นแล้วยังมีกวี อีกคน คือ โฮมเมอร์ ที่โด่งดังด้วย
เขาใช้เวลาช่วงนี้หมดไปกับการเขียนบทละคร และสร้างละครให้คนได้ชื่นชม เรียกว่าประสบความสำเร็จในช่วงชีวิตเป็นอย่างสูง
ในบั้นปลายของชีวิตเชค สเปียร์นั้น เลิกเขียนบทละคร กลับไปใช้ชีวิตและพักผ่อนอยู่ที่เมืองสแตรทฟอร์ดบ้านเกิดในบ้านที่เขาสร้างสำหรับครอบครัวและเสียชีวิตอย่างสงบในปี ค.ศ. 1616 วันที่ 23 เมษายน มีอายุรวม 52 ปี
บทละครของวิลเลียม เช็กสเปียร์ได้ถูกรวบรวมเพื่อตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1623 โดยการจัดการร่วมกันของหุ้นส่วนใหญ่ที่สำคัญ 2 คนในกิจการคณะละครของวิลเลียม เชคสเปียร์เอง ซึ่งก็คือจอห์น เฮมมิ่ง (John Hemming) และเฮนรี่ คอนเดลล์ (Henry Condell) โดยก่อนหน้านี้นั้นไม่มีการตีพิมพ์ผลงานที่เป็นบทละครของเขา คงจะเนื่องจากว่าสมัยนั้นการพิมพ์ยังไม่เจริญก้าวหน้า อีกทั้งยังไม่นิยมพิมพ์เพื่อเผยแพร่บทละครก่อนที่จะเปิดการแสดง ซึ่งการตีพิมพ์ในครั้งนี้มีบทละครรวมทั้งหมด 20 เรื่อง และมีชื่อเรียกหนังสือที่รวมบทละครเหล่านี้ว่า The First Folio
ความโด่งดังของเขาในตอนมีชีวิตอยู่นั้น ยังไม่มากเท่าตอนที่เขาเสียชีวิต
เมื่อเข้าสู่ยุค ศตวรรษที่ 17 และ 19 มีนักวิชาการหลายๆ คนได้ศึกษางานบทละครของ เชค สเปียร์ และต่างลงความเห็นว่า เขา คือ ยอดกวี แห่งยุค ที่หาใครเปรียบมิได้
เมื่อมีการการันตีจากนักวิชาการ ผลงานเขาจึงโด่งดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
กลายมาเป็นผลงานที่เราได้เห็นและผ่านมา จวบจนทุกวันนี้
สำหรับเรื่อง โรมิโอ แอนด์ จูเลียต นั้น ทำไมถึงโด่งดัง น่าจะมีปัจจัยหลายๆ อย่าง
นั่นคือ เป็นบทละคร เรื่องความรัก ที่เข้าถึงง่ายในกับทุกชนชั้น
เป็นบทละคร ที่มีความเศร้าโศก และเสียดสีสังคม ในยุคสมัยนั้น
เป็นบทละคร ที่มีเนื้อเรื่อง ที่สามารถเข้าได้กับทุกยุคทุกสมัย
ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ อาจจะประกอบทำให้คนชื่นชอบบทละครเรื่องนี้มากจนทำให้เกิดการแปลในหลายๆ ภาษา
เมื่อแพร่หลายมากขึ้น ก็นำไปดัดแปลง เป็นละคร และภาพยนต์ต่างๆ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ผลงานของเชค สเปียร์ ที่หลงเหลืออยู่ มีบทละคร 38 เรื่อง กวีนิพนธ์แบบซอนเน็ต 154 เรื่อง กวีนิพนธ์อย่างยาว 2 เรื่อง และบทกวีแบบอื่น ๆ อีกหลายชุด
ซึ่งทั้งหมด ล้วนแล้วแต่ถูกแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย รวมถึงในประเทศไทยเราด้วย
ที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงแปลบทละครเรื่อง โรมิโอ แอนด์ จูเลียตใน ปี พ.ศ. 2465
เรียกได้ว่าผลงานของเขาได้กลายมาเป็น อมตะในที่สุด เพราะถูกกล่าวขาน ตั้งแต่นั้นมาจวบจนทุกวันนี้
ก็จบกันไปอีกคนนะครับ สำหรับ สุดยอดกวีแห่งโลกนี้ วิลเลียม เชคสเปียร์
ในตอนต่อไปจะเป็นใคร โปรดติดตาม นะครับ
คำใบ้ คือ "นักวิทยาศาสตร์" "หอเอนปิซ่า"
ที่มา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา