5 พ.ย. 2019 เวลา 16:55 • ไลฟ์สไตล์
ความทรงจำในวันวาน(ต่อ ตอนที่2)
เหมือนทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นหลังจากที่
ยายได้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาอยู่บ้าน
ลูกหลานก็ได้โล่งใจ ที่ยายยังอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ต่อ
Cr. Manoot_Si
(เพื่อที่จะเข้าใจเรื่องราวมากขึ้น
โปรดอ่านความเดิมตอนที่แล้ว)
แต่......มันก็แค่เหมือนเพราะหลังจากที่ยายออกจากโรงพยาบาลได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ท่านก็ต้องถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งด้วยอาการที่หนักกว่าเดิม จากครั้งที่แล้วที่สอดสายระโยงระยางเป็นโรคไตขั้นที่ 4 เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ทันมีสิทธิ์หยุดหายใจได้ตลอดเวลา พูดไม่ได้ มันมีอาการที่หนักมากกว่านั้นอีกใช่ไหม ยายพักรักษาตัวอยู่ในห้อง CCU ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าโรงพยาบาลและยังคงอยู่ในนั้นอาการก็ดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ
ความรู้สึกของฉันในครั้งนี้ไม่ต่างจากรอบที่แล้วเท่าไหร่หรอก แต่ดีขึ้นมาหน่อยที่ฉันปลงได้บ้าง ถึงแม้จะ ไม่อยากให้เกิดมากเพียงใด แต่มันก็ไม่อยากที่จะหลีกหนีไม่พ้น ไม่ช้าหรือเร็วๆสักวันมันก็ต้องมาถึง ลูกหลานทุกคนมีความรู้สึกที่ไม่ได้ต่างกันเลย
แต่ว่าแม่ของฉันดูท่าว่าจะหนักที่สุด แม่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้แทบจะตลอดเวลา แม่เป็นคนที่ผูกพันกับยายมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เล็กจนถึงทุกวันนี้แม่กับยายก็อยู่ด้วยกันตลอด และทุกครั้งที่ยายไม่สบายแม่ก็จะเป็นแบบนี้เสมอ
ฉันก็ได้แต่บอกแม่ว่า
"แม่ ยายป่วยแบบนี้มาตั้งหลายปีแล้วนะ ตั้งแต่น้อยยังไม่เกิดด้วยซ้ำ แต่ยายก็อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ ยากเก่งมากเลยนะ แม่ต้องเชื่อสิ ว่ายายจะยังอยู่กับเรา เหมือนกับทุกครั้งที่เคยผ่านมา"
แต่อาการของยายคงจะหนักมากจริงๆ เพราะแม่บอกกับฉันว่า ไม่รู้ว่ายายจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน รีบมานะ มาดูใจยายเป็นครั้งสุดท้าย
คำว่า "ดูใจเป็นครั้งสุดท้าย" ลองจินตนาการดูความหมายของมันสิ มันคงถึงที่สุดแล้วจริงๆ
แต่ยังไม่หมดหวังหรอกยังมีวิธีที่สามารถรักษายาย อาการดีขึ้นได้ การทำบอลลูนขยายหลอดเลือดให้กว้างขึ้นเพื่อให้เลือดสามารถไปเลี้ยงหัวใจได้ และเราก็ ตัดสินใจรักษายายด้วยวิธีนี้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่า จะได้ผลมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
หลังจากที่ฉันสอบจบเสร็จ ฉันก็เดินทางไปเยี่ยมยายในวันรุ่งขึ้น อยากจะไปหาเสียวันนั้นเลยแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะว่ามันมืดแล้ว
ในการสอบครั้งนีเป็นการสอบจบที่ฉันไม่มีสมาธิ
ไม่ได้อ่านหนังสือสอบเลย แม้แต่โจทย์บางข้อฉันก็ยังไม่อ่าน ฉันรู้ดีว่าทำแบบนี้มันมีแต่จะส่งผลเสียแต่ทำยังไงได้เพราะจิตใจของฉัน มันไม่ได้จดจ่ออยู่ที่หนังสือ ตำราเรียน หรือผลการสอบในครั้งนี้เลย แต่มันอยู่ที่ห้อง CCU ที่ยายฉันพักรักษาตัวต่างหาก
ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล สีหน้าอมทุกข์ของแม่และญาติๆ ที่ฉันเห็นแล้วยิ่งทำให้รู้สึกใจคอไม่ดี
ฉันก้าวเท้าเดินตามแม่เข้าไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วย ล้างมือทำความสะอาดแล้วจึงสาวเท้าเดินเข้าไปหายายที่ใส่เครื่องช่วยหายใจนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ร่างกายซูบผอมเหมือนมีแต่หนังหุ้มกระดูก สายตาที่ทอดมองมาที่ฉันพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเปื้อนเปรอะใบหน้าที่มีรอยยับย่นตายอายุ ปากที่พยายามขยับพูดกับฉัน แต่ท่านไม่สามารถทำได้ทำได้เพียงแค่มองฉันแล้วส่งผ่านความรู้สึกออกมาทางสายตา
ฉันเข้าไปกราบและกอดท่าน จับมือท่านเอาไว้ ถามไถ่อาการพร้อมกับบอกให้หายป่วยไวๆ
ถึงท่านจะไม่สามารถพูดกับฉันได้แต่ท่านก็เขียนคำพูดสื่อสารกับฉันเท่าที่เรี่ยวแรงของท่านจะทำได้ แม้ต้องใช้เวลาในการแกะว่าท่านเขียนว่าอะไรก็ใช้เวลาพอสมควร ท่านเขียนหลายประโยคเลยนะ แต่ประโยคสุดท้ายที่เขียนก่อนจะหมดเวลาเยี่ยมคือ "ไห้เฮ็ดหยัง" เจอแบบนี้เข้าไปก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมสิ ยายเองก็ร้องไห้นะแต่ก็ยังถามลูกหลานอีกว่าร้องไห้ทำไม
หมอบอกว่าช่วงบ่ายจะผ่าตัดทำบอลลูนให้ยาย อาการของยายตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าเมื่อครั้งมาโรงพยาบาลตอนแรก แต่อาการก็ยังน่าเป็นห่วง ถ้าการรักษาทำสำเร็จอาการของยายก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่ออกมาจากห้องผู้ป่วยแล้วฉันและแม่กับญาติๆที่มาเยี่ยมยาก็พากันไปหาของกิน และนั่งรอเวลาที่ยายต้องเข้าห้องผ่าตัด แต่ก็คงจะนานเกินไปจนญาติพากันไปหาที่เดินเล่นคลายเครียดกันไปแต่แม่พาฉันมาที่ห้องพักญาติเพื่อจะมาพักและเอากระเป๋ามาเก็บไว้เพราะคืนนี้ฉันจะนอนเฝ้ายายเป็นเพื่อนแม่ที่ก่อนหน้านี้ป้าจะอยู่เฝ้ากับแม่แต่เพราะฉันมาเลยให้ฉันนอนที่นี่เป็นเพื่อนแม่เลย
ซึ่งเมื่อเข้ามาในห้องพัก ฉันก็ได้พบกับคนในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งเธอเป็นเจ้าของร้านค้าหน้าโรงเรียน ที่ฉันเคยไปเกาะรั้วตะโกนซื้อของเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก เธอมาเฝ้าสามีของเธอที่ป่วย อาการหนักเหมือนกัน แล้วก็เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจเหมือนกันกับยายของฉันอีกด้วย
เมื่อเวลาผ่านไปจนบ่ายคล้อย เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คนที่โทรมาคือพยาบาล ที่โทรมาบอกว่าคุณยายจะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว ให้ญาติเข้าไปรอที่ข้างๆ เมื่อได้รับแจ้งจากพยาบาลแล้ว จึงได้ติดต่อหายากคนอื่น ก็บอกว่ายายกำลังเข้าห้องผ่าตัดแล้ว
พวกเรานั่งรออยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ดูจากโต๊ะภายในห้องแล้วไม่ต่างจากห้องประชุม ซึ่งอยู่ไม่ไกลห้องผ่าตัด ครั้งแรกที่เข้ามานั่งรอก็มีเสียงพูดคุยกันบ้าง แต่พอเราไปสักพัก ความเงียบก็เข้าปกคลุมความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่มันทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้ความรู้สึกของคนที่รอ เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่ในความรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาช่างผ่านไปนานแสนนาน
และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดลง พวกเราเดินไปฟังผลจากหมอที่ทำการรักษา แล้วมันก็ทำให้เรายิ้มออก เมื่อการรักษา ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเป็นที่น่าพอใจของหมอ เชื่อว่าอีกไม่นานยายก็จะกลับมาร่างกายแข็งแรง
Cr. Manoot_Si
To be continued......
