11 ต.ค. 2019 เวลา 08:30 • สุขภาพ
“ประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน”...หูดับเฉียบพลันโดยไม่ทันตั้งตัว!
เมื่อพูดถึงการเสื่อมของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราก็มักหมายถึงการเสื่อมสภาพที่ใช้เวลานานนับปี แต่สำหรับโรค“ประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน”นั้น มันเสื่อมอย่างรวดเร็วในระยะเวลานับชั่วโมง
ช่วงนี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับดาราดังที่มีอาการหูดับเฉียบพลันจากโรคที่เส้นประสาท ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่า ว่าโรคนี้มันน่ากลัวยังไง!
เมื่อมีภาวะหูดับเฉียบพลันเกิดขึ้น อย่างแรกที่ต้องดูก็คือมันเป็นโรคที่หูส่วนใด?
หูของมนุษย์ประกอบไปด้วย 3 ส่วนตามลำดับจากนอกไปใน นั่นก็คือ
1.หูชั้นนอก : คือส่วนตั้งแต่ใบหูภายนอกไปจนถึงแก้วหู ส่วนนี้มีหน้าที่เป็นทางเดินเสียงเข้าสู่หูส่วนถัดไป
2.หูชั้นกลาง : คือส่วนเล็กๆแคบๆที่อยู่หลังแก้วหู หูส่วนนี้มีหน้าที่เป็นทางเดินเสียงเช่นกัน และยังสามารถขยายสัญญาณเสียงให้ดังขึ้นก่อนไปแปลผลที่หูชั้นใน
3.หูชั้นใน : คือส่วนของเซลล์ประสาทที่จะถอดรหัสเสียงเพื่อส่งกระแสประสาทไปยังสมอง
ดังนั้นก็อาจสามารถแบ่งโครงสร้างหูได้อีกวิธี นั่นก็คือ “ส่วนทางเดินเสียง" ซึ่งเป็นหน้าที่ของส่วนหูชั้นนอกและชั้นกลาง และ”ส่วนแปลสัญญาณเสียง” ซึ่งเป็นหน้าที่ของหูชั้นใน
ซึ่งถ้า”ส่วนทางเดินเสียง”นี้เป็นโรค พวกมันก็จะเผยให้เห็นความผิดปกติชัดเจนเวลาส่องกล้องตรวจหู อย่างเช่น รูหูบวม ขี้หูอุดตัน แก้วหูทะลุ เลือดคั่งหรือหนองคั่งในรูหู เป็นต้น เรียกได้ว่าถ้าหูดับเฉียบพลันจากความผิดปกติของหูชั้นนอกและชั้นกลางนี้ ส่องกล้องเข้าไปดูก็เราจะเห็นสาเหตุได้อย่าชัดเจนทันที เมื่อรู้สาเหตุง่าย การรักษาก็จะง่ายขึ้น ดังนั้นโรคที่ส่วนนี้จึงไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก เป็นมา ก็รักษาไป ก็แค่นั้น!
แต่อย่างไรก็ตาม โรคหูดับเฉียบพลันที่เกิดใน”หูชั้นใน”นั้นกลับไม่สามารถเห็นความผิดปกติได้ง่ายแบบนี้!
ภาวะหูดับเฉียบพลันที่เกิดในหูชั้นในนั้นส่วนใหญ่ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เพราะมันเป็นความผิดปกติระดับ”เซลล์ประสาท” การมองด้วยตาเปล่าไม่มีทางมองเห็นได้อย่างแน่นอน เราเรียกโรคนี้ว่าโรค”ประสาทหูเสื่อมชนิดเฉียบพลัน” หรือบางคนก็จะเรียกว่าโรคหูดับฉับพลัน
สำหรับอาการของโรคนี้ ผู้ป่วยจะสูญเสียการได้ยินอย่างรวดเร็ว บางคนก็เสียแบบฉับพลันทันใด บางคนก็อาจค่อยๆสูญเสียไปในระดับชั่วโมงถึงวัน และส่วนใหญ่มักเป็นข้างเดียว
แม้จะไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็คิดว่าอาจเกิดจากสาเหตุ เช่น การติดเชื้อไวรัสที่เส้นประสาท หูชั้นในขาดเลือดจากลิ่มเลือดอุดตัน ผลข้างเคียงจากยาบางตัว หรือได้รับแรงกระแทกจนหูชั้นในบาดเจ็บ เป็นต้น ซึ่งก็ได้แค่สงสัย แต่ว่าไม่สามารถฟันธงได้หรอกว่ามันเกิดจากสาเหตุใด เพราะเรามองมันไม่เห็น ซึ่งในต่างประเทศ เขาก็จะส่งผู้ป่วยเข้าเครื่องแสกนหูทันที แต่ในประเทศยากจนอย่างเรา เครื่องแสกนราคานับสิบล้านแบบนี้ก็มีอยู่เพียงไม่กี่เครื่องเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็ต้องบอกว่าโรคหูดับเฉียบพลันส่วนใหญ่ต่อให้แสกนสมองแล้วก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้อยู่ดี
ดังนั้นบางทีคุณไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหมอไม่สามารถวินิจฉัยโรคบางอย่างได้ เพราะโรคหลายๆอย่างก็เล่นซ่อนหาเก่งซะเหลือเกิน ตรวจเท่าไรก็ตรวจไม่พบเสียที
โรคนี้เป็นหนึ่งในโรคอีกมากมายที่”ยังไม่รู้สาเหตุชัดเจน” โดยคำว่าไม่รู้สาเหตุชัดเจนนั้นไม่ได้แปลว่าไม่มีสาเหตุ แต่หมายความว่าปัจจุบันความรู้แพทย์ยังไม่ไปถึงตรงนั้น ดังนั้นใครที่เป็นโรคในกลุ่มนี้จึงเรียกได้ว่าโชคร้ายพอสมควร
เมื่อรู้สาเหตุที่แท้จริงยาก การรักษาจึงพลอยยากไปด้วยเช่นกัน จึงต้องรักษาแบบหว่านแหโดยไม่มีความเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด โดยเน้นไปที่การให้ยาแก้อักเสบแบบครอบจักรวาลเพื่อหวังให้โรคที่เส้นประสาทนั้นสงบลง ซึ่งมันก็คือ”ยาสเตียรอยด์”นั่นเอง ซึ่งก็ต้องภาวนาไปด้วยเช่นกัน ว่าขอให้ได้ผล...
