แนะนำหนังสือ The Factfulness จริงๆแล้วโลกดีขึ้นทุกวัน
เป็นหนังสือที่ถือได้ว่าเปิดมุมมองแอดมากพอสมควร ขอเคลมก่อนว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่บิล เกตส์ ซื้อแจกนักศึกษาจบใหม่ทุกคนในอเมริกากันเลยทีเดียว
หนังสือพูดถึงสัญชาตญาณที่ลวงตามนุษย์เราให้เข้าใจโลกนี้แบบผิดๆมาโดยตลอด ผู้เขียนจะหาข้อมูลกราฟ สถิติต่างๆของบนโลกใบนี้ ให้เราเห็นภาพมากขึ้น ว่าจริงๆแล้วโลกมันดีขึ้นทุกวัน
มีแบบสอบให้ทำเล่นๆก่อนอ่านค่ะ เพื่อวัดว่าคุณเข้าใจโลกนี้ดีแค่ไหน เช่นประชากรโลกจำนวนเท่าไหร่ที่เข้าถึงไฟฟ้า A.ร้อยละ20 B.ร้อยละ50 และ C.ร้อยละ80
คำตอบคือ B.ร้อยละ 50
ทั้ง13ข้อปรากฎว่า มีเพียง7%เท่านั้นที่ตอบถูก นั่นหมายความว่ามีคนจำนวนมากบนโลกใบนี้ยังเข้าใจโลกผิดไปมาก (รวมถึงแอดด้วย)
-ตัวอย่างปัจจจัยความเข้าใจผิดของเราเกิดจากหลักสูตรการเรียนในสมัยก่อนที่เอามาสอนใช้ในปัจจุบัน ซึ่งสถิติ เนื้อหา มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว เลยทำให้คุณยังติดภาพความคิดอยู่แบบนั้นเรื่อยมา
-เรามักเข้าใจว่าประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศที่ยังไม่พัฒนา อยู่ห่างไกลกันมากและคิดว่าประเทศส่วนใหญ่อยู่ในกรอบของ ‘กำลังพัฒนา’ เปรียบเสมือนล่างสุดและบนสุด
ข้อมูลนี้เป็นเรื่องจริงแต่เกิดขึ้นเมื่อปี 1965 แต่ปัจจุบันนี้(ข้อมูล2017)พบว่าหลายประเทศอยู่ระหว่างตรงกลาง ไม่มีการแบ่งแยกรวยหรือจนชัดเจน
มันทำให้รู้ว่าในขณะที่โลกเปลี่ยนแปลงไป มุมมองมนุษย์ที่มีต่อโลกกลับไม่เปลี่ยนด้วย
-มีการแบ่งระดับรายได้คนออกเป็น4ระดับชัดเจน จากที่รายได้น้อยมากๆไปจนถึงรวยมากๆแล้ว เมื่อก่อนคนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ระดับ1 แต่ปัจจุบันประชาการส่วนใหญ่อยู่ในระดับกลาง 2-3 ซึ่งดีกว่าเมื่อก่อนมากๆ
-สัญชาตญาณที่เรากลัวสงครามและความรุนแรงมากเกินไปซึ่งปัจจุบันมีไม่กี่ประเทศที่มีสงครามอยู่ ในขณะที่สามีที่ฆ่าภรรยาเกิดขึ้นทุกวัน และมีอัตราการตายและความเสี่ยงสูงกว่าเสียอีก
-สื่อต่างๆมักนำเสนอเรื่องหดหู่ให้เราเห็นทุกวันจนเราคิดไปว่าโลกนี้แย่กว่าเมื่อก่อนมาก เช่นพาดหัวข่าวว่าเด็กแรกเกิดตายทั่วโลก 4 ล้านคน ฟังดูอาจเยอะจนน่าตกใจ แต่จริงๆแล้ว สมัยก่อนตัวเลขอยู่ที่ 14 ล้านคน นั่นหมายความว่าตัวเลขมันดีขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันตัวเลขนี้ถือว่าต่ำที่สุดแล้วตั้งแต่สถิติโลกเคยมีมา
แอดชอบประโยคหนึ่งของผู้เขียนคือ “ผมขอให้คุณมองเรื่องแต่ละเรื่องที่อยู่เบื้องหลังสถิติด้วย เราไม่สามารถเข้าใจโลกได้โดยไม่มีตัวเลข แต่เราก็ไม่สามารถเข้าใจโลกได้ด้วยตัวเลขเพียงอย่างเดียว”
หนังสือจะหยิบความเข้าใจผิดของมนุษย์มาแล้วอธิบายความจริงจากข้อมูลสถิติทั้งหมดรวมถึงบอกวิธีรับมือและแก้ไขความเข้าใจผิดนี้
หนังสือยังสอนให้เราปรับทัศนคติที่มีต่อโลกนี้ใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม แม้ข้อมูล กราฟ สถิติต่างๆ ก็อาจทำให้เราพลาดต่อการเข้าใจความเป็นจริงต่อโลกได้ ต้องพิจารณาข้อมูลดีๆ
หากหลายคนบอกว่าการมองโลกให้ดีคือโลกสวย คงเข้าใจผิดไป เพราะจริงๆคำว่าโลกสวยคือคำว่าไร้เดียงสา หรือหัวอ่อน แต่โลกสวยของผู้เขียนคือการนำเสนอข้อเท็จจริงที่ว่าสิ่งต่างๆบนโลกนี้มันดีขึ้นเรื่อยๆอย่างเป็นเหตุและผล ใช้ข้อมูลถกประเด็นไม่ได้คิดไปเองแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้แม้จะบอกว่าทุกอย่างกำลังดีขึ้น ไม่ได้หมายความว่า ให้เราไม่ต้องกังวล หรือมองข้ามเรื่องแย่ๆไป ผู้เขียนไม่สนับสนุนให้มองข้ามปัญหาเลวร้ายต่างๆนี้ แต่อยากให้มองถึงสิ่งต่างๆนั้น ทั้งแย่อยู่และกำลังดีขึ้นไปพร้อมๆกันได้
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ
4 ตุลาคม 2562
ท่านเด็ก
- 17
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