เพิ่มเติม
CCU คืออะไร ? หลายๆคนคงจะคุ้นกับห้อง ICU
แต่อาจจะไม่รู้จัก CCU
CCU (Coronary Care Unit, Cardiac Care Unit หรือ Critical Care Unit) เป็นห้องที่ใช้เพื่อทำการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดโดยเฉพาะ โดยผู้ป่วยทั้งหมดที่อยู่ภายในห้อง CCU จะมีความรุนแรงของอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจและหลอดเลือดในระยะวิกฤต จากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจล้มเหลว ได้รับบาดเจ็บที่หน้าอกอย่างรุนแรง หรือผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเปิดทรวงอกก็จะต้องเข้ารับการรักษาภายในห้องนี้ด้วย
ทั้งนี้บุคลากรที่ทำงานภายในห้อง CCU จะเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับระบบการทำงานของหัวใจโดยตรง และอุปกรณ์ภายในห้อง CCU จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจโดยเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้การรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วยวิกฤตอีกด้วยค่ะ
CU และ CCU แตกต่างกันอย่างไร
ห้อง ICU และ ห้อง CCU มีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยวิกฤตเหมือนกัน แต่ห้อง ICU จะเป็นผู้ป่วยวิกฤตจากระบบอวัยวะหลาย ๆ จุดล้มเหลวพร้อมกัน และจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตโดยเร็วที่สุด
ส่วนห้อง CCU จะเน้นรักษาผู้ป่วยวิกฤตที่ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือดโดยเฉพาะ ซึ่งระบบหัวใจและหลอดเลือดถือเป็นระบบที่ละเอียดอ่อนมากที่สุดในร่างกาย จำเป็นจะต้องเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดมากที่สุด การรักษารวมกันในห้อง ICU อาจจะทำให้แพทย์ทำงานได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร
ทั้งนี้แม้ว่าห้อง ICU และ CCU จะแบ่งแยกหน้าที่ในการดูแลรักษาผู้ป่วยกันอย่างชัดเจน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของโรงพยาบาลในแต่ละแห่งอีกด้วยว่า ห้อง ICU และห้อง CCU นั้นมีจุดประสงค์ในการใช้งานอย่างไร โดยบางโรงพยาบาล ห้อง CCU อาจจะใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไตในขั้นวิกฤตได้ด้วยเช่นกันค่ะ
ที่แรกแอดก็ไม่ได้รู้จักหรอกแต่พอเจอเรื่องนี้เท่านั้นแหละรู้จักทันทีเลย
สอบจบ
เป็นการสอบวัดความรู้ทุกอย่างที่ได้เรียนมาว่ามีความรู้มากน้อยแค่ไหนจากที่ได้เรียนมาตั้งแต่เทอมแรกจนถึงเทอมสุดท้าย
Talk ....
ยังมีต่ออีกนะคะแต่เริ่มจะเบลอๆละอาจจะ
ทำให้เล่าได้ไม่สมูทเท่าไหร่ แต่ก็...ช่างเถอะเนาะ
แล้วไว้มาต่อตอนหน้านะคะ
จากที่อ่าน comment ในบทความก่อนหน้านี้
ทำให้รู้สึกว่าไม่มีใครสงสัยว่าเรื่องนี้เป็น
เรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง คงเป็นเพราะว่า
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ทุกคน ต่างต้องประสบ
พบเจอ ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าๆถือว่าเร็วก็เท่านั้นเอง
ถ้าคุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ซึ่งก็...ใช่ค่ะ
คุณคิดถูกแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเป็นเรื่องของแอดเองนี่แหละที่เอามาเล่าก็เพราะว่าอยากเล่า เอาไว้เล่าจบจะสรุปให้นะคะว่าเล่าทำไม แล้วก็ขอบคุณคำอวยพรวันเกิดนะคะ
ซึ่งก็ใชค่ะ่เดาอวยพรถูกวันนะคะว่าเรื่องเกิดช่วงนี้ วันนี้แอดอายุครบ 23 ปี แก่ขึ้นอีกปีละ เดี๋ยวปีต่อๆไปก็จะลืมๆนับแล้วเดี๋ยวจะรู้ว่าตัวเองแก่😁😁
สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
~มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก~
โฆษณา