16 ต.ค. 2019 เวลา 09:00 • สุขภาพ
โรคซึมเศร้า...มันมีอยู่จริงๆ
โรคซึมเศร้าไม่ใช่เพียงความรู้สึกเศร้า แต่เป็นที่ยอมรับกันมาเป็นเวลานานแล้วว่ามันคือ”โรค” และคนที่เป็นโรคนี้แล้ว... ก็ต้องถูกเรียกว่า”ผู้ป่วย”
เมื่อสิ่งๆหนึ่งถูกเรียกว่า”โรค” มันแปลว่ามันมีความผิดปกติที่จับต้องได้บางอย่างเกิดขึ้นในร่างกายของผู้ป่วยจริงๆ เป็นความผิดปกติที่ถ้าไม่รักษา ผู้ป่วยจะไม่สามารถหลุดออกจากวังวนนี้ไปได้
แล้วความผิดปกติที่เกิดขึ้นในโรคซึมเศร้าคืออะไร มันคือความผิดปกติที่”วงจรประสาท”ในสมองที่ทำงานเปลี่ยนแปลงไป เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในหลายๆระดับ อย่างเช่น สารสื่อประสาท เป็นต้น เมื่อสมองมีวงจรประสาทที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว มันก็จะไม่ใช่สมองของเดิมของผู้ป่วยอีกต่อไป
จากแต่เดิมที่ผู้ป่วยสามารถควบคุมความคิดของตัวเองได้ มันจะกลับกลายเป็นสมองที่สร้างความคิดขึ้นมาควบคุมผู้ป่วยแทน มันไม่ใช่ผู้ป่วยที่หมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ มันไม่ใช่ผู้ป่วยที่คิดอยู่แต่เรื่องเศร้าๆ เรื่องลบๆ แต่ความคิดเหล่านี้ เมื่อถึงจุดที่สมองควบคุมผู้ป่วยได้เเล้ว มันจะผุดขึ้นมาเอง ผู้ป่วยไม่ได้รู้สึกอยากมีมันเลยแม้แต่น้อย แต่ในทางกลับกัน ผู้ป่วยทุกคนรู้สึกเบื่อ รู้สึกเหนื่อยหน่าย ซ้ำไปซ้ำมาจนถึงมากที่สุด ที่จะต้องมาต่อสู้กับตัวเองทุกครั้งที่มีความรู้สึกแบบนี้ บางทีผู้ป่วยอาจไม่ได้รู้สึกเศร้ากับเรื่องแย่ๆรอบตัว แต่ผู้ป่วยรู้สึกเศร้ากับความรู้สึกตัวเองมากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสมองสร้างความคิดเหล่านี้ป้อนให้ผู้ป่วยอยู่เรื่อยๆ มันก็ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกซึมเศร้ากับเรื่องทุกๆเรื่องที่อยู่รอบตัว มองทุกๆอย่างในแง่ลบไปหมด มันกลายเป็นชีวิตประจำวันของผู้ป่วย ไม่ว่าผู้ป่วยจะพบเจอประสบการณ์ใดๆในชีวิตแต่ละวัน ผู้ป่วยจะสร้างความรู้สึกดีๆต่อสิ่งนั้นๆไม่ได้แม้ว่าจะพยายามมากแค่ไหน ผู้ป่วยจะผูกสิ่งเหล่านี้เข้ากับความรู้สึกลบอยู่ทุกครั้ง มันกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และเมื่อมีความรู้สึกเหล่านี้ในแต่ละครั้ง ผู้ป่วยก็จะควบคุมตัวเองไม่ได้นะครับ ว่าให้หยุดคิดมัน ว่าให้ปล่อยวางมัน ว่าอย่าดาวน์ไปกับมัน เพราะสมองไม่อนุญาติให้ผู้ป่วยต่อต้านความคิดเหล่านี้อีกแล้ว สิ่งที่ผู้ป่วยทำได้ก็คือต้องอยู่ร่วมกับพวกมันต่อไป
เมื่อผู้ป่วยมีแต่ความคิดแบบนี้อยู่ในหัว มันย่อมทำให้ผู้ป่วยไม่มีความสุข มันทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวด ซึ่งถามว่ามันเจ็บปวดมากเเค่ไหน มันก็เจ็บปวดมากเพียงพอที่จะทำให้ผู้ป่วยอยากสร้างความเจ็บปวดทางร่างกายขึ้นมาเพื่อหลีกหนีออกจากความเจ็บปวดทางใจที่มีมากมายกว่าหลายเท่า
ผู้ป่วยรู้สึกว่าการกรีดตัวเองทำให้หยุดคิดเรื่องแย่ๆที่อยู่ในหัวได้ ผู้ป่วยรู้สึกว่าการทำร้ายตัวเองทำให้ลืมเรื่องราวเศร้าๆมากมายที่กำลังล่องลอยอยู่ในหัวได้ แม้เพียงสักวินาทีเดียวมันก็ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นได้ หันมาเจ็บปวดทางกาย มันรู้สึกดีกว่าเจ็บปวดทางใจหลายเท่านัก
