11 ต.ค. 2019 เวลา 06:09 • ท่องเที่ยว
การเดินทางสุดสาย BTS สุดประหลาด ด้วยเงิน 16 บาท
: ห้าแยกลาดพร้าว - เคหะฯ
ถ้าจะพูดให้ถูก ต้องเป็นการเดินทางจาก
พร้อมพงษ์ ถึง เคหะฯ
เคหะ ถึง ห้าแยกลาดพร้าว
ห้าแยกลาดพร้าว ถึง อโศก
( อะไรมันจะยากเย็นขนาดนี้เนี่ย 555 )
ผมได้นัดเจอเพื่อนผมที่พร้อมพงศ์
เพื่อจะมานั่ง BTS ให้สุดสาย
เพราะว่า ว่าง และ เบื่อมากๆ
เจอกันเวลาประมาณ 12:30
ขึ้นขบวนก็เวลาเดียวกัน
มาดูว่าทำไม 16 บาทกัน
ผมว่าใครๆก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าตราบใดคุณอยู่ในสถานี
และไม่สอดบัตรเข้าเครื่อง คุณสามารถไปสถานีไหนก็ได้
ขอแค่สถานีปลายทางนั้นต้องตรงกับที่ซื้อไป ( อโศก )
และอายุของบัตรนั้นคือ 1 วัน ดังนั้นมันก็เพียงพอ
ที่จะนั่งเล่นไปสุดสายได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเวลา
ผมเลยซื้อบัตร พร้อมพงศ์ - อโศก ราคาเพียงแค่ 16 บาท
ราคาเดินทาง พร้อมพงศ์ - อโศก
หลังจากที่เจอกันทักทายกับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว
ก็ขึ้นขบวนรถไฟกันเลยดีกว่าครับ!!!
สถาพบรรยากศในรถไฟช่วงแรก
พอเราได้ขึ้นมาบนรถไฟฟ้าแล้ว
ตอนแรกๆแม้จะมีคนเยอะแต่ไม่มาก
พอผ่านไปสัก 3 สถานี ( พระโขนง )
คนก็น้อยลงอย่างที่เห็นตามรูป
ผมก็นึกสนุกกับเพื่อนเล่นๆว่า
มาพนันกันว่า เด็กใส่เสื้อสีชมพู
จะลงสถานีไหน??
ผมพนันว่า แบริ่ง
เพื่อนพนันว่า สำโรง
ผลปรากฎคือ..
บางนา...
ภาพอาจจะไม่ค่อยชัดแต่เด็กเสื้อชมพูกับครอบครัว
ได้ลงสถานี "บางนา" ( เกือบ แบริ่ง แล้วววววว!!! )
สรุป ไม่มีใคร ถูกสักคน แป่ว.....
หลังจากที่ผมกับเพื่อนได้ผิดหวังกับการพนันที่พลาด
รถก็เริ่มคนน้อยมีที่นั่งมากขึ้น พวกเราก็นั่งลง ( เมื่อย )
และผมก็ถ่ายรูปท้องฟ้าบรรยากาศ เพราะเห็นว่ามันเริ่ม
จะออกตัวเมือง กทม. และมันโล่งดี ไม่มีตึกนั้นเอง
มีที่นั่งแล้ว!!!
เริ่มไกลจากตัวเมืองขึ้นทุกทีๆ
ต้นไม้เยอะเชียว แถวๆนี้
แม่น้ำใหญ่โตกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก
หลังจากที่ถ่ายรูปไว้หลายสิบรูป ( คัดมาลงไม่กี่รูป )
เวลาก็ผ่านไป สถานีก็ผ่านไป คนก็น้อยลงมากๆ
ในชีวิตนี้ผมไม่เคยเห็นรถไฟฟ้าคนน้อยขนาดนี้มาก่อน
เพราะว่า ส่วนใหญ่ผมจะวนๆอยู่ที่เดิมตลอดเวลา
ผมก็คุยกับเพื่อนผมว่าทำไม มันเริ่มตึกน้อยลง
มีบรรยากาศไม่เหมือน กทม. หล่ะ?
เพื่อนของผมก็บอกง่ายๆสั้นๆว่า
"สมุทรปราการ แล้ว!!!"
