22 ก.ย. 2019 เวลา 05:29 • ความคิดเห็น
ทุกข์...อย่างเทพ! .<เทพจริงกับเทพเปรียบเทียบ>
ความทุกข์นั้นมีมากหลาย คนมากมายอยากจะพ้นทุกข์ สุขสบาย จึงหวังจะเป็นเทพเทวดา..แต่เทพเทวดาจริงๆก็มีทุกข์นะครับ!
ที่เคยอ่านมาในแนวศึกษาทางพุทธ..อย่างน้อยที่มีแน่นอนก็คือ เทวดา ก็มีอายุขัย เมื่อหมดอายุขัยก็ย่อมต้อง 'จุติ' คือสิ้นไปเพื่อไปเกิดในภพภูมิใดๆตามสมควร. เทวดาที่มีรูป ยามจะจุตินั้นก็อาจจะมีความเศร้าหมองในรูปรวมถึงในจิต และแม้ยามปกติก็น่าจะมีทุกขเวทนาในจิตเกิดได้เช่นกัน. (ผมใช้คำว่าน่าจะเพราะไม่มีแหล่งอ้างอิงชัดเจนครับ) ยิ่งถ้าเป็นเทพเทวดาแบบตำนานกรีก อินเดียและอื่นๆทั้งหลายยิ่งไม่ต้องคิดเลย เพราะมีการต่อสู้แก่งแย่งกันแบบมันส์มากตามที่เราหาอ่านได้ทั่วไปนั่นแหละครับ 😅
นั่นคือส่วนของเทพจริงที่พอจะกล่าวได้..แต่ที่อยากจะพูดถึงในที่นี้จริงๆคือทุกข์ของเทพแบบเปรียบเทียบครับ. เปรียบเทียบยังไง? มาดูกัน!
คุณมีความทุกข์มั้ยครับ? ที่แน่ๆคือผมมีครับ..
-ที่ทำงานไกล..หนักสุดกลับบ้านเจอ 5ชม. 😖
-ปวดหลังเนืองๆ หนักหน่อยก็ลุกไม่ได้เลย 🤢
-เป็นภูมิแพ้..ปีก่อนหนักหน่อยกลายเป็นหอบ 🤒
-ลงทุนหุ้น แต่รู้น้อยเลยขาดทุนไปหลาย 😭
-ในซอยบ้านมีโรงแรม (ซึ่งมาสร้างทีหลัง) พอมีลูกค้ากลุ่มก็จะมีรถทัวร์จอดเต็มซอย แล้วก็มักจะติดเครื่องทิ้งไว้นานๆเพื่อให้รถเย็น!? เหม็นควันแล้วก็เสียงดังชวนหงุดหงิดมาก 😠....
และก็มีความทุกข์หงุดหงิดรายวัน รายเดือน รายปี เป็นเรื่องทั่วไป...ซึ่งผมคิดว่าทุกท่านก็คงมีทุกข์มากบ้างน้อยบ้างปนๆกันไป.
ทีนี้...ถ้า คิดดีดี ถึงความทุกข์ทั้งหมดที่ผมว่ามาเทียบกับตอนนี้ ผมคิดว่า..
-ที่ทำงานไกลแต่ก็มีรถเมล์ถึงและมักจะได้นั่ง.
-ปวดหลังบ้างแต่ก็ยังขยับระดับตีแบดได้ด้วยนะ.
-ภูมิแพ้เบาลงและดำเนินชีวิตได้...ได้ระดับที่ยังพอวิ่งเป็นกิโลได้อยู่นะ ☺️
-ขาดทุนหุ้น..แต่ก็ยังมีเงินเก็บเพราะไม่ได้ใช้เงินสิ้นเปลืองอะไร ยกเว้นค่าบุฟเฟ่ต์555
-รถทัวร์ก็ยังมีเนืองๆแต่ไม่ได้มีตลอด และพอไปคุยกับโรงแรมก็พยายามช่วยเราบ้างโดยการบอกให้รถทัวร์ติดเครื่องอย่านานนัก..
ถ้าคิดง่ายๆก็คือทุกข์ทั้งหลายมันก็อยู่ในระดับดำรงชีพได้และมันก็ผ่านพ้นไปตามเวลาทั้งนั้น!
แล้วมันทุกข์อย่างเทพตรงไหน..ผมคิดแบบนี้ครับ.
ผมมีบ้านอยู่ดี, พ่อแม่และตัวเองก็ยังถือว่าร่างกายแข็งแรง, พี่ๆน้องๆที่ทำงานดีมีน้ำใจต่อกัน, เงินออมยังมีพอไว้ใช้ยามฉุกเฉิน, รู้จักและสนใจธรรมะทำให้รู้สึกมีกำลังผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆได้นุ่มนวลขึ้น...
....
เท่าที่ว่ามานี้ถ้าเทียบกับอีกหลายๆคนที่..
หากินลำบากหรือไม่มีจะกิน, ครอบครัวแตกแยก, เจ็บป่วยสาหัสต่อเนื่อง, มีหนี้สินท่วมหัว ไร้เงินออม, ย้ำคิดย้ำทำเอาความทุกข์มาสุมใจเพราะเข้าไม่ถึงธรรมอันสมควร...
....
คุณคิดว่าสำหรับเค้าเหล่านั้นเมื่อเทียบกับผมและคุณที่ยังมีเวลาอ่านบทความใน blockdit แล้วชีวิตผมและคุณอยู่ในระดับไหนครับ? คนอื่นผมคงบอกไม่ได่แต่ตัวผมเองคงมีชีวิตระดับ 'เทพ' แบบที่เค้าเหล่านั้นอาจจะกำลังใฝ่ฝัน.😇
ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอเปรียบเทียบความทุกข์ของผม(และคุณ?)เป็น 'ทุกข์อย่างเทพ' ครับ. ขอเพิ่มเติมอีกหน่อยคือ..
คุณคิดว่าตั้งแต่เกิดมาคุณมีความรู้สึกทุกข์หรือมีปัญหา ซักกี่วัน...กี่นาทีครับ? เทียบกับอายุของคุณตอนนี้มันเป็นซักกี่เปอร์เซนต์ครับ? ถ้าคุณอายุ 40ปี คิดว่าทุกข์ซัก 10%..คุณก็มีเวลาของปัญหาในชีวิตรวม 4ปีแล้วนะครับ...ส่วนตัวผมคิดว่า..ถ้าคิดดีดี ผมคงมีเวลารู้สึกทุกข์ไม่ถึง 10% หรอกครับ..ซึ่งก็คงพอจะเปรียบเทียบได้ว่า มีความรู้สึกสุขหรือปกติมากกว่าทุกข์มาก ประหนึ่งเทพเทวดา😇
ถ้าคิดแบบนี้คุณจะวนเวียน 'ทุกข์กับทุกข์' ของคุณน้อยลงบ้างมั้ยครับ? เราเองก็ระดับเทพแล้วมองทุกข์สุขตามความเป็นจริงแล้วดำเนินชีวิตแบบเทพๆกันต่อไปดีมั้ยครับ?
ปล. ความทุกข์ที่กล่าวถึงในบทความนี้หมายถึงความรู้สึกเป็นทุกข์เป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ระดับทุกขสัจจะในอริยสัจ 4 นะครับ. และขออภัยที่เขียนยาว ไม่ค่อยรวบรัด เพราะเขียนแล้วฟุ้งครับ 😐
โฆษณา