1 ต.ค. 2019 เวลา 04:27 • สุขภาพ
งานวิจัยระดับโลก เรื่อง ผลกระทบ PM 2.5 เเละ PM 10 ต่อสุขภาพ ผลลัพธ์เป็นอย่างไรน่ากลัวเเค่ไหน????
https://hcm-jinjer.com/thai-media/tips/th-190118-whatshoulddoforpm25/
เนื่องด้วยช่วงสัปดาห์ ที่ผ่านมา ตัวฝุ่นละออง PM 2.5 เรึ่มกลับมาเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งซึ่งทำให้ผู้คนตื่นตัวต่อเรื่อง ผลกระทบของฝุ่นชนิดนี้ต่อเรื่อง สุขภาพอย่างมาก !!!
เเล้ว PM 2.5 กับ PM 10 คืออะไร??
PM ย่อมาจาก Particulate Matters เป็นคำเรียกค่ามาตรฐานของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ PM 10 และ PM 2.5 ส่วนตัวเลข 2.5 นั้นมาจากหน่วย 2.5 ไมครอนหรือไมโครเมตร เเละ 10 ไมครอนหรือไมโครเมตร หรือก็คือ
PM 2.5 คือ ฝุ่นขนาดไม่เกิน 2.5 ไมโครเมตร
ส่วน PM 10.0 ก็คือ ฝุ่นขนาดไม่เกิน 10 ไมโครเมตร
1
https://www.honestdocs.co/pm-2-5-environmental-nano-pollutants
ในเเง่ของเรื่องสุขภาพ เนื่องด้วยขนาดฝุ่นที่เล็กมากจึง สามารถเข้าไปสะสมในอวัยวะสำคัญต่างๆทั้ง ปอด หรือ หัวใจซึ่งคาดการ์ณว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่สูดดม
1
เเล้วเรามีหลักฐานทางการเเพทย์เเค่ไหนในเรื่อง ผลกระทบ ของ PM ต่อสุขภาพ???
ล่าสุดได้ เมื่อวันที่ 22 เดือนสิงหาคม ปี 2019 ได้มีวารสารการเเพทย์ New england journal medicine ซึ่งเป็นวารสารการเเพทย์อันดับต้นๆของโลกได้ตีพิมพ์ ผลงานวิจัย เกี่ยวกับ เรื่อง PM 2.5 เเละ PM 10 ต่อเรื่องสุขภาพ !!!!
https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa1817364?query=featured_home
งานวิจัยนี้เก็บรวมรวบ ข้อมูลจาก 652 เมืองทั่วโลกเเละใช้ฐานข้อมูลของโรงพยาบาลในเมืองนั้นๆมาร่วมในงานวิจัย
งานวิจัยนี้ใช้วิธีการสถิติ มาหาความสอดคล้องระหว่าง อัตราการตาย(mortality rate) กับความเข้มข้นของ ฝุ่นในพื้นที่ โดยที่มี อัตราการตายมีทั้ง จาก ระบบ ทางเดินหายใจ จากโรค หัวใจ เเละ รวมๆทุกสาเหตุ (overall mortality rate)
โดยผลลัพธ์สรุป เเสดงด้วยกราฟด้านล่าง
https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMoa1817364?query=featured_home
กล่าวโดยสรุป จากกราฟ ก็คือ ยิ่งเมืองไหนมีความเข้มข้นต่อพื้นที่ ของ pm 2.5 เเละ pm 10 มากขึ้นเท่าใด ประชากรในพื้นที่นั้นจะมีอัตราการตาย (mortality rate) มากขึ้นนั่นเอง!!!!!
ซึ่งในตัวงานวิจัยยังมีรายละเอียดอีกมากนะครับ ใครสนใจสามารถดาวน์โหลดอ่านได้ที่ลิ้งค์ท้ายบทความนะครับ
สุดท้าย ผมว่าปัญหานี้เป็นปัญหาสำคัญที่จะมีผลต่อสุขภาพชาวไทยไปอีกนาน เเละการเเก้ปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคมไม่ใช่เเค่คนใดคนหนึ่งจะเเก้ได้
1
ผมก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงปัญหานี้มากขึ้นเเละช่วยกันหาทางออกร่วมกัน เพื่ออนาคตเราจะได้อากาศดีๆกลับคืนมาดังเดิมนะครับ
หวังว่าผู้อ่านจะสนุกเเละได้ความรู้นะครับ
https://www.pinterest.com/pin/393924298627733755/
โฆษณา