2 พ.ย. 2019 เวลา 12:15 • บันเทิง
Re-post เรื่องสั้น : พันธนาการแห่งราคะ
ผมแอบอยู่ในมุมมืด ระหว่างงานเปิดตัวหนังสือที่ประหลาดที่สุดในชีวิตที่ผมเคยประสบพบเจอ บรรยากาศในงานออกจะเงียบสงัด มีเสียงแค่เพียงอืออาในลำคอของผู้เข้าร่วมหลายคนที่กำลังฟังการบรรยายถึงเนื้อหาในหนังสือ
ข้อความและบทสนทนาบางส่วนในหนังสือที่ว่า ถูกถ่ายทอดออกมาโดยเสียงเจื้อยแจ้วของนักเขียนสาวตัวเล็ก ผู้ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟที่สาดมาจากกำแพงอีกด้าน เธอจึงโดดเด่นแจ่มจ้าท่ามกลางความเงียบขรึมและทึมเทาของบรรยากาศโดยรอบ ทั้งที่มีผู้เข้าร่วมชมการแสดงเพื่อเปิดตัวหนังสือเล่นนี้มากหน้าหลายตา ทั้งเพศชายเพศหญิง เสียงสูดหายใจฟืดฟาดยังพอได้ยินเป็นระยะ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงสูดลมหายใจด้วยความตื่นเต้น หวาดหวั่น หรือกระสันอยากกันแน่ ที่ดังออกมาอย่างลืมตัวของชายหญิงทั้งหลายที่นั่งล้อมวงอยู่โดยรอบ
ถึงตอนที่ผู้เขียนค่อยๆ ถอดอาภรณ์ที่คลุมอยู่ออก เผยให้เห็นชุดชั้นในสีดำแบบเต็มตัว ถ้าเป็นสมัยยุคปี 80 คนคงลุกขึ้นมาเช็ดเลือดกำเดาที่พุ่งออกจมูกกันเป็นระวิง แต่สำหรับตอนนี้สมัยนี้ ชุดชั้นในที่ว่า ยังเผยเนื้อหนังมังสาน้อยกว่าชุดว่ายน้ำเด็กอนุบาลสองในวิชาว่ายน้ำเสียอีก
เสื้อชั้นในสีดำ ขับเนื้อเนินสีขาว ยามต้องแสงไฟวอร์มไวท์ที่สาดมาจากโคมไฟข้างกำแพง ดูเชื้อเชิญอย่างประหลาด มิน่าเล่า งานแสดงศิลปะหรือจิตรกรรมอะไรพวกนั้นถึงชอบจัดไฟกันแบบนี้ ผู้ชมจะหลบสายตาไปที่ไหนได้อีก นอกจากม่องเพ่งไปที่วัตถุสว่างจ้าที่เล่นกับไฟอยู่กลางความมืดทึมนั้น
มีหลายคนยกมือขึ้นถามถึงบทสนทนาล่อแหลมในหนังสือของเธอ คำพูดตัวละครที่ตรงจนตีแสกหน้านักอ่านศีลธรรมสูง ด้วยความจริงของสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่กลางขาหนีบ ไม่มีคนพูด แต่ทุกคนทำ ตัวละครจึงแสดงหน้าที่ของความจริงที่ทุกคนกระหายอยากเสียตรงไปตรงมาจนน่าหวาดเสียว
ผมแค่ได้ยินเธออ่านบทสนทนาบางตอน จิตใต้สำนึกที่ผุดพลายอยู่ใต้เข็มขัดก็ออกมาจะโดดโลดเต้นจนผมยังแปลกใจ มันไม่เคยเกิดขึ้นนานแล้วกับความรู้สึกแบบนี้ เธอทำผมประหลาดใจเอามากๆ ทีเดียว ผมอยากจะแทรกขึ้นกลางวงสนทนานี่จริงๆ แต่จะพูดอะไรได้ ผมเองคงจะมั่วยืนสั่น ปากไม่ขยับ เพราะความประหม่าขั้นสุดของตัวเองเป็นแน่
1
มาถึงช่วงท้ายของวงสนทนา ผมตะลึงงันในความพิศดารของงานเปิดตัวหนังสือนี้ ผู้เขียนกับผู้เชี่ยวชาญอะไรสักอย่าง ผมก็เรียกไม่ถูกนัก จำชื่อได้ประมาณว่า "ชิบาริ" อะไรนี่ล่ะ ฟังไม่ค่อยถนัดจากตรงนี้
ร่างผู้เขียนถูกคล้องด้วยเชือกป่านขาวเนียน โดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกระหวัดบ่วงด้วยความชำนาญ ร่างเธอในชุดชั้นในแบบเต็มตัวถูกรัดด้วยเชือก บ่วงแล้วบ่วงเล่า มือไขว้ไว้ด้านหลัง ข้อเท้าถูกมัดรวบชิดอย่างดี
เธอล้มตัวลงนอนเหยียด ร่างถูกเชือกทั้งหมดขมวดรัด และดึงขึ้นด้วยรอกจากบนเพดานอย่างช้าๆ เนื้อหนังมนุษย์สีขาวเนียน ถูกเชือกสีขาวสว่างรัดจนเนื้อขาวๆ ปูดนูน ที่หน้าขาเชือกเบียดจนคล้ายผิวหนังถูกแบ่งเป็นชิ้นๆ
