25 ก.ย. 2019 เวลา 00:50
โจวซิงฉือ : ชีวิต งาน และเพื่อน
1
โจว ซิงฉือ ( Stephen Chow ) เกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ปีค.ศ. 1962 ที่เกาะฮ่องกง
เขาเป็นลูกชายคนเดียวในครอบครัวที่ประกอบไปด้วยแม่ พี่สาวและน้องสาว ส่วนพ่อนั้นแยกทางกับแม่ตั้งแต่เขาอายุ 7 ขวบ
2
แม้เกิดในครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยดี แต่โจวซิงฉือก็ไม่ปล่อยให้สิ่งนี้เป็นอุปสรรคต่อความฝันของเขา
เด็กชายโจวซิงฉือฝันว่าเขาอยากทำงานในวงการบันเทิงเช่นเดียวกับ บรูซ ลี ดาราที่เขาชื่นชอบ
ดังนั้นเมื่อเรียนจบมัธยมเขาจึงไปสมัครงานกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB)แต่ถูกปฏิเสธ จึงสมัครเป็นนักเรียนการแสดงของโรงเรียนการแสดงทีวีบีแทน
ทำให้หลังจากนั้น เขาได้รับโอกาสแรกในวงการบันเทิง ด้วยการเป็นพิธีกรรายการเด็กชื่อ 430 Space Shuttle คู่กับ เหลียงเฉาเหว่ย ซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนการแสดงทีวีบีรุ่นเดียวกัน
จากนั้นชีวิตโจวชิงฉือก็วนเวียนอยู่กับบทตัวประกอบ จนได้มาแสดงสมทบในละครซีรีส์เรื่อง ค่าของคน (The Price Of Growing Up , 1987) ด้วยความสามารถที่โดดเด่น ทำให้ในปีนั้นเขาได้รับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งยอดเยี่ยม (Best New Performer)
หลังจากนั้นโจวซิงฉือก็มีผลงานการแสดงตามมาอีกหลายเรื่อง จนปี 1989 เขาก็ก้าวขึ้นมารับบทพระเอกเต็มตัวในซีรีส์กำลังภายในเรื่อง
“ จอมยุทธสะท้านโลกันตร์ “( The Final Combat )
ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จมาก จนทำให้โจวซิงฉือเริ่มมีชื่อเสียง
การแสดงซีรีส์ชุดจอมยุทธสะท้านโลกันตร์ ทำให้โจวซิงฉือถูกจับตามองในฐานะพระเอกดาวรุ่ง
เนื่องจากในเวลานั้นวงการบันเทิงฮ่องกงกำลังขาดแคลนพระเอกแนวตลก จึงทำให้เขาได้มาแสดงในภาพยนตร์เรื่อง All for the Winner (1990) หรือ คนตัดเซียน ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้เขาโด่งดังทั่วเอเชีย
1
นอกจากนี้หนังเรื่องคนตัดเซียนยังทำให้โจวซิงฉือมีนักแสดงคู่หูเพิ่มขึ้นอีกคนคือ " อู๋ม่งต๊ะ "
ด้วยความสำเร็จของหนังค่ายเดียวกันของ Win 's Entertainment อย่าง คนตัดคน (God of Gamblers ) และ คนตัดเซียน (All for the Winner)
จึงเกิดการรวมจักรวาลกันของหนังสองเรื่องเกิดเป็น คนตัดคน ภาค 2 (God of Gamblers 2) ทำให้โจวซิงฉือได้มาร่วมงานกับหลิวเต๋อหัว
ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวของทั้งคู่ รวมถึงความดังของหนังทั้งสองเรื่องทำให้ คนตัดคน 2 ทำรายได้ถล่มทลายทั่วเอเชีย และโจวซิงฉือก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นพระเอกหนังตลก (Comedy)อันดับหนึ่งของฮ่องกง
