9 ต.ค. 2019 เวลา 08:49 • ปรัชญา
"การฟัง" เรื่องที่ใครๆก็รู้... แต่ทำไม.. ทำไม่ง่าย
ต้องบอกว่าเราไม่ใช่นักฟัง หรือผู้ฟังที่เก่งนัก
ยอมรับว่าหลายๆครั้ง เราพูดมากกว่าฟังซะอีก
และมันเกิดคำถามซ้ำแล้วซ้ำอีกเสมอ
หลังจากจบบทสทนาแต่ละครั้ง ว่า.....
"เราได้อะไรจากการสนทนาครั้งนี้บ้าง"
และคำตอบที่ดัง ชัด และก้องอยู่ในหัว คือ...
"มีแต่เรื่องของตัวเอง"
ขณะที่คู่สนทนาพูดเรื่องตัวเค้า
เราก็เอาแต่คิดว่า......
ถ้าเป็นเราจะทำแบบนี้
เออ.. ทำไมคิดแบบนี้ มันไม่ค่อยโอเคนะ
เห้ยดีจัง เราก็ทำเหมือนกันและต่อด้วยเรื่องตัวเอง
หรือบางทีก็.. เธอต้องทำแบบนี้ซิ แล้วจะดี เชื่อเรา
เชื่อว่าหลายคนคงเป็นแบบเดียวกัน
หรือเคยเป็นมาก่อน
วันนี้เรารู้แล้วว่าเราไม่ใช่ผู้ฟังที่ดีเลย
และทำให้เรารู้ว่า
เราพลาดมากในบนสนทนากับหลายๆคนที่ผ่านมา
หลายครั้งที่ได้มีโอกาสคุยกับคนที่น่าชื่นชม
มีชีวิตที่น่าสนใจ หรือแม้แต่คนที่กำลังเศร้า
แต่เรากับพลาดเรื่องราวดีดีไป
และกลับบ้านมามือเปล่าบ่อยๆ
และเมื่อเรารู้ว่าเราไม่ใช่นักฟังที่ดีนัก
รู้ปัญหาที่เกิดขึ้น
จึงเกิดเป็นกระบวนการที่จะนำตัวเองสู่การแก้ไขตัวเอง
ขั้นแรกเรายอมรับกับตัวเองอย่่างตรงไปตรงมาก่อน... ว่ามันเกิดขึ้นได้ มันเป็นสิ่งที่เราแก้ไขได้ แค่วันนี้เรายังพลาด เราไม่เก่งเรื่องฟังคนอื่นเลยไม่ได้หมายความว่าอนาคตเราจะเป็นแบบนี้ตลอดไป มาแก้ไขกันเถอะ 👌
ขั้นที่สองเรา เกิดคำถามในใจ
แล้วทำยังไงถึงจะเป็น "ผู้ฟังที่ดี"?
อยากเป็นผู้ฟังเหมือนคู่สนทนากับเราบางคน
ที่ตั้งใจฟังเรามากๆ มีแต่มวลพลังงานดีดี
จากการสนทนา รู้สึกสนุกเวลาได้คุยกับบางคน ทั้งๆที่้เราเป็นผู้พูดซะมากกว่า
จนนำไปสู่ขั้นที่สาม คือ หาคำตอบจากคำถามที่2 เพื่อเราจะแก้ไขต่อไปได้ มันจะได้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่มโนว่าจะเปลี่ยนแปลงแต่ไม่ลงมือทำใดใด
เมื่อหาคำตอบ ก็ได้พบกับวิดีโอในยูทูป บทความต่างๆมากมายที่น่าสนใจ จนได้คำตอบว่าจะเริ่มยังไงดี นั่นก็คือ "เราต้องฝึกการฟังเชิงรุก"
การฟังเชิงรุก คือ
👂ฟังด้วยใจ ไม่ใช่แค่หู ไม่ใช่แค่ความคิด
แต่ฟังให้ลึกถึงใจผู้พูด ว่าทำไมเค้าถึงคิด ถึงทำ
ถึงตัดสินใจแบบนั้น อะไรขับเคลื่อนเค้าให้ทำสิ่งนั้น ฟังเพื่อจะรับความรู้สึกของผู้พูด เปิดสัญญาณเผื่อจะได้จูนกันในช่องคลื่นความถี่เดียวกัน
👂ฟังด้วยความอดทน
ไม่ว่าอยากจะตอบแค่ไหน จงอดทนฟังให้จบ
ฟังให้ลึก และคิดเสมอว่าเรารับบทบาทเป็นผู้ฟัง ไม่ใช่ผู้ตอบคำถาม หรือผู้แก้ปัญหา
👂ฟังด้วยความตั้งใจ หลายครั้งที่เรามักฟัง
แต่ไม่ได้ใส่ใจ เราแค่อยากจะถามและให้คำตอบ เราแค่อยากจะพูด อยากจะเล่า หรืออยากให้จบๆและรอคอยว่าเมื่อไหร่จะถึงตาเราบ้างที่จะได้พูดและสิ่งเหล่านี้มักเห็นชัดเจนผ่านภาษากาย
หลายครั้งเราไม่ได้ตั้งใจฟังมากพอ
และผู้พูดก็รับรู้ได้ ผ่านท่าทาง ผ่านสีหน้า หรือแม้แต่แววตาของเรา
👂สุดท้าย... ฟัังแบบมีสติ
วิเคราะห์สิ่งที่เค้าเล่า ประเมิน
ไม่ได้ให้ประเมินคนที่พูด แต่ประเมินเหตุการณ์ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้พูดเล่า
ลองไปคิดว่าถ้าเรายืนอยู่ในจุดเดียว
กับเค้าจะเป็นยังไง
และส่งเสริมให้เค้าลองคิด
ลองประเมินว่าเค้าจะทำยังไงต่อไปกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น
อย่าฟังเพื่อจะให้คำตอบ หรือ สอน หรือ สั่ง
แต่ฟังเพื่อรับรู้ เข้าใจ และให้ผู้พูดคิดตัดสินใจด้วยตัวเอง
ที่สำคัญ.... จะเป็นผู้ฟังที่ดีได้
เราต้องฝึก ฝึก ฝึกฟังให้เป็น ทำให้บ่อย
ลองจับความคิดตัวเองให้ได้
ว่าเวลาเกิดบทสนทนาระหว่างเราหรือใครก็ตาม
เราคิดอะไรอยู่ตอนนั้น?
ถ้าเราคิดแต่เรื่องตัวเอง
จงเปิดใจออกและสลัดความคิดนั้นทิ้ง
มองไปที่ผู้พูด และตั้งใจฟังใหม่อีกครั้ง
ด้วยใจจริงๆ
และเราจะได้เห็นในสิ่งที่ตามองไม่เห็น
และสิ่งที่เราคาดไม่ถึง
มาฝึกเป็นผู้ฟังที่ดีกันนะคะ 😊
โฆษณา