2 ต.ค. 2019 เวลา 23:25 • ไลฟ์สไตล์
ฮิโนกิแลนด์-ปราสาทญี่ปุ่น(จำลอง)
อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
ฮิโนกิแลนด์เปิดให้ชมมาเกือบปีแล้ว ตั้งแต่ต้นตค.ปีที่แล้ว ช่วงแรกคนก็หลั่งไหลมาชมปราสาทฮิโนกิเนืองแน่นรถติดยาว เรียกว่าใครมาเชียงใหม่ต้องแวะไปชม...เพราะไม่ใกล้-ไม่ไกล
ห่างจากเชียงใหม่-หรือเชียงรายเพียง 2 ชม.
มีช่วงหนึ่งกลายเป็นข่าวดังเพราะฮิโนกิแลนด์ติดบัญชีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของเชียงใหม่ คนออกมาดราม่าว่าไม่ควรอยู่ในบัญชีเป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมนะ..สุดท้ายก็หลุดจากบัญชี...ว่ากันไป
ถึงช่วงมีนาคม-ตุลาคมนี้ เจ้าของเปิดให้ชมฟรีเพราะเก็บค่าเข้าชมพอส่งดอกเบี้ยที่กู้มาก่อสร้างแล้ว..
เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวชิม-ช้อป-ใช้ วันหยุดนี้เลยแวะเข้าไปชมความสวยงามและสูดกลิ่นหอมว่าจริงอย่างเขาว่ารึเปล่าน๊าา...
ประตูโทริอิสีแดง 88คู่
เมื่อมาถึงแล้วก็2มือล้วงกระเป๋าเดินเข้าประตูใหญ่กัน..
โคมแดงขนาดยักษ์ทางเข้าปราสาท
ที่นี่ได้จำลองสถาปัตยกรรมโบราณและวัฒนธรรมญี่ปุนไม่ว่าโคมแดงขนาดยักษ์จำลองจากวัดอาซากุสะแห่งโตเกียว ซุ้มประตูประตูโทโรอิสีแดง 88 คู่จากวัดฟูชิมิอินาริที่เกียวโตที่เชื่อว่าเมื่อได้ลอดจะมีโชค ปราสาทญี่ปุนที่จำลองจากปราสาทของโชกุน โดยมีขนาดใหญ่กว่าต้นแบบมาไว้ที่นี่.ี่ถ้ามาเวลาเย็นๆปราสาทรับแสงอาทิตย์อัสดงและสะท้อนเงาจากน้ำเหมือนปราสาททอง..ตามรูป..แต่แอดยังไม่เคยไปสัมผัสของจริงที่ญี่ปุ่นนะ..
ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ปราสาททำจากไม้สนฮิโนกิ ที่แปลว่า "ไม้แห่งไฟ"ทั้งหลัง เป็นไม้สนฮิโนกิที่มีกลิ่นหอมจากน้ำมันมีกลิ่นหอมระเหยเจือจางอ่อนๆ
ตัวปราสาทมี 4 ชั้น ชั้นล่างระดับดิน ใช้ทำการต่างๆ ทั้งเก็บวางรองเท้า ให้เดินดูรอบๆ เสาปราสาทเป็นไม้ต้นโตขนาดคนโอบ บันไดทำจากไม้ท่อนแปดเมตรหนาแปดนิ้ว 24 ท่อน
การเดินขึ้นไปบนปราสาทจึงย่ำย่างบนบันไดไม้ท่อนตันๆแท้ๆ หนา 8 นิ้ว ยาว 8 เมตร ว่ากันว่า ราคาต้นละสามล้านเข้าไปแล้ว ประตูเข้าบานใหญ่สูงสามเมตรหมุนเปิดสะดวกด้วยลูกหมุนจากเยอรมัน..หหุ หน้าบานประตูสองข้างหุ้มปิดด้วยแผ่นทองแดง แกะสลักเป็นรูปป่าหิมพานต์ ฝีมือช่างล้านนาสวยงามมาก
ชั้นสองนี้เริ่มมีระเบียงให้ชมวิวรอบๆให้เห็นสภาพปราสาทที่โอบล้อมด้วยภูเขา ด้านตะวันตกและเหนือเป็นทิวหินปูนบ้าง ซึ่ง่จะทอดยาวไปถึงเขาถ้ำหลวงนางนอน จ.เชียงราย อันโด่งดัง
วิวหมู่ปราสาทญี่ปุ่นโอบล้อมด้วยขุนเขา
ชั้นสามประดิษฐานรูปแกะสลักเจ้าแม่กวนอิมที่แกะจากไม้ฮิโนกิทั้งองค์ให้กราบไหว้และเดินรอบปราสาทเพื่อชมวิวที่สูงขึ้น อีกระดับ
บนชั้นสี่ประดิษฐานพระพุทธชินราชที่มีแผ่นทองแดงแกะสลักเป็นภาพเทวดาแวดล้อมอยูเป็นฉากหลัง
ห้องยังหอมอบอวลด้วยกลิ่นหอมจางๆจากไม้ฮิโนกิ ผู้มาชมที่ส่วนมากจะนั่งพักเหนื่อย ชมความงามและพิสูจน์กลิ่นหอมของไม้ฮิโนกิ ก่อนจะออกไปชมวิวอ่างน้ำ ทิวเขา ป่าไม้รอบๆริมระเบียง