หนังส่วนใหญ่ของโจวซิงฉือนั้น เขามักจะได้รับบทล้อเลียนตัวละครในวรรณกรรม เช่น อุ้ยเสี่ยวป้อ จอมยุทธเย้ยยุทธจักร (Royal Tram 1,2 /1992)
ถังไป่หู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ ( Flirting Scholar,1993) พยัคฆ์ไม่ร้าย คังคังฉิก (Forbidden City Cop ,1996)
หนังล้อเลียนเจมส์ บอนด์ อย่างพยัคฆ์ไม่ร้าย 007 (From Beijing with Love , 1994) ฯลฯ
ผลงานส่วนใหญ่ในช่วงหลังของโจวซิงฉือ นอกจากจะแสดงเองแล้วเขายังรับหน้าที่เป็นผู้กำกับด้วย
นั่นทำให้เราได้เห็นสไตล์หนังที่เป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของโจวซิงฉือมากขึ้น
ด้านความรัก โจวซิงฉือ มีข่าวกับสาวๆหลายคน ซึ่งส่วนมากจะเป็นนางเอกที่ได้ร่วมแสดงหนังกับเขา
ทั้งหลัวฮุ่ยเจวียน แฟนคนแรกของโจวซิง ที่ได้ร่วมแสดงละครร่วมกันทางสถานีทีวีบี ก่อนจะแยกทางกันในปี 1992
คนที่สอง คือ จูอิน (นางเอกในดวงใจของแอดมิน)
ทั้งสองเริ่มคบหากันจากหนังเรื่อง "คนเล็กนักเรียนโต" ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แม้จะไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งสองก็มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เสมอ
คนที่สามคือ ม่อเหวินเหว่ย นางเอกเรื่อง "คนเล็กกุ๊กเทวดา" ซึ่งโจวซิงฉือคบกับม่อเหวินเหว่ย ยาวนานเกือบสิบปี (1994-2002)
คนที่สี่และห้าคือ จางป๋อจือ และ จ้าวเหว่ย แต่งสองคนหลังนี้เป็นเพียงกระแสข่าวว่ากุ๊กกิ๊กกันช่วงหนึ่งเท่านั้น
นางเอกในวงการที่เคยมีข่าวกับโจวชิงฉือ
ด้านการทำงาน โจวซิงฉือเป็นคนที่จริงจังกับงานมาก
จนทำให้เขามีข่าวและภาพลักษณ์ที่ไม่ดี
มีข่าวลือว่าเขาบังคับให้จางป๋อจือโกนผมเพื่อเล่นหนังให้เขา(น่าจะเป็นเรื่องนักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ ก่อนจะเปลี่ยนคนแสดงเป็นจ้าวเหว่ย) หรือการที่เขามีปัญหากับ ตู้ฉีฟง (ผู้กำกับ) เพราะโจวซิงฉือสั่งดัดแปลงบทหนังโดยไม่ขออนุญาต
ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน โจวซิงฉือมักจะถูกโจมตีอย่างหนักว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัว
เขาไม่ค่อยมีเพื่อนในวงการบังเทิงฮ่องกงมากนัก
เขาร่วมงานกับ ตู้ฉีฟง (ผู้กำกับ) ก็มีปัญหา
หวังจิง เพื่อนนักแสดงที่ร่วมงานกับโจวซิงฉือมานานก็บอกว่าเขาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง
ร่วมงานกับUniversal International ในหนังเรื่องนักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ ก็มีปัญหาฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์กัน