และระหว่างการรักษา ก็ให้ผู้หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่อาจเป็นสาเหตุได้เช่น หยุดยาบางตัวที่กำลังใช้อยู่ พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น
สุดท้ายถามว่าอาการแบบนี้จะหายได้หรือไม่ ก็ต้องมาดูว่าการสูญเสียการได้ยินนั้น เป็นในส่วน”เสียงสูง”หรือ”เสียงต่ำ”
ถ้าเสียทั้ง 2 เสียงเลย ก็ถือว่าโชคร้ายมาก เพราะมักหายได้ยาก แต่ถ้าเสียเฉพาะเสียงใดเสียงหนึ่งก็จะมีโอกาสหายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นการสูญเสียเสียงต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม คำว่า”หาย”ก็ไม่ได้แปลว่ากลับมาได้ยินเท่าปกติ ซึ่งผู้ป่วยก็ต้องลุ้นกันไปในแต่ละวันว่าการได้ยินจะกลับคืนมาหรือไม่ โดยระยะเวลาฟื้นตัวนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และโดยทั่วไปถ้าเลย 3 เดือนไปแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็มักลุ้นไม่ขึ้นอีกแล้ว
สุดท้ายนี้ถามว่าเราจะป้องกันโรคแสนน่ากลัวตัวนี้ได้หรือไม่?
ก็ต้องบอกว่าโรคประสาทหูเสื่อมชนิดเฉียบพลันส่วนใหญ่ไม่รู้สาเหตุ เมื่อไม่รู้สาเหตุก็ทำให้ไม่รู้เช่นกันว่าจะป้องกันยังไง แต่เอาล่ะ มันก็มีส่วนน้อยส่วนหนึ่งที่รู้สาเหตุอยู่ อย่างเช่น การติดเชื้อไวรัสที่เส้นประสาท หูชั้นในขาดเลือดจากลิ่มเลือดอุดตัน หรือได้รับแรงกระแทกจนหูชั้นในบาดเจ็บ ซึ่งโรคที่หมอคิดว่าพวกเราควรป้องกันเอาไว้ก็คือโรค”หูชั้นในขาดเลือดจากลิ่มเลือดอุดตัน” โรคนี้ไม่ต่างจาก”โรคเส้นเลือดในสมองตีบ” เพียงแต่มันไปตีบที่หูชั้นในเท่านั้น ดังนั้น การควบคุมความดันโลหิต ระดับน้ำตาล ระดับไขมันในเลือดให้ปกติดี และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยป้องกันทั้งโรคประสาทหูเสื่อมชนิดเฉียบพลันและโรคเส้นเลือดในสมองตีบไปพร้อมๆกันในทีเดียว
สุดท้ายนี้ แม้ปัจจุบันโรคนี้ยังเป็นโรคที่ยังมีความรู้แพทย์เกี่ยวกับมันไม่มากนัก แต่ในอนาคตหมอก็เชื่อว่าโรคนี้จะกลายเป็นโรคๆหนึ่งที่สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้ง่ายๆไม่ยากเย็นอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม แม้โชคดีไม่เป็นโรคประสาทหูเสื่อมชนิด”เฉียบพลัน” แต่ก็ยังมีโรคประสาทหูเสื่อมชนิด”เรื้อรัง”อื่นๆอีกมากมายที่ค่อยๆพลากการได้ยินเสียงไปจากคุณได้ ดังนั้นทะนุถนอมหูของคุณให้ดีๆ อย่าใช้งานพวกมันหนักมากเกินไป มันจะได้อยู่กับคุณไปนานๆครับ!
#Healthstory - เรื่องสุขภาพ ง่ายนิดเดียว
อย่าลืมกดLike&Shareด้วยนะครับ^^
ติดตามเรื่องราวสุขภาพดีๆจากปากหมออีกได้ที่
[R]
UpToDate(แหล่งรวมข้อมูลทางการแพทย์โดยเน้นหลักฐานที่ทันสมัย)
- Sudden sensorineural hearing loss
โฆษณา