20 ต.ค. 2019 เวลา 06:33 • ไลฟ์สไตล์
รีเซ็ทกรรม..........
*บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
ผมมีเพื่อนสนิทอยู่หนึ่งคนเป็นผู้หญิง
เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง
และมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง
รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์
บ่ายวันหนึ่งเธอโทรมาหาผมด้วยเสียงที่กำลังร้องไห้
คุยตั้งนาน หลังถอดรหัสภาษาพูดที่สลับกับเสียงร้องไห้
จึงจับใจความได้ว่า แฟนของเธอที่กำลังจะแต่งงานกันในปีนี้
ไปแอบแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นเมื่อไม่กี่เดือน
เธอรู้สึกโลกทั้งใบพังทลาย จนไม่อยากอยู่
แต่ตอนนี้อยู่ที่วัดกับน้องพนักงานหญิงคนหนึ่งในบริษัท
ไหว้พระไปก็ร้องไห้ไป และตัดพ้อชีวิตด้วยเสียงที่ดัง
จนพระในวัดต้องเดินมาถามว่า
“พ่อหรือแม่โยมที่เสีย จนต้องร้องไห้ขนาดนี้”
พระท่านถามจริงๆนะครับ ไม่ได้เล่นมุข
ยังแอบขำตอนได้ยิน
ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตหลังช่วงวัยรุ่น
ที่ผมคุยโทรศัพท์นานมาก
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการรับฟัง และพูดบ้างบางช่วง
เพราะเธอยังอยากฆ่าตัวตายอยู่ตลอดเวลา
เกือบสามชั่วโมง จนแบตเตอรี่โทรศัพท์เธอใกล้หมด
และมีน้องพนักงานคนนั้นก็พาเธอกลับบ้าน
ผมถึงได้วางสายและกะว่าเสร็จงานแล้วจะแวะเข้าไปเยี่ยมเธอ
สามชั่วโมงผ่านไป เธอโทรหาผมอีกครั้ง
ด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว.........ตอนนี้เธอไม่อยากตายแล้ว
แต่......เธอกลัวตายแทน
สืบเนื่องจากหลังจากที่วางสาย
เธอไปเจอเพื่อนคนหนึ่งโดยบังเอิญ
และเพื่อนคนนี้นัดหมอดูไว้จึงชวนไปด้วยกัน
หมอดูทักเธอถึงอดีตชาติว่า เมื่อก่อนเธอเป็นเศรษฐี
ชอบโกงและพรากลูกพรากเมียคนอื่น
รวมถึงฆ่าคนโดยไม่กลัวบาป
เจ้ากรรมนายเวรที่เธอเคยฆ่าเอาชีวิตเค้าไว้
ตามมาจองเวรทุกภพ ทุกชาติ
แต่ไม่เคยทำสำเร็จเพราะเธอเติมบุญมาตลอด
แต่วันนี้ไม่ใช่....เพราะตอนนี้ดวงเธอถึงฆาต
กรรมจากชาติก่อนตามมาทันแล้ว
และถึงคราวที่เค้าจะมาเอาคืน
ภายในไม่เกิน 3 วัน เธอจะตายแน่นอน
ไม่รู้ว่าผมควรจะขอบคุณหมอดูดีไหม
ที่ทำให้คนอยากตาย.....กลับกลัวตาย
แต่ดันกลัวตายแบบจิตหลอน
ซึ่งเวลาจิตของคนเราถูกสั่นคลอนมากๆ
เราก็อาจเป็นอีกคนโดยไม่รู้ตัว
ทางเดียวที่จะช่วยได้ คือภายใน 3 วัน
ต้องไปไหว้พระประธานในโบสถ์ให้ครบ 50 โบสถ์
ถึงจะแก้กรรมได้ ห้ามขาดแม้แต่โบสถ์เดียว
ซึ่งมีหลายคนทำไปยังไม่ถึงครึ่งทาง
ก็มีอันเป็นไปก่อนครบ 50 โบสถ์
หลังหมอดูพูดจบ
เธอเริ่มรู้สึกว่ามีใครจ้องมาที่เธออยู่ตลอดเวลา
และได้ยินเสียงแปลกๆ ตลอดทางที่กลับบ้าน
ทำให้เธอต้องโทรหาผมตลอดทาง
ซ้ำร้ายเมื่อขับรถเข้าประตูบ้าน
ก็ดันชนกับรั้วบ้านทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยชน
และยังไม่รวมกับเห็นดวงไฟสีแดงๆ
เป็นกลุ่มตามมุมมืดๆของบ้าน
ยิ่งตอกย้ำคำพูดของหมอดูมากขึ้นไปอีก
หากนับวันนี้ก็เหลือเวลาด้วยเท่ากับเหลือเวลาอีก 2 วัน
คือพรุ่งนี้และวันมะรืน ที่ต้องปฏิบัติภารกิจ
พูดกันตามตรง ว่าผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องการแก้กรรมแบบนี้
แต่คนที่จิตตกมากๆ ทั้งที่เคยอยากตาย
แต่ตอนนี้กลับอยากมีชีวิตอยู่
ทำเอาปฏิเสธไม่ได้ เลยต้องร่วมวงไปด้วย
เพราะอาจจิตตกจนทำอะไรบางอย่างจนแก้ไขไม่ได้
เช้าวันรุ่งขึ้นเรา เพื่อนและเพื่อนคนที่พาไปหาหมอดู
รวม 3 คน ก็เลยเหมารถตู้ไป โดยจองคิวไว้ 2 วัน
แบ่งจำนวนเป็นวันละ 25 โบสถ์
และเลือกเส้นทางที่มีวัดติดกันเยอะที่สุด
คนขับรถใจดีเจ้าประจำพอรู้ว่าจะมาแก้กรรมที่วัด
ก็พาภรรยามาช่วยถือดอกไม้ธูปเทียน
เรียกว่าช่วยกันทำมาหากินจริงๆครับ
พอถึงวัดแรกก็เจอดีแต่เช้า
ทำเอาเหวอกันทั้งคัน เล่นเอาใจคอไม่ดี
ไม่ได้มีอะไรครับ แค่โบสถ์ปิด ไม่ให้เข้าแค่นั้น
ต้องรอพระบิณฑบาตกลับมาก่อนถึงจะเปิดโบสถ์
เลยถือโอกาสใส่บาตรเอาฤกษ์ เอาชัยกันซะเลย
พอโบสถ์เปิดก็จุดธูปไหว้พระประธานและสวดมนต์
พร้อมอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรแค่นั้น
ในระหว่างเดินทางไปแต่ละวัดนั้น เพื่อนของผมก็ยังมีอาการจิตตก
ได้ยินเสียงแว่วๆมาตลอด และยังเห็นดวงไปตามวัดบางวัด
ยิ่งใกล้ค่ำ โบสถ์ที่เราวางแผนไว้ก็ยังไม่ถึง 25 โบสถ์
ได้เพียง20 โบสถ์ เท่ากับพรุ่งนี้เราต้อง ทำเวลาให้เร็วกว่านี้
เรียกได้ว่ากลับมาหมดแรง ตัวดำกันเลยทีเดียว
ซึ่งสาเหตุที่ช้ากว่าที่วางแผนไว้
ก็เพราะเพิ่งรู้ว่าโบสถ์ในวัด
ไม่ได้เปิดให้เข้าไปไหว้พระประธานทุกวัดนะครับ
บางวัดปิดไว้เพราะกลัวมิจฉาชีพ
หรือจะเปิดตอนทำกิจของสงฆ์เท่านั้น
แถมยังเจอเจ้าถิ่นอย่างหมาฝูงใหญ่เป็นอุปสรรค
เรียกได้ว่าทุลักทุเลพอสมควร
และถ้าคุณเชื่อเรื่องการแก้กรรมแบบนี้
ขอแนะนำว่าอย่าขับรถไปเอง
เพราะการตระเวนไหว้พระ 50 วัด
เหนื่อยมากๆ แถมถ้าจิตคุณกำลังตก
โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุมีสูงมากเลยทีเดียว
วันรุ่งขึ้นเราก็ทำตามเป้าหมาย
คือตระเวนจนครบจำนวน 50 โบสถ์
สิ่งที่ผมรู้สึกได้ จากการแก้กรรมแบบนี้
ถ้ามองว่าเป็นกุศโลบายก็ถือว่าดี
เพราะหลายวัดที่เข้าไป
พระหลายรูปก็จะสอบถามแล้วเทศน์ให้ฟัง
บางรูปเตือนสติว่าการแก้กรรมแบบนี้
ไม่ได้ช่วยอะไร แต่อย่างน้อยการมาที่วัด
ก็ยังได้ไหว้พระ ฟังธรรม ทำให้จิตใจสบายขึ้น
ที่สำคัญระหว่างทางคุณจะได้เจอ
สถานที่ใหม่ๆ เหมือนการได้ออกไปท่องเที่ยว
และผู้คนมากมาย ทั้งชาวบ้าน คนมาทำบุญ พ่อค้าแม่ค้า
ซึ่งหากได้คุยกับคนเหล่านี้ บางทีคุณจะรู้เลยว่า
ปัญหาของคุณเล็กนิดเดียว และเริ่มมองเห็นตัวเอง
มีคุณค่ามากขึ้น
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
ทุกคนก็แค่กลับไปทำงานตามเดิม
ไม่มีเรื่องเจ้ากรรมนายเวรหรือเห็นวิญญาณ
บางทีการตั้งเป้าหมายหรือแก้ปัญหาอะไรบางอย่าง
พอมันสำเร็จขึ้นมา ความกังวลต่างๆก็หายไป
สติและความเชื่อมั่นก็กลับมา
ถือเป็นการรีเซ็ทชีวิตอย่างหนึ่ง
ผมไม่รู้ว่ากรรมสามารถรีเซ็ทด้วยการแก้กรรมได้ไหม
แต่กรรมคือการกระทำ ซึ่งก็ควรแก้ด้วยการกระทำ
ที่เป็นต้นเหตุแห่งกรรม ที่ทำให้เกิดทุกข์
และหากไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
การขออโหสิกรรมหรือการขอโทษ
กับสิ่งต่างๆที่เคยทำผิดพลาดมา
อาจเป็นการรีเซ็ททางจิตใจที่ดี
ที่เยียวยาความรู้สึกผิด ในใจเรานั่นเอง
เมื่อชีวิตทำผิดพลาด...ก็แค่แก้ไขและขอโทษ
อาจเป็นการแก้กรรมที่ง่ายและตรงจุดที่สุดนะครับ
“รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์”
โฆษณา