2 พ.ย. 2019 เวลา 04:50 • ประวัติศาสตร์
พุทธประวัติ ตอนที่ 29
ทรงตั้งพระสัตยาธิษฐาน
ขณะที่....
พระบรมโพธิสัตว์เจ้า กำลังเสด็จดำเนินตามเส้นทางอยู่นั้นเอง
ก็มีคนตัดหญ้าผู้หนึ่ง...
มีนามว่า (โสตถิยพราหมณ์)
ตอนนั้นเขากำลังอุ้มถือหญ้ากุศะ เดินสวนทางผ่านมาและได้พบกับพระบรมโพธิสัตว์เจ้า
ในตอนที่พระองค์กำลังเสด็จดำเนินมาด้วยความสง่างามมีรัศมีเปล่งประกาย ออกจากพระวรกาย และพร้อมด้วยพระมหาปุริสสลักษณะ 32 ประการนั้น...
โสตถิยพราหมณ์ จึงเกิดความเลื่อมใสและศรัทธาในพระองค์ จึงได้กล่าวทูล กับพระโพธิสัตว์ขึ้นว่า
โสตถิยพราหมณ์กล่าวทูล :
***ข้าแต่ท่านพระมหาสมณะรูปงาม และมีกายอันแผ่รัศมีสร้านเปล่งประกายเช่นนี้ ตัวข้าพเจ้ามีนามว่า (โสตถิยพราหมณ์) ครั้นเมื่อได้เห็นท่านแล้ว จึงได้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่งในตัวของท่านสมณะ และด้วยหญ้ากุศะทั้ง 8 กำนี้
ที่ข้าพเจ้าได้ตัดมาเรียบร้อยดีแล้วนั้น จักขอน้อมถวายแด่ท่าน ขอท่านพระมหาสมณะโปรดรับหญ้ากุศะเหล่านี้ไว้เพื่อประโยชน์แก่ท่านด้วยเถิด***
พระบรมโพธิสัตว์เจ้าตรัสตอบ :
***ท่านโสตถิยพราหมณ์ อาตมาขอขอบใจในหญ้าทั้ง 8 กำนี้ ที่ท่านได้ถวายเป็นทานแก่อาตมา***
เมื่อพระบรมโพธิสัตว์ได้ทรงรับหญ้าเหล่านั้นแล้ว พระองค์ก็เสด็จดำเนินมุ่งตรงไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่เจริญเติบโตแผ่กิ่งสยายออกอย่างงดงามเป็นเด่นสง่าอยู่ ณ ที่นั้น..
ครั้นเมื่อถึงที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้วนั้น...
พระองค์ก็ได้ทรงกระทำประทักษิณ (เดินเวียนขวา) สามรอบ
แล้วทรงยืนพิจารณาสถานที่ๆ
จักประทับเพ็ญเพียร และพระองค์
ก็ทรงเห็นว่า ทางด้านบูรพานี้
(ทิศตะวันออก) เป็นสถานที่อัน
เหมาะสมที่สุด
ลำดับนั้น...
พระองค์จึงทรงว่าหญ้าทั้ง 8 กำลง ณ ที่โคนต้นศรีมหาโพธิ์ด้านทิศบูรพานั้น จากนั้นพระองค์จึงทรงออกพระโอษฐ์ ตั้งพระสัตยาธิษฐานตรัสเปล่งวาจา
ขึ้นว่า...
พระบรมโพธิสัตว์เจ้าทรงตรัส :
***ถ้าหาก อาตมาจักได้ตรัสรู้
พระสัพพัญญุตญาณแล้วไซร้
ขอให้รัตนบัลลังก์จงปรากฏขึ้น
ในที่นี้เถิด***
ขณะนั้นเอง!!!