ผมก็เพิ่งรู้ว่าเข้าสมุทรปราการตอนนั้นแหละ 555
ฝรั่งนั่ง alone อยู่คนเดียว
ตอนนี้ก็เวลาประมาณ 13:00 บ่ายเรียบร้อยแล้ว
ผมขอบอกได้เลยว่าถือเป็นช่วงเวลาที่สงบสุดๆ
สงบกว่าห้องที่ผมอยู่ หลับ กิน นอน เสียอีก
ถ้าไม่นับเสียงรถไฟอะนะ 5555 ( นอนเลยดีไหม? )
ขณะนี้เราได้ถึง "เคหะฯ" แล้ว แต่สิ่งนึงที่สดุดตา
ผมมากๆก็คือ "ชานชาลา" ของรถไฟนั้นเอง
เคหะฯ อยู่นี้ไง
ชานชาลาที่สวยงามมาก ใหม่มากๆ
บันไดเลื่อนแคบๆ
บันไดเลื่อนขัดใจผมนิดนึง
เพราะสถานีอื่นๆที่เก่าประมาณนึงแล้ว
บันไดเลื่อนกว้างกว่านี้
แต่ผมก็พอจะเข้าใจว่า
ถ้ารีบก็ลง บันได ธรรมดาๆไป
ถ้าไม่รีบและสบายๆ ก็เลื่อนไป
สถานีดูโล่งมาก
ความโล่งนี้ก็แปลกตานิดหน่อย
เพราะสถานีที่คนเยอะมักจะมี
ร้านค้าข้างๆ เต็มไปหมด
แต่ก็เข้าใจว่า เคหะฯ คงไม่ได้คนเยอะ
บางทีก็แอบหลอนๆนิดนึงนะ 5555
"ไปๆ ไปห้าแยกลาดพร้าวกัน"
มีแต่คำว่า "โล่ง"
สิ่งที่น่าสนใจระหว่างนั่งรถไฟจาก
เคหะฯ - ห้าแยกลาดพร้าวคือ
ได้เห็นช้างเอราวัณ ตัวใหญ่ๆ
สวยงามมากๆ แต่ที่ๆเรานั่ง
หน้าต่างมัน จุดๆ เต็มไปหมด
( จุดๆ โฆษณา บนขบนหน้าต่างรถไฟ )
ช้างเอราวัณ filter หน้าต่างรถไฟ
คนเริ่มเยอะจริงๆและ
พอเข้าถึง "เอกมัย" คนก็เริ่มเยอะขึ้นๆ
พอถึง "อโศก" คนก็เยอะระดับอัดแน่น
ดีนะที่นั่งตั้งแต่ต้นแล้ว เยี่ยม!!!
สยาม ดีใจจังเลย คนเริ่มน้อยลง
ข้ามมา หมอชิต เลยและกัน
ทางด่วน ถนน แถวๆ วิภาวดี
Union ห้างใหญ่ที่ไม่เคยไป และ ยังไม่ไป
ถึง ห้าแยกลาดพร้าวแล้ว!!!
นานสุดตอนนี้เวลา 14:00 แล้ว
สรุปง่ายๆ ถ้าคุณเดินทางสุดสาย
จาก เคหะฯ - ห้าแยกลาดพร้าว
จะใช้เวลา 1 ชั่วโมงพอดีเลยครับ
ห้าแยกลาดพร้าว!!!
ฝนตก ณ ห้าแยก
ภาพบรรยากาศ ห้าแยกลาดพร้าว
ภาพเบลอๆจากกล้องมือถือโดนฝน =-="
ตรงนี้คืออะไรเอ่ย?
หลังจากเดินรอบๆในสถานีที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆนี้
ก็คัดสินใจขึ้นรถไฟฟ้าเพราะก็ทำอะไรไม่ได้มาก
ก็อยู่ได้แค่บนสถานีนี่เนอะ 555
แต่ช่วงขากลับไป "อโศก" ผมสังเกตได้อย่างนึง
หน้าต่าง หัวขบวน กับ ท้ายขบวน จะไม่มี จุดๆ
ส่วนที่เหลือจะมีจุดๆ เต็มหน้าต่าง ดังนั้น
ถ้าคุณอยากถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ ก็นั่ง
หน้าขบวน กับ ท้ายขบวน นะครับ
หน้า และ ท้าย ขบวน
ส่วนที่เหลือ + ฝน = มองไม่เห็น
ระหว่างที่ขบวนจะออก มีนักท่องเที่ยวมาถามทางผม
ถือว่าเป็นโชคดีที่ ผมกับเพื่อน นั้นพูดอังกฤษเป็น
เลยยินดีบอกทางให้ แต่... นักท่องเที่ยวคนนั้น
เป็นชาวเวียดนาม ( สังเกตจากที่เขาใช้ google translate )
พูด และ ฟัง ภาษาอังกฤษไม่เป็น ( ทีนี้ก็เริ่มไปไม่เป็นและ )
ตามที่เขาพยายามจะสื่อ เขาอยากไป สนามบิน สุวรรณภูมิ
ผมก็คิดขึ้นได้ว่า พญาไท มี Airport Rail Link
รถไฟที่ต่อตรงไป สุวรรณภูมิ นั้นเอง ผมก็เลย
ชี้ไปที่สถานีพญาไท ด้วยความหวังว่า "เข้าใจนะ ได้โปรด"
สีแดงตรงเนี่ยๆ อะพี่เวียดนาม
เขาก็ทำท่างง แล้วเหมือนจะสื่อว่า
"ทางอื่นไม่ได้หรอ?"
เราก็พยายามชี้หนักกว่าเดิม
แล้วบอกเป็นภาษาอังกฤษว่า
"Only this way"
หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวก็กลับไปกับกลุ่มเขา
สัญญาณที่ดีที่สุดคือ เพื่อนกับผมได้ยินว่า
"พญาไทๆ" แปลว่า นักท่องเที่ยวเวียดนามคนนั้น
น่าจะเข้าใจ เยสสสสสสส!!!
ผมก็หวังว่าเขาจะลงสถานีนั้นนะ อย่าหลงนะ!!!
ไปๆกลับไปอโศก กินข้าวๆ
อโศก is here กินข้าว is now
ต้มยำ ชาชู เมน เยสสสส!!!
เราก็ตกลงกินข้าวที่ร้าน ฮาจิบัง ราเมง เพราะ
ความรู้สึก อยากกินอะไรที่ ญี่ปุ่นๆ และเสียตังไม่มาก
ผมชอบรสเปรี้ยวเลยสั่งที่เป็นต้มยำอย่างในรูป
"เอ้า!!! กิน"
เหลือแต่น้ำซุป ซากไม่ต้อง
ตอนนี้ก็เวลา 15:00 แล้ว
สิ่งที่ได้จากการเดินทางนี้ก็คือ
"ไม่เคยรู้ว่ารถไฟหนาวขนาดนี้มาก่อน"
ขนลุก!!!
มันจะหนาวไปหนายยยยย!!!
และ เราก็ได้เห็นว่าคนมักจะเยอะช่วง
อโศก และ สยาม ช่วงแถวคนเยอะๆ
ที่ท่องเที่ยว ห้าง แน่นๆ
หลังจากนั้นก็เริ่มเบาบางลง
ส่วน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กับ หมอชิต
จะเป็นแถวท่ารถ คนก็จะลงเยอะเป็นพิเศษ
ซึ่งก็ไม่ใช่อะไรที่น่าจะแปลกใจ
สิ่งที่ทรมานที่สุดคือ โฆษณาบนทีวีรถไฟ
มันซ้ำๆเดิมๆ บางอันก็เป็นเสียงเด็กที่น่ารำคาญมาก
"คิดเร็ว เรียนรู้ไว ปิ้งๆ" ปิ้งๆอะไรนักหนา น่ารำคาญ!!!
โฆษณาเล่นซ้ำมันก็สร้างความรำคาญ
แต่มันก็ทำให้เราจำได้โดยไม่ได้อยากจำมันเลย
ผมบอกเลยว่าการนั่งรถไฟครั้งนี้
เป็นอะไรที่เรียกได้ว่า
ฝึกความอดทนมากกว่าสนุกเสียอีก 5555
แต่ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี
ถ้าคุณอ่านมาถึงจุดนี้ได้
ผมขอคารวะ ผู้อ่านมากๆ
ที่อ่านอะไรยาวๆขนาดนี้ได้ 555
สิ่งสุดท้ายที่อยากจะบอกคือ
"อย่านั่งนาน เดี๋ยวเมื่อย"
"อย่ายืนนาน เดี๋ยวเมื่อยเหมือนกัน"
-CourAge
ปล. ครั้งต่อไปที่ผมจะนัดเพื่อนอีกอาจจะไปนั่ง
MRT รถไฟใต้ดิน ยาวๆเลย
และ รถไฟฟ้า BTS สายสีลม ยาวๆอีกเช่นกัน
ไม่รู้ว่าตอนไหนที่จะได้ทำอีก ก็หวังว่าจะเป็นเร็วนี้ๆ
ไม่ก็ปีหน้าเลย 555 แต่สิ่งที่ผมคิดอยู่คือ
จะถ่ายอะไรใร MRT ว่ะเนี่ยสองข้างทางมืดสนิท 555
ขอบคุณมากนะครับที่อ่านถึงจุดนี้ อิอิ
โฆษณา