พื้นที่รอบปราสาทขุดเป็นบึงน้ำเลข 8 อ่างน้ำกินเนื้อที่ 8ไร่..อีกแล้ว กินอาณาบริเวณรับลมและน้ำจากยอดเขา มีเลี้ยงปลาคราพไว้ 5 พันตัว และมีจัดสวนดอกไม้ สวนหิน ปลูกสนและซากุระไว้ข้างล่างบ้าง แต่พื้นที่ไกลออกไปเป็นสวนของชาวบ้านรอบๆ เนื้อที่ก่อสร้างทั้งหมด 83ไร่ จึงเสมือนเศษเสี้ยวนึงของอาณาบริเวณในหุบเขาที่รายล้อม
ปราสาทฮิโนกิแลนด์นี้เป็นของคุณอนิรุทธิ์ จึงสุขประเสริฐ คนศรีษะเกษจบป.4 เคยจากครอบครัวไปหางานทำที่ญี่ปุ่น-เล่าว่าไปทำงานร้านอาหาร ล้างผักในครัวต่างๆทำงานอยู่ 19ปี จึงกลับมาทำธุรกิจในไทย ความประทับใจและฝังใจกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นจึงนำเข้าไม้สนฮิโนกิจากลาวบริเวณ อยู่ชายแดนลาว-จีนเพื่อมาสร้างบ้านพัก
เพราะไม้สนฮิโนกิจะขึ้นบริเวณนั้นมีอุณหภมิเพียง12-15องศาและอยู่สูงถึง 1600-1900 เมตรจากระดับน้ำทะเลเรียกว่าที่สูง มีอากาศหนาวเย็น ไม้ฮิโนกินนี้ต้องรอโตถึง 30ปี จึงจะมีกลิ่นหอมระเหยจากยางออกมาน่าจะคล้ายกับไม้เกี๊ยะบ้านเราที่ใช้เป็นเชื้อไฟ เพื่อให้มีต้นโตให้ได้ขนาดสำหรับทำเสาและไม้พื้นบ้านก็ต้องอายุ 100 ปีทีเดียว
เมือสะสมไว้พอเพียง คุณอนิรุทธิ์จึงเริ่มสร้างบ้านหลังเล็กเป็นที่พักอาศัยเป็น"บ้านไม้หอมฮิโนกิ"ในอำเภอไชยปราการ เมื่อสิบปีที่แล้วโดยใช้พักอาศัย ค้าขายและเปิดให้เข้าชมด้วย ต่อมา สามปีก่อนจึงสร้างปราสาทหลังนี้บนเนื้อที่ 83ไร่ด้วยงบประมาณ1200ล้านบาท โดยคุณอนิรุทธ์ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างด้วยตัวเอง
ก่อนกลับชิมกาแฟ ไอศครีมรสชาดเมืองโตเกียวซะหน่อย ไว้เปรียบเทียบเผื่อจะได้ไปญี่ปุ่นอีกที ..ออิ
แวะเข้าอาคารสไตล์ญี่ปุน มีของที่ระลึกขายอยู่หลายอย่าง ที่เกี่ยวกับไม้ฮิโนกิก็คือเครืองไม ้เตียง ตั่ง ที่นั่งทำด้วยไม้หอม และผลิตภัณฑ์ไม้หอมที่นำมาทำเป็นหมอนและที่นอนเหมือนลูกกลอนนวดหลัง นัยว่าแก้ปวดหลัง ทั้งมีสบู่ ยาสระผม ครีมนวด น้ำมันหอมระเหย เรียกว่าใช้ทุกส่วนทำผลิตภัณฑ์ได้นานาชนิดจริงๆ
ที่น่าสนใจก็คือผลิตภัณฑ์จากไม้หอมเหล่านี้ใช้แรงงานชาวบ้านราว 1200 คนในพื้นทีใกล้เคียงเช่นอ.ไชยปราการ อ.ฝาง อ.พร้าว อ.แม่แตง ทำเป็นอาชีพเสริมให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ทำงานหนักแล้วก็ต้องพักผ่อนร่างกายและจิตใจ...ท่านว่าร่างกายต้องการอาหารดี อากาศดีและการออกกำลังกายแล้ว จิตใจก็ต้องการเสริมสร้างพลังจิต
บางคนอาจทำสมาธิ ไปวัดทำบุญ ท่องเที่ยวที่ตัวเองสนใจ... ให้จิตใจได้ผ่อนคลายอารมณ์จากหน้าที่การงานที่เคร่งเครียด แล้วจะได้กลับมาลุยงานต่อไปได้..
การท่องเที่ยวแถบไชยปราการยังมีจุดให้แวะพักมากมายทั้งสถานที่-ร้านค้า-ร้านอาหาร-กาแฟได้ชิลๆ
ไม่ว่าดอยอ่างขาง-เพื่อปิกนิค-กางเต้นพัก-อาบน้ำพุร้อนฝางรึดอยผ้าห่มปกในปัจจุบัน-บ้านโกหลักชิมอินทผลัม-ร้านอาหารก็มีหลากหลายสไตล์-สุกี้เก้าชั้นบ้านดินเล่าจางสไตล์จีนยูนนานทางขึ้นอ่างขาง-ร้านข้าวซอยคุณแม่ทางไปแม่สรวยจะแวะออกรอบกอล์ฟก็ได้-ร้านปูเป้-จะมีกาแฟชิลๆ-หวังว่าเพื่อนๆหลังเที่ยวจะได้กลับบ้านไปทำงาน-ลัลลา..อย่างสดชื่น-ปลอดโปร่ง
โฆษณา