11 พ.ย. 2019 เวลา 11:39 • การเมือง
ฟุนซินเปกหายไปไหน
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
ก่อนเปิดภัตตาคารไทยที่กุ้ยหลิน 1 คืน มีผู้ใหญ่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีล่วงหน้าจากกรุงปักกิ่งและเมืองอี้อู
นอกจากจะคุยกันเรื่องโรงงานสกัดสารซีบีดีจากกัญชงแล้ว ก็ยังคุยกันถึงประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะกัมพูชา
ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสนทนาถึงเจ้านโรดม รณฤทธิ์ และพรรคฟุนซินเปก ซึ่งในอดีตท่านเคยได้พบผู้นำและสมาชิกพรรคสำคัญบางคน
ผมบอกเดี๋ยวนี้ แทบจะไม่มีชื่อของเจ้ารณฤทธิ์และพรรคฟุนซินเปกในเวทีการเมืองของกัมพูชาแล้วครับ
ท่านถามว่าพรรคฟุนซินเปกหายไปเพราะอะไร
ผมตอบรับใช้ท่านว่าพรรคนี้เสื่อมจากการที่เข้าไปร่วมรัฐบาลเมื่อ พ.ศ. 2551
ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคประชาชนกัมพูชาได้ ส.ส.มากถึง 90 คน จึงสามารถตั้งรัฐบาลได้เพียงพรรคเดียว รัฐธรรมนูญกัมพูชาเขียนไว้ว่า พรรคที่มี ส.ส. เสียงข้างมาก หรือเกินกว่าร้อยละ 50 ของ ส.ส. ทั้งหมด ไม่ติดขัดกับเงื่อนไขที่จะต้องมี ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของทั้งหมด
แต่สมเด็จฮุนเซนให้ฟุนซินเปกร่วมรัฐบาลได้ ถ้ายอมเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค พรรคฟุนซินเปกซึ่งอดอยากปากแห้งมานาน
ความที่อยากเข้าร่วมรัฐบาล สมาชิกพรรคจึงโหวตเอานายเขียว พุธ รัสมี (ที่มีภริยาชื่อเจ้าหญิงอรุณ รัสมี พระธิดาในสมเด็จนโรดม สีหนุ) ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเอาพลเอกเนก บุญชัย เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคแทน
อย่างที่ผมเคยเรียนรับใช้ไปแล้วนะครับ ว่าการเมืองกัมพูชาตั้งแต่ดั้งเดิมเมื่อ พ.ศ. 2536 โน่นแล้ว ที่ผู้คนแบ่งความนิยมออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเอาเจ้า อีกฝ่ายหนึ่งไม่เอาเจ้า
ประชาชนที่ไม่เอาเจ้ามักจะเลือกพรรคประชาชนกัมพูชาของสมเด็จฮุนเซน ประชาชนฝ่ายนิยมเจ้าจะเลือกพรรคฟุนซินเปก
นายเขียว พุธ รัสมี (ซึ่งมีภรรยาเป็นเจ้าหญิง) จึงเป็นหัวหน้าพรรคที่มาจากราชวงศ์หรือเกี่ยวข้องกับพระราชวงศ์ที่ต้องกระเด็นออกไปจากพรรค
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พรรคฟุนซินเปกก็หมดความขลังต่อประชาชนที่นิยมเจ้า
การเลือกตั้ง พ.ศ. 2556 พรรคฟุนซินเปกจึงได้คะแนนจากประชาชนทั่วประเทศเพียง 2.4 แสนคะแนน
คะแนนจิ๊บจ๊อยเพียงเท่านี้ กกต. กัมพูชาไม่จัดสรรให้ได้ที่นั่งในสภาดอกครับ
การเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 พรรคฟุนซินเปกก็ไม่ได้ ส.ส.
สมาชิกพรรคในขณะนั้นต่างโหยหาความรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้งในอดีตที่พรรคของตนเคยมี ส.ส. มากถึง 58 ที่นั่ง (2536) 43 ที่นั่ง (2541) 26 ที่นั่ง (2546) 2 ที่นั่ง (2551) ซึ่งภายหลังเหลือเพียง 0 ที่นั่ง (2556) และ 0 ที่นั่ง (2561)
ความตกต่ำของพรรคฟุนซินเปกมาจากหัวหน้าพรรคคนแรกคือ เจ้ารณฤทธิ์ ที่เป็นนักการเมืองที่ไม่เด็ดขาด เมื่อมีอำนาจ ท่านไม่รักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนและไม่มุ่งมั่นสร้างความนิยมในหมู่ประชาชน
พ.ศ. 2551 ขณะที่พรรคฟุนซินเปกยังมีความนิยมอยู่ เจ้ารณฤทธิ์ก็ยังแยกตัวออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อพรรคนโรดม รณฤทธิ์
และเมื่อเข็นพรรคนโรดม รณฤทธิ์นี้ลงสนามเลือกตั้ง ประชาชนทั้งประเทศมอบความไว้ใจให้เพียง 3.3 แสนคน
ในขณะที่พรรคสม รังสีซึ่งประชาชนมองว่ามีความมุ่งมั่น สู้จริง ไม่ใช่กลัวๆ กล้าๆ ได้ ส.ส. ในครั้งนั้นมากถึง 26 คน
พ.ศ. 2556 สมาชิกพรรคฟุนซินเปกต้องการรื้อฟื้นความนิยมจากประชาชนที่นิยมเจ้า ก็ไปเอาท่านนโรดม อรุณ รัสมี มาเป็นหัวหน้าพรรคฟุนซินเปก แต่ก็ไม่ได้ ส.ส.สักคนเดียว
ฟุนซินเปกเป็นพรรคการเมืองที่เป็นเม็ดข้าวสาร ให้เอาไปหย่อนในสถานที่อุดมสมบูรณ์อย่างไร ก็ไม่สามารถงอกเป็นต้นกล้าได้ดอกครับ.
โฆษณา