หญ้ากุศะทั้ง 8 กำนั้น ก็ได้ปรากฏกลายเป็น (รัตนบัลลังก์วชิรอาสน์) แทน และปรากฏขึ้นตรงเบื้องหน้า
พระพักตร์ของพระองค์ทันที
เมื่อจบพระดำรัสพระสัตยาธิษฐาน ก็ด้วยเพราะอำนาจของบุญบารมีอภินิหารที่พระองค์ท่านได้ทรงสั่งสมมาเป็นเวลา 4 อสงไขยกับอีกแสนกัป ที่ยาวนานผ่านมาแล้วนั่นเอง
ในลำดับนั้น...
พระบรมโพธิสัตว์เจ้าก็ทรงเสด็จประทับนั่งบนรัตนบัลลังก์วชิรอาสน์นั้น และหันพระพักตร์สู่ทางทิศบูรพา(ทิศตะวันออก) ซึ่งมีแม่น้ำเนรัญชราอยู่ตรงด้านหน้า
ส่วนพระปฤษฎางค์(หลัง) หันสู่ลำต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทรงประทับนั่งสมาธิด้วยพระวรกายตั้งตรง
ดำรงพระสติมั่นเข้าสู่การเจริญอาณาปานสติภาวนา แล้วพระองค์ก็ทรงออกพระโอษฐ์ดำรัสตั้งสัตยาธิษฐานตรัสกล่าววาจาขึ้นอีกครั้งว่า...
พระบรมโพธิสัตว์เจ้าทรงตรัส :
***ถ้ากมลสันดานของอาตมานั้น
ยังมิพ้น จากอาสวกิเลสกามคุณตราบใด.. แม้ว่าเลือดและเนื้อจะเหือดแห้งไป เหลือก็เพียงแต่หนัง เอ็น กระดูก ก็ตามที อาตมาจักมิลุกขึ้นจากบัลบังก์นี้***
ขณะนั้นเอง!!!
ฝ่ายหมู่เทพยดาเจ้าทั่วทั้วเทวสถานทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง
ต่างก็มาประชุมร่วมกันโสมนัสยินดีปรีดา กระทำมหาสักการบูชาเป็น
โกลาหนดังสนั่นไปทั่วทั้งมงคลจักวารนั้นเอง...
ก็ด้วยการที่ พระบรมโพธิสัตว์เจ้าได้ทรงสละละทิ้งซึ่งจักรพรรดิ์สมบัติพร้อมทั้งของแก้วอันเป็นทิพย์ทั้ง 7 อย่าง ที่กำลังจะมาถึงพระองค์ในอีกเพียง 7 วันนั้น
ก็เพื่อว่าพระองค์นั้นต้องการจะค้นหาหนทางที่ทำให้ได้ชัยชนะแก่กิเลสมาร มัจจุมาร และเทวบุตรมาร แล้วรับเอาพระพุทธสมบัติมาสั่งสอนสัตว์โลกทั้งหลายทั้งปวงให้ได้ก้าวข้ามพ้นจากวัฏสงสารที่เป็นทุกข์ทั้งหลายให้ได้เข้าสู่ (อนุปาทิเสสนิพพาน)โดยทั่วกัน
ดังนั้นแล้ว พระบรมโพธิสัตว์เจ้าจึงทรงหมายมั่นเด็ดเดี่ยวมุ่งเพื่อที่จะเข้าถึงการบรรลุพระมหาโพธิญาณให้สำเร็จจงได้นั้นเอง...
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัย ท่านผู้อ่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
หากท่านผู้ใดชอบ ก็ขอฝากติดตามอ่านตอนต่อไปด้วยนะขอรับ ^-^
ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านผู้อ่านขอธรรมของพระพุทธองค์จงมีแด่ ท่าน สาธุครับ (ต้นธรรม)
เอกสารอ้างอิง
#หนังสือ.ปฐมสมโพธิกถา
#หนังสือพุทธประวัติตามแนวปฐมสมโพธิ (พระครูกัลยาณสิทธิวัฒน์)
#เพิ่มเติมเนื้อหาใหม่/ภาพประกอบ.ต้นธรรม
#Facebook Page🔜 :
โฆษณา