นี่คือความน่าสงสารของผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าครับ ถ้าหากคุณมีเพื่อนหรือคนใกล้ตัวที่เป็นโรคนี้อยู่ คุณอย่าคิดว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่มันเป็นเรื่องที่ง่าย คุณไม่สามารถเข้าไปว่าเขาได้ว่าทำไมถึงเป็นคนอ่อนแอ ทำไมถึงไม่สู้ คุณไม่สามารถเข้าไปว่าเขาได้ว่าทำไมถึงรับมือกับเรื่องเล็กน้อยๆแบบนี้หรือแบบนั้นไม่ได้ ถ้ามีสิ่งที่คุณอยากจะทำเพื่อเขาแล้วล่ะก็ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ”การรับฟังเขาให้มากที่สุด” คนๆนั้นเขาจะไม่ใช่คนๆเดิมที่คุณรู้จักอีกแล้ว เพราะเขาถูกบางสิ่งบางอย่างควบคุมจิตใจของเขาอยู่ และสิ่งๆนั้นมันไม่ใช่เวทมนตร์หรือสิ่งที่ไม่มีตัวตน เพราะมันคือวงจรประสาทที่ผิดปกตินั่นเอง
วงจรประสาทนั้นกำหนดได้ทุกอย่าง มันทำให้คนแต่ละคนมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน มันทำให้คนแต่ละคนมีทัศนคติที่แตกต่างกัน มันทำให้คนแต่ละคนมีอารมณ์ต่อสิ่งต่างๆไม่เหมือนกัน มันทำให้คุณเป็นคนที่คุณกำลังเป็นอยู่ แล้วทำไมมันจะทำให้คนๆหนึ่งกลายคนเป็นที่มีแต่ความรู้สึกเศร้าไม่ได้...
แต่อย่างไรก็ตาม ความผิดปกติเหล่านี้ไม่ได้สามารถเกิดขึ้นมาได้เอง มันต้องผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายบางอย่างมาก่อน มันต้องมีความเครียดที่สะสมมากขึ้นมาเรื่อยๆมาก่อน มันต้องผ่านสังคมที่โหดร้ายบางอย่างมาก่อน สิ่งเหล่านี้จึงได้ค่อยๆสร้างวงจรประสาทหรือปีศาจตนใหม่ขึ้นโดยที่ไม่อาจรู้ตัว ซึ่งทุกๆคนก็ต่างต้องเคยเจอประสบการณ์ที่แย่ๆ แต่ละคนก็มีแตกต่างกันไป สิ่งที่เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน อาจเป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับคนอื่นๆ คุณไม่มีทางรู้ว่าคนๆนั้นต้องผ่านอะไรมาบ้างในชีวิตหรอก
ต้องบอกว่าหมอก็ไม่ได้เป็นจิตแพทย์นะครับ หมอก็คงลงรายละเอียดเกี่ยวกับโรคนี้มากมายไม่ได้ แต่หมอได้พบเจอกับผู้ป่วยเหล่านี้มามากมายพอสมควร พอที่จะมาแชร์ความคิดเห็นในมุมมองของอาชีพหมอได้
สุดท้ายนี้ หมอคิดว่า"Cyberbullying” เป็นสิ่งที่พัฒนามาไกลมากเกินไปแล้ว มันกลายเป็นสังคมที่คนสามารถแสดงข้อความเกลียดชังมากแค่ไหนก็ได้ มันไม่มีคำว่า”ลิมิต”สำหรับเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว บางทีถ้าเรากลับมานั่งคิดว่าทำไมเราถึงแอนตี้คนๆนี้ ทำไมเราถึงแอนตี้วงๆนี้ เราอาจพบคำตอบว่ามันไม่ใช่คนๆนั้นหรือวงๆนั้นที่ไม่ดีพอ แต่มันเป็นด้านมืดในจิตใจของเรามากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกอคติ ความรู้สึกอิจฉา ความรู้สึกที่ไม่ยอมรับความจริง หรือความคิดที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่มากเพียงพอของเรา ทำให้ตัวเราไม่เคยมองด้านดีๆของตัวเขา ทำให้เราไม่พยายามทำความเข้าใจในตัวเขา บางทีถ้าเราไม่อยากให้การสูญเสียชีวิตของนักร้องคนนี้เป็นเรื่องที่สูญเปล่า มันสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวของเราเลย หยุดทำร้ายคนอื่นโดยที่ไม่รู้ตัวกันเถอะครับ...
#Healthstory - เรื่องสุขภาพ ง่ายนิดเดียว
ติดตามเรื่องราวสุขภาพอีกได้ที่
โฆษณา