16 ต.ค. 2019 เวลา 06:41 • ไลฟ์สไตล์
เรียนรู้ จากโรงพยาบาล
วันนี้ต้องได้ข้ามประเทศมาโรงพยาบาลอีกแล้ว (ฟังดูดี) แต่ไม่ต้องตกใจนะครับ มาพบแพทย์ตามนัดเฉยๆ อายุเพิ่มขึ้นความถี่ของการนัดก็เพิ่มตาม ผมพบแพทย์สอง โรงพยาบาล สี่เดือนครั้งต่อท่าน ก็เฉลี่ยสองเดือนครั้งครับ เทียบเป็นเครื่องจักรก็จัดว่าใกล้ปลดระวาง ถึงจุดนึงซื้อของใหม่มาเปลี่ยนจะคุ้มกว่า
แต่นี่เป็นคน...เว้นไว้ให้คิดละกันว่าจะทำอย่างไรดี
มาโรงพยาบาลทุกครั้ง ไม่ว่าที่ไหน ก็ต้องพบคนป่วยมากมาย บางคนเดินมาเองเช่นผม แต่บางคนต้องหิ้วปีกมา หนักกว่านั้น ต้องมารถฉุกเฉิน
ผมรีบมาตั้งแต่เช้าเพื่อจะได้คิวแรกๆ เพราะต้องเจาะเลือด แต่เช้าไม่พอครับ จึงต้องรอ พอสมควร ระหว่างรอก็ได้เห็นความจริงที่เขาว่าความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐครับ
มีผู้ป่วยคนนึงนั่งๆอยู่ฟุบศีรษะฟาดเก้าอี้ ทำเอาโกลาหลไปพักนึง อีกสักครู่เห็นคุณพี่ท่านนึงนอนบนรถเข็น โดยมีสายระโยงระยาง ท่าทางเจ้าหน้าที่รีบร้อน น่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วน
ดูแล้วก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล ที่ต้องรับคนไข้น่าจะ 1ต่อ 2-300 คน โดยประมาณนะครับ หรืออาจมากกว่านี้ คิดเสียแบบนี้เราจะรอได้อย่างไม่เบื่อนะครับ
ผมนึกเล่นๆว่าสักวันผมต้องนอนแบบนั้น หรืออาจแข้ง ขาขาด หรืออาจหายใจไม่เต็มปอด นอนติดเตียง 9ล9 ชีวิตมันคงทรมานกว่านี้ แต่จะมีใครมีทางที่จะหนีพ้นหรือ...คิดว่าไม่มีครับ..(แต่หลับๆแล้วยาวไปเลยคงจะดี)
ผมบอกกับตัวเองว่า กลับไปงวดนี้คงต้องเข้มงวดกับการกินอยู่หลับนอน การออกกำลังกายอย่างถูกต้อง เป็นการบำรุงรักษาแบบป้องกัน การควบคุมความเครียด จำพวกนอนไม่พอคงต้องหลีกเลี่ยง คงต้องคิดวิธีตายอย่างมีความสุขด้วย(อันนี้ยาก ใครมีเคล็ดลับช่วยบอกด้วยครับ).
หวังว่าท่านที่ได้อ่านคงจะไม่รู้สึกหดหู่นะครับ แต่ถ้ารู้สึกก็ต้องขออภัยครับ ก่อนจบขอฝากกข้อคิดของพระอาจารย์มาให้อ่านเตือนสติ
สวัสดีครับ.
โฆษณา