นั่นเป็นเพียงกระแสข่าวที่ออกมาจากบุคคลต่างๆ
แต่ก็มีนักแสดงบางคนออกมาแก้ข่าวให้เขา ซึ่งก็คือ
ม่อเหวินเหว่ย อดีตคนรักของเขานั่นเอง
เธอบอกว่าโจวซิงฉือเป็นคนเทคแคร์ผู้อื่นดีมาก
เพื่อนนักแสดงที่ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับโจวซิงฉือก็น่าจะเป็น เหลียงเฉาเหว่ย
เพราะโจวซิงฉือเป็นคนชวนเหลียงเฉาเหว่ยมาสมัครเรียนการแสดงที่ทีวีบี
แม้ทั้งคู่จะไม่ค่อยได้ออกงานร่วมกันสักเท่าไหร่
มีข่าวออกมาอีกว่า โจวซิงฉือนั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มมาเฟียที่มีอิทธิพลของวงการหนังฮ่องกง
นั่นเพราะว่าเขาดันไปสนิทกับอัลเบิร์ต เหลียง ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในวงการหนังฮ่องกง
บวกกับข่าวที่เขาถูกปฏิเสธไม่ให้ย้ายไปแคนาดาเพราะมีคดีติดตัว
หากตัดทิ้งเรื่องนิสัยส่วนตัว ซึ่งผู้ชมอย่างเราไม่มีข้อมูลพอจะตัดสินได้ โจวซิงฉือก็นับเป็นบุคคลอัจฉริยะคนหนึ่งในวงการบันเทิง
เขาคือหนึ่งในนักแสดงไม่กี่คนของฮ่องกง ที่มียอดรายได้รวมของหนังทุกเรื่องที่แสดงเกินหนึ่งพันล้านเหรียญฮ่องกง เขาเป็นทั้งนักแสดง คนเขียนบท ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์
ผลงานที่ดีที่สุดของโจวซิงฉือในมุมมองของแอดมิน ขอยกให้ 2 เรื่อง คือ นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ และ คนเล็กหมัดเทวดา
เหตุเพราะ มุกตลกในนักเตะเสี้ยวลิ้มยี่นั้นยอดเยี่ยมมาก มันลงตัว บ้าบิ่น มุทะลุและสอดคล้องกับหนัง
(น่าจะเป็นไม่กี่เรืองที่ทีมพันธมิตร พากษ์แล้วไหลลื่น)
ส่วนคนเล็กหมัดเทวดา ที่โจวซิงฉือทำเพื่อเคารพ
"บรูซ ลี" นั้น ผมชอบจังหวะการเล่าเรื่องของหนัง
เป็นหนังที่ผมคิดว่าไม่ต่อยตลก แต่เด่นที่การเล่าเรื่อง จังหวะ ลำดับภาพ ดนตรีประกอบ รวมถึงคาแรคเตอร์และพัฒนาการของตัวละคร
ตอนนี้คาดว่าโจวซิงฉือน่าจะวางมือจากการแสดงแล้ว
แต่ผลงานของเขาก็ยังเป็นที่กล่าวถึงอยู่เสมอ
ผมจะไม่สรุปว่าโจวซิงฉือเป็นคนอย่างไร ?
เพราะทุกคนย่อมต้องมีทั้งมุมที่ดีและไม่ดี
เปรียบเหมือนโลกกับพระจันทร์
ยามที่ส่วนหนึ่งสว่าง ก็ จะมีส่วนที่มืดมน
ชีวิตส่วนตัวของโจวชิงฉือ อาจมีดีบ้าง เลวบ้าง ปะปนกันไป
ทุกสิ่งล้วนหล่อหลอมมาจากประสบการณ์บางอย่าง
พรสวรรค์และความสำเร็จบางครั้งต้องแลกด้วยต้นทุนที่สูง ซึ่งมันอาจส่งผลให้เขามีบางมุมที่ผิดไปจากภาพที่เห็นในการแสดง
แต่นั่นก็คือธรรมชาติของชีวิตที่บูดเบี้ยวและไม่สมบูรณ์
ชีวิตที่มีปลายทางคือคำอำลาและการสาปสูญ
ที่ต่อให้มีชื่อเสียงแค่ไหน...ทุกคนก็จะถูกลืม
1
ข้อมูลจากเพจ "เก้ากระบี่เดียวดาย"
รูปภาพจาก :
1
โฆษณา