23 พ.ย. 2019 เวลา 02:12
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย
Interstellar
ให้รักนำทาง...ท่ามกลางดวงดาว
ความรักไม่ขึ้นกับกาลเวลา และไร้ซึ่งสถานที่ใด
ความรักเป็นอเนกอนันต์ ไร้ขอบเขต ไร้มิติ ไร้กาลเวลา
คูเปอร์ นักบินอวกาศที่ต้องจากลูกสาวอันเป็นที่รัก
เพื่อจะเดินทางไปหาดาวงดวงใหม่ให้แก่ลูกสาว และมวลมนุษยชาติ
การเดินทางอันยาวนาน ผ่านรูหนอนที่ถูกวางไว้ ใกล้ดาวเสาร์
การเดินทางที่เสี่ยงยิ่งกว่าเสี่ยง
หนึ่งเดียวที่นำทางคูเปอร์ให้เดินทางจากไปคือ ความรักของพ่อที่มีต่อลูก
เช่นเดียวกับ เมอร์ฟ เด็กสาวอัจฉริยะ ผู้เป็นที่รักของคูเปอร์
เธอไม่เข้าใจทำไมพ่อต้องเสี่ยงชีวิตออกไปอวกาศ ทิ้งเธอไว้ที่นี่บนโลกที่กำลังพังทลายด้วยฝุ่นพิษ
เมอร์ฟโกรธ เสียใจ และสับสนที่พ่อหายไปจากชีวิต
ลึก ๆ เมอร์ฟยังเชื่อมั่นคำสัญญาที่พ่อบอกกับเธอว่า จะกลับมาหาเธอในที่สุด
แต่ยิ่งวันเวลาผ่านไป เมอร์ฟยิ่งไม่แน่ใจมากขึ้น ๆ กับคำสัญญานั้น
กระทั่งเธอก็ค้นพบว่า พ่ออยู่กับเธอเสมอ และตลอดเวลา
หนึ่งเดียวที่นำทางคูเปอร์ให้เดินทางกลับมาได้คือ ความรักของลูกที่มีต่อพ่อ
แม้ความเวิ้งว้างไร้ทิศทาง ไร้ขอบเขต ไร้มิติ ไร้กาลเวลา
แต่ความรักจะเป็นอเนกอนันต์
เพราะความรักนั้นจักพาให้เราคืนกลับมาหาคนที่เรารัก
หลายคนอาจมอง Interstellar ในฐานะหนังไซไฟแฝงปรัชญา แต่ในมุมมองของผม คริสโตเฟอร์ โนแลน เล่าเรื่องที่เบสิคที่สุดของมนุษย์ ภายใต้ฉากหน้าเรื่องยาก ๆ ทางวิทยาศาสตร์ เรื่องเบสิกนั้นเราเรียกวา “ความรัก”
เพราะเมื่อมองลึกลงไป เราเห็นความรักอยู่ในหนังผ่านตัวละครต่าง ๆ และความรักนี่ล่ะคือแรงขับเคลื่อนให้ตัวละครทั้งหลายเลือกจะทำบางสิ่งเพื่อคนที่ตนรัก
ความรักของพ่อกับลูกสาว คูเปอร์กับเมอร์ฟ
คูเปอร์ต้องทิ้งลูกสาวที่เขาดูแลมาตั้งแต่เกิด
ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้อยากจะจากเธอไป
อยากเฝ้าดูเธอเติบโตตามวัย มันเป็นความต้องการพื้นฐานของคนเป็นพ่อ แต่คูเปอร์ต้องไปเพราะ โลกใบนี้กำลังพังทลาย หนทางเดียวคือค้นหาดวงดวงใหม่ที่มนุษยชาติสามารถตั้งรกรากใหม่ได้
ดังนั้นจึงเป็นเพราะความรักที่นำทางให้คูเปอร์ต้องจากไป
เช่นเดียวกับเมอร์ฟที่ทั้งชีวิตของเธอคือการมีพ่อคอยอยู่เคียงข้าง กระทั่งวันที่พ่อต้องทิ้งเธอไป และอยู่กับคำถามที่ว่าทำไมพ่อต้องทำแบบนั้น กระทั่งเมื่อวันที่เติบโต เมอร์ฟเรียนรู้มากขึ้น
เธอคาดหวังว่าพ่อจะกลับมาตามคำสัญญาใน
สักวัน
