ในวันแรกที่เปิดให้บริการ ดิสนีย์พลัสจะมีภาพยนตร์ให้ชมกว่า 300 เรื่อง ทั้งของดิสนีย์ และบริษัทในเครือ ลูคัสฟิล์ม, พิกซาร์ และมาร์เวล โดยรายชื่อของภาพยนตร์ที่จะได้ชมกันก็มี หนังในเฟสสี่ของมาร์เวล ได้แก่ The Falcon and the Winter Soldier, Hawkeye, WandaVision, ซีรีส์ What If? ที่จะว่าด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกแบบหนึ่งในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล โดยตอนหนึ่งในซีรีส์จะว่าด้วยการที่เพ็กกี คาร์เตอร์ กลายเป็นยอดทหาร แทนที่สตีฟ โรเจอร์ส และซีรีส์ของ Loki, ซีรีส์คนแสดงของ Star Wars เรื่อง The Mandalorian กับซีรีส์ตอนแยกของ Rogue One ที่นำแสดงโดยดีเอโก ลูนา, หนังตอนแยกจากชื่อที่ผู้ชมคุ้นเคยกันดี อาทิ High School Musical กับ Monsters, Inc, แอนิเมชันอีก 70 เรื่องจากคลังของดิสนีย์, แอนิเมชันคลาสสิคของดิสนีย์ 13 เรื่อง, หนังจากช่องดิสนีย์อีก 100 เรื่อง, หนัง 18 เรื่องของพิกซาร์ รวมทั้งหนังสั้นอีกมากมาย, ภาพยนตร์และรายการที่เป็นของฟ็อกซ์ อย่าง Alien และ Titanic, หนังโทรทัศน์ทั้งที่ยังออกอากาศ และไม่ออกอากาศ ตลอดจนหนังใหญ่ของมาร์เวล สตูดิโอส์ กับรายการของเนชันแนล จีโอกราฟี ที่หนึ่งในนั้นก็มี Free Solo หนังรางวัลออสการ์รวมอยู่ด้วย
โดยภาพยนตร์หรือรายการที่เป็นของดิสนีย์พลัสเอง ในปีแรกจะมีหนังรวม 10 เรื่อง กับซีรีส์ 25 เรื่อง ซึ่งจะเน้นที่ภาพยนตร์หรือรายการที่ดูได้ทั้งครอบครัว อาทิ Lady and the Tramp กับ The Sword in the Stone ฉบับสร้างใหม่ใช้คนแสดง และหนังใหม่เกี่ยวกับสุนัขลากเลื่อนเรื่อง Togo, หนังเรื่อง Noelle ที่แอนนา เคนดริคจะเล่นเป็นลูกสาวซานตาคลอส แล้วก็ Phineas and Ferb
หนังใหญ่ Star Wars ก็จะมีให้ชมครบทุกเรื่องตั้งแต่ไตรภาคต้นฉบับ แต่กับบางเรื่อง เช่นแอนิเมชันซีรีส์ อาจจะยังไม่ถูกรวมเข้ามา เนื่องจากทางเทอร์เนอร์ บรอดคาสติง เป็นผู้ถือสิทธิ์ในการออกอากาศทางโทรทัศน์เอาไว้
ไอเกอร์มั่นใจมากๆ กับภาพยนตร์และรายการที่ดิสนีย์พลัสสร้างขึ้น เขาได้ชม The Mandalorian ฤดูฉายแรกแล้ว โดยบอกออกมาว่า “ผมประทับใจกับคุณภาพ, ความหลากหลาย และปริมาณ" ของงานที่เป็นการสร้างของดิสนีย์พลัส เขายังพูดถึงหนังที่ดิสนีย์พลัสจะนำมาสร้างใหม่ด้วย โดยในจำนวนนั้นก็มีหนังอย่าง Home Alone, Night at the Museum และ Cheaper by the Dozen