ใบหน้าหญิงสาว ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ แม้กระทั้งรอยยิ้ม หรือท่าทางความเจ็บปวด ผู้บรรยายกล่าวเสริมว่า การมัดแบบนี้แสดงถึงพันธนาการของร่างกาย อาจเชื่อมโยงสู่ความฝักใฝ่ในกามรมณ์ แต่แท้จริงแล้วหากทำใจเปิดกว้าง จะเห็นถึงความอิสระของจิตใจผู้ถูกกระทำ ซึ่งเชือกหรือพัธนาการใดๆ ก็หาได้รัดรั้งเอาไว้ได้
น่าตลกที่เขาบรรยายดูเป็นเรื่องคติที่ล้ำลึก เกินกว่าคนอย่างผมจะเข้าใจได้ ผมรู้แค่เพียงภาพเนื้อสีขาวตัดกับชุดสีดำ ที่ถูกเชือดสีขาวราวเงินยวงรัดมัดตรึงอยู่นั้น ทำเอาผมกระสับกระส่าย ร่างกายร้อนผ่าว ความรู้สึกของอวัยวะบางส่วนเริ่มควบคุมไม่ได้ มันร่ำร้องอยากแสดงตัวตนขึ้นมา ทั้งๆ ที่ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มานานนับสิบปี เคยอ่านหนังสือคอลัมน์ตอบปัญหาทางเพศตามหน้าหนังสือพิมพ์ เห็นเขาเรียกกันว่า " กามตายด้าน "
บ้าจริง มันชักควบคุมไม่อยู่ ผมต้องเริ่มขยับมันให้อยู่กับร่องกับรอย เพราะหากใครเห็นผมในตอนนี้ คงต้องอับอายกันอักโข เพราะคงถูกตราหน้าว่าวิตถารเป็นแน่ ทั้งๆ ที่ผมก็เห็นๆ อยู่ว่า ผู้คนที่นั่งรายล้อมอยู่ในห้อง ต่างนั่งนิ่งไม่ขยับ แต่กลืนน้ำลายลงคอกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับกระหายน้ำหรือกระหายอะไรอื่น ก็พอเดาได้ไม่ยาก
แล้วผมผิดด้วยเหรอ ที่ภาพตรงหน้ากระตุ้นเตือนความต้องการลึกๆ ในใจของผมให้ฟุ้งซ่านจนควบคุมไม่อยู่แบบนี้
"ตาศักดิ์ค่ะ" ทีมงานสาวคนนึงเดินมาข้างหลังผม จนผมสะดุ้งโหยง
"เดี๋ยวงานใกล้จบแล้ว รบกวนตาช่วยเก็บพวก แก้วน้ำกับขยะทิ้งให้ทีนะคะ แล้วค่อยเก็บกวาดสถานที่ รอทีมงานเก็บอุปกรณ์ไปก่อนก็ได้ค่ะ จะได้ทำงานทีเดียว"
"อ่อ ครับ เดี๋ยวตาจัดการให้นะ" ผมรีบวางไม้กวาดในมือ ผงกหัวรับอย่าทันควัน
"แล้วรบกวนฝากเก็บเชือกที่วางบนโต๊ะใส่กล่อง แล้วเอาไปวางไว้ทางโน้นด้วยนะค่ะ ของแพงเลยค่ะอันนี้"
"ได้ครับได้ หนูไม่ต้องห่วง เดี๋ยวตาจัดการให้จ้า"
ผมรีบเก็บกวาดหลังผู้คนทะยอยกลับกันหมดแล้ว ที่สำคัญคือเชือกเส้นขาวเนียน เส้นใยนุ่มราวกำมะหยี่ ไม่แปลกที่มันจะไม่ระคายผิวขาวละมุนของนักเขียนสาวให้บอบช้ำได้เลย
ผมรีบขดเป็นวงแล้วมัดเก็บจนเรียบร้อย มือที่สัมผัสลูบไล้ไปตามเส้นเชือก ไม่วายแอบยกขึ้นมาสูดดมอย่างลืมตัว ร่างกายผมก็เริ่มเกเรอีกแล้ว จึงรีบเก็บเชือกใส่กล่อง ปิดฝาไว้อย่างดี แล้วนำไปวางกองกับกล่องหนังสือและของชิ้นอื่นๆ
ผมรีบปรี่เข้าห้องน้ำ ปลดปล่อยความอึดอัดทั้งมวลก่อนหน้าอย่างปรีเปรม เมื่อได้ค้นพบว่า เชือกขาวที่มัดเรือนร่างให้ลอยเด่นอย่างไม่อาจขัดขืน นั่นคือการปลดปล่อยพันธนาการราคะของผมให้ได้เป็นอิสระอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนหลายปีดีดักแล้ว
ติดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ…. ไม่แน่ใจว่ายายฟอง แกจะทนไหวไหม ถ้าต้องมัดและรัดตรึง พร้อมแขวนกับขือกลางบ้าน แต่ถึงยังไงคงต้องลองดูสักตั้ง
ผมรีบรูดซิปกางเกงแล้วเดินออกห้องน้ำมาพร้อมความรู้สึกราวกับได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง อย่างไม่น่าเชื่อ นับเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ของชายชราในวัย 74 อย่างผมจริงๆ
โฆษณา