แต่วันผ่าน เดือนผัน ปีเปลี่ยน หลายปีนานเข้าจนเมอร์ฟเริ่มไม่แน่ใจ แต่ในที่สุดเมอร์ฟก็พบว่าพ่อไม่เคยห่างหายจากเธอไปไหนเลย เพียงแต่เธอไม่เคยมองเห็นมันต่างหาก
และก็เพราะความรักของเมอร์ฟที่นำทางให้แก่คูเปอร์หาหนทางกลับมาเธอ
ความรักของพ่อกับลูกสาวอีกคู่หนึ่งก็คือ ศจ.แบรนด์ ผู้พ่อกับ แบรนด์ ผู้ลูก สิ่งที่ศจ.แบรนด์ทำคือการส่งลูกสาวออกไปเผชิญอันตรายภายนอกโลก ทั้ง ๆ ที่มีนักบินอวกาศคนอื่นที่พร้อมจะร่วมภารกิจนี้ได้
ศจ.แบรนด์มีเป้าประสงค์ลึก ๆ อยู่ภายใต้ภารกิจครั้งนี้ และทั้งหมดที่ตนเองทำก็เพื่ออนาคตของลูก แม้ว่าสุดท้ายใครจะมองว่าเห็นแก่ตัวก็ตาม
ความรักของคู่รักที่ตามหา แบรนด์ ขออาสาร่วมในภารกิจสำรวจดวงดาวครั้งนี้ แม้ว่าจะเหมือนทำเพื่อมวลมนุษยชาติ แต่ลึก ๆ แล้วภารกิจหลักของเธอเป็นการตามหาคนรักที่หายไปจากกลุ่มทีมสำรวจชุดแรก แต่สุดท้ายแบรนด์ก็พบว่าความรักที่เธอตามหา บางทีมันอาจอยู่ใกล้ตัวเธอจนคาดไม่ถึง สัมผัสไม่ได้
เหนือสิ่งอื่นใด Interstellar คือหนังที่แสดงออกถึงความรักที่ คริสโตเฟอร์ โนแลน มีต่อโลกใบนี้ ผ่านการสอดแทรกภาวะวิกฤตจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ภาพพายุฝุ่น โลกร้อนจนเพาะปลูกไม่ได้ ตลอดจนโลกที่กำลังจะตาย คือสิ่งที่โนแลนส่งต่อไปถึงคนดู และหวังว่าพวกเราจะรักและรักษ์โลกใบนี้กันให้มากขึ้น
ถือเป็นการเล่น ‘ท่ายาก’ และ ‘ทะเยอทะยาน’ ที่สุดของผู้กำกับพิศมัยความสมบูรณ์แบบอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน แน่นอนที่การนำเสนอยังคงไม่ได้ตามลำดับเวลาอันเป็นลายเซ็นของโนแลน หนังมีกลิ่นไอของ 2001: A Space Odyssey ในส่วนที่อิงปรัชญา และ Contact ของโรเบิร์ต เซเมกคิส ว่าด้วยการเดินทางผ่านรูหนอน (Wormhole) ฉากในไร่และค้นเจอสัญญาณรหัสมอส ก็ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง Sign ของเอ็ม ไนท์. ชยาลามาล แต่เมื่อผสมผสานกันก็มีความเป็นซิกเนเจอร์แบบหนังโนแลน ซับซ้อนในวิธีการเล่า แต่ทำให้คนดูต้องครุ่นคิดเมื่อหนังจบ
แมธิว แม็คคอนนาเฮย์ ที่ปัจจุบันเลื่อนสถานะเป็นนักแสดงชายระดับ A Class พ่วงท้ายดีกรีรางวัลออสการ์ ถูกเลือกมารับบท คูเปอร์ อดีตนักบินพ่อม่ายเรือพ่วง เรื่องการแสดงหายห่วงแม็คคอนนาเฮย์ถ่ายทอดให้เห็น ชายผู้เป็นพ่อที่ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว และรับผิดชอบในฐานะผู้กอบกู้โลก ฉากที่คูเปอร์ต้องจากลูกสาวไปในภาวะจำเป็น และการดูภาพวีดีโอบนยานอวกาศ คือการแสดงอันยอดเยี่ยมของแม็คคอนนาเฮย์ นี่คือหