20 ต.ค. 2019 เวลา 05:05 • ครอบครัว & เด็ก
🚹🚹🚹🚹🚹🚺🚺🚺🚺🚺
คน..เปราะบางยิ่งกว่าไข่ไก่
🚹🚹🚹🚹🚹🚺🚺🚺🚺🚺
ไข่ไก่ .. ต้องเคาะหนึ่งทีถึงจะแตก คน..ก็เช่นกัน
หลายๆครั้ง
เพียงเพราะคำพูดคำเดียวของผู้อื่นก็อาจทำให้หัวใจก็แหลกสลายแล้ว
ครั้งแรก..ที่เข้าร่วมการประชุมผู้ปกครอง คุณครูชั้นอนุบาลพูดว่า...
" ลูกชายของคุณเป็นโรคอยู่ไม่สุข ไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้ แม้เพียงสามนาที ให้ดีแล้ว ผมว่าคุณพาเขาไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาลดีกว่าไหม”
ตอนเดินทางกลับบ้าน ลูกชายถามเธอว่า คุณครูพูดอะไรบ้าง
เธอเจ็บปวดหัวใจ น้ำตาแทบจะไหลรินออกมา เพราะว่า..เด็กน้อยทั้งห้องสามสิบคน มี
เพียงการกระทำ การปฏิบัติตัวของเขาแย่ที่สุด....
คุณครูถึงกับแสดงออกถึงความดูแคลน
ทว่า.. เธอยังคงบอกกับลูกชายว่า
" คุณครูชื่นชมลูก บอกว่า เดิมทีลูกไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้แม้แต่นาที
เดียว แต่ตอนนี้สามารถนั่งได้สามนาทีแล้ว ส่วนคุณแม่คนอื่นๆ ต่างก็อิจฉาแม่
เพราะว่า ทั้งห้องมีลูกเพียงคนเดียว ที่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น "
ค่ำวันนั้น ลูกชายของเธอกินข้าวหมดสองถ้วย ซึ่งเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งไม่ต้องให้เธอป้อนด้วย
ลูกชาย..ขึ้นชั้นประถมแล้ว การประชุมผู้ปกครอง คุณครูพูดว่า......
" นักเรียนทั้งชั้นสี่สิบคน ผลการสอบคณิตศาสตร์ครั้งนี้ ลูกชายของคุณได้
อันดับที่สี่สิบ พวกเราสงสัยว่า สติปัญญาของเขาอาจจะมีปัญหา ให้ดีแล้ว คุณควรพาเขาไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาล นะ"
ระหว่างเดินทางกลับบ้าน น้ำตาเธอไหลรินออกมา ทว่า เมื่อกลับมาถึงบ้าน
แล้ว กลับพูดกับลูกชายว่า....
" คุณครูเชื่อมั่นในตัวลูกมาก เขาบอกว่า ลูกไม่ใช่เด็กที่โง่เขลา ขอเพียงแต่
เพิ่มความละเอียดรอบคอบมากขึ้น ก็จะเหนือกว่า คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันกับลูก
ครั้งนี้..คนที่นั่งโต๊ะตัวเดียวกันกับลูก เขาสอบได้อันดับที่ยี่สิบเอ็ด "
ตอนที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ เธอพบเห็นว่า......ดวงตาของลูกชาย
ค่อยๆเปล่งประกายแสงยิ่งๆขึ้น ใบหน้าที่เศร้าสร้อยเมื่อครู่ก็ร่าเริงขึ้นมาทันที อีกทั้ง..เธอพบเห็นว่าลูกชายอ่อนโยนจนทำให้เธอตกใจคล้ายดั่งเขาได้เติบใหญ่ขึ้นมากในทันที วันรุ่งขึ้นไปโรงเรียน ก็ไปเช้ากว่าปรกติ
ลูกชาย..ขึ้นชั้นมัธยมต้น เป็นอีกครั้งของการประชุมผู้ปกครอง
เธอนั่งอยู่ในที่นั่งเรียนของลูกชาย รอคอยคุณครูขานชื่อของลูกชายเธอ เพราะว่าการประชุมผู้ปกครองทุกครั้งที่ผ่านมา รายชื่อของนักเรียนที่มีผลการเรียนย่ำแย่ จะมีรายชื่อของลูกชายเธอทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเธอ จวบจนสิ้นสุดก็ไม่ได้ยินชื่อของลูกชายเธอ
เธอเกิดความไม่เคยชิน ก่อนกลับจึงไปถามคุณครู
คุณครูบอกกับเธอว่า......
" ดูจากผลการเรียนของลูกคุณในปัจจุบันแล้ว หากไปสอบเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง ยังมีความเสี่ยงที่สูงอยู่ แต่เขาพัฒนาขึ้นมาก"
เธอเดินออกจากโรงเรียนด้วยความดีใจ ยามนี้เธอเห็นลูกชายยืนรอคอยเธออยู่ ระหว่างทางเธอจับไหล่ของลูกชาย ภายในจิตใจรู้สึกหวานชื่นยิ่ง เธอบอกกับลูกชายว่า....." คุณครูประจำชั้น พอใจในตัวลูกมาก
เขาบอกแล้วว่า ขอเพียงลูกมีความพยายามก็จะมีหวังยิ่งขึ้น ที่จะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง "
จบมัธยมปลายแล้ว รายชื่อนักเรียนชุดแรก ที่ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งผลการสอบผู้คัดเลือกได้ ยามนั้น..ทางโรงเรียนได้โทรศัพท์มา ให้ลูกชายเธอไปที่โรงเรียน
เธอมีลางสังหรณ์ว่า ลูกชายของเธอจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแน่ เพราะว่า..ตอนที่ไปสมัครสอบเธอได้พูดกับลูกชายว่า
เธอเชื่อและมั่นใจว่า เขาต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้แน่นอน
ลูกชายกลับมาจากโรงเรียน นำจดหมายที่มีตราประทับจากสำนักงานของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังยื่นให้เธอ จากนั้นเขาเดินมากอดแม่และก็ร่ำร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ร้องไปก็พูดไปว่า
" แม่..ผมรู้ว่าผมไม่ใช่เด็กที่เฉลียวฉลาด แต่ว่า..บนโลกนี้มีเพียงแม่เท่านั้นที่ดีกับผมเสมอและชื่นชมผมตลอดมา
ขอบคุณครับแม่........ที่ทำให้ผมเกิดมา ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นคนได้อย่างภาคภูมิ
และอนาคต แม่จะต้องภูมิใจในตัวผม."
เขารู้เรื่องทั้งหมดจากที่ครูประจำชั้นเล่าให้ฟังว่าจริงๆแล้ว ท่านเคยพูดอะไรในตอนที่แม่ของเขาไปประชุมผู้ปกครองทุกครั้ง ครูรู้เพราะถามเขาว่าทำไมเขาถึงสอบได้ ถามว่าทำไมเขาเก่งขึ้น
พอเขาเล่าให้ครูฟัง ครูเงียบไปพักใหญ่จากนั้น เรียกให้เขามานั่งใกล้ๆ แล้วจึงเล่าความจริงให้เขาฟัง นั่นยิ่งทำให้เขารับรู้ความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่เรียกว่าแม่...
ผู้เป็นแม่ ยามนี้..เธอสุดแสนจะดีใจ ไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่อัดอั้นมาสิบกว่าปีอีกต่อไปแล้ว จึงปล่อยให้ไหลรินร่วงลงบนซองจดหมายที่อยู่ในมือ
คำพูด..ที่ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุน สามารถแปรเปลี่ยนแนวคิด
และพฤติกรรมของคนคนหนึ่ง แม้กระทั่งแปรเปลี่ยนโชคชะตาของคนคนหนึ่ง
คำพูด..เชิงลบ บั่นทอนกำลังใจ จะทิ่มแทงหัวใจและร่างกาย ของคนคนหนึ่ง จนบาดเจ็บชอกช้ำ จวบจนกระทั่งทำลายอนาคต ของคนคนนั้นไป
🚻🚻🚻🚻🚻🚻🚻🚻🚻
โฆษณา