4 พ.ย. 2019 เวลา 15:09
ในโลกที่ผู้คนต่างรณรงค์ต่อต้านการ "Bully" กันโครมๆ แต่เหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับสื่อไทย ก็ยังคงใช้การ Bully หรือ การเหยียด การล้อเลียน ทั้งรูปลักษณ์ สีผิว หรือรสนิยม ของผู้ตกเป็นข่าวอยู่เสมอๆ
เอาจริงๆ ผมไม่อยากจะวิพากษ์วิจารณ์พี่น้องสื่อมวลชนด้วยกันเองหรอกครับ เพราะเคยมีเพื่อนในวงการด้วยกันเตือนผมด้วยความหวังดี โดยบอกผมว่า
"อย่าด่าสื่อกันเองนะ เพราะไม่รู้ว่าสักวันเราอาจจะต้องโคจรมาได้ร่วมงานกับเขา หรือต้องไปทำงานกับเขา เราอาจจะลำบากได้"
คือผมก็เข้าใจในความหวังดีของเพื่อนนะ ที่ไม่อยากเห็นผมมีปัญหากับคนในวงการ แต่สมมุติหากคนในวงการสื่อทำไม่ถูกไม่ควร เราในฐานะคนที่มีป้ายแปะหน้าผากว่าเป็น "สื่อมวลชน" เหมือนกัน จะไม่มีสิทธิ์ตำหนิคนที่ทำไม่ถูกไม่ควรกันเองเลยหรือไร หรือต้องให้คนอื่นมาด่าเหมาแบบตีคลุมว่า "สื่อไทยแม่ง..." ก่อนเสมอ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สำนักข่าวของไทย ที่เป็นสื่อยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ มีชื่อเสียง มีคนติดตามมากมาย ใช้การพาดหัวข่าวแบบ เหยียด ล้อเลียน หรือจาบจ้วงคนในข่าว เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ชวนคลิกเข้าไปอ่าน หรือเรียกว่า "การตีหัวเข้าบ้าน" เพราะที่ผ่านมาก็มีสำนักข่าวหลายหัว หลายสี พาดหัวในลักษณะการเหยียด การล้อเลียน หรือแม้แต่การคุกคามทางเพศอยู่บ่อยครั้ง แต่เหมือนกับว่ามันก็ไม่มีการแก้ไข องค์กรที่ควบคุมสื่อด้วยกันต่างเมินเฉย เพราะสุดท้ายคนในวงการต้องการเพียงแค่ยอดจากการ คลิก ไลค์ แชร์ เพราะมันได้เงิน
จรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชน ที่ทุกคนเคยร่ำเรียนมา ทุกวันนี้เหมือนมันจะไม่มีอยู่จริงอีกต่อไปเสียแล้วกระมัง ในฐานะการทำงานในวิชาชีพ เพราะถ้าหากเราติดตามข่าวสาร เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า มันน่าเอือมระอาเพียงใดกับ คนที่บอกว่าตัวเองคือสื่อมืออาชีพ
สำหรับในเคสนี้ผมเชื่อว่านักข่าวที่เขียนข่าวต้นฉบับ คงไม่ได้เขียนพาดหัวหยาบคายแบบนี้แน่ๆ แต่ฝ่าย Rewriter นั่นแหละที่มีการปรับพาดหัวใหม่ ให้ดูแรง ส่วนคนที่น่าจะต้องรับผิดชอบมากที่สุดคือ "บรรณาธิการข่าว" ที่ต้องตรวจงาน และอนุมัติก่อนที่จะยิงข่าวขึ้นเว็บไซต์ ที่ปล่อยให้พาดหัวหยาบคายแบบนี้ถูกเผยแพร่ออกมา เพราะมันต้องผ่านตาคนระดับนี้ก่อนส่งงาน และที่สำคัญหากปล่อยให้ออกมาแบบนี้ซ้ำๆ แสดงว่าพวกเขา "ตั้งใจ" และผ่านการไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้ว ซึ่งก็คิดดูละกันว่า กมลสันดานของคนเหล่านี้เป็นอย่างไร?
ผมเองก็ไม่ใช่สื่อที่ดี หรือเก่งอะไรนะ แต่ตลอดชีวิตเกือบ 10 ปีของการโลดแล่นในอาชีพสื่อมวลชน ผมไม่เคยใช้พาดหัวข่าวในลักษณะการเหยียดแบบนี้เลย
จริงๆ แล้วศิลปะการพาดหัวข่าวให้น่าสนใจ มันถือเป็นทักษะขั้นสูงในการเขียนข่าว เพราะคุณจะต้องผ่านกระบวนการครีเอทว่าจะ พาดหัวอย่างไรให้เข้าใจข่าวทั้งหมดในจำนวนประโยคย์ไม่กี่ตัวอักษร ที่คนอ่านเห็นแล้วต้องอยากอ่านเนื่้อข่าวต่อ
แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องพาดหัวในลักษณะนี้ เพราะนอกจากจะไม่่สร้างสรรค์แล้ว ยังไร้รสนิยม และสะท้อนตัวตนเบื้องลึกของผู้พาดหัวอีกด้วยว่าเป็นคนอย่างไร
ทั้งนี้ผมคนเดียวคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอก ทำได้ก็เพียงแค่บ่นๆ ลงเพจ แล้วมันก็ผ่านไปเหมือนทุกๆ ครั้ง แต่ก็อยากจะบอกว่า ผู้รับสารแต่ละคนต่างหากที่มีสิทธิ์ในการกรองว่า อะไรควรรับ อะไรควรไม่รับ อะไรควรสนับสนุน อะไรไม่ควรสนับสนุน ซึ่งก็อยู่ที่ตัวของเราเอง
ฉะนั้นจงอย่าตีขลุมว่าสื่อดี หรือเลวไปทั้งหมด ทุกที่บนโลกมีทั้งดีและเลว แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะรับหรือปฎิเสธแบบไหนนั่นเองครับ แต่ในกรณีนี้ ผมบอกได้เลยว่า พาดหัวได้...มาก (ไปเติมคำกันเอาเองนะครับ)
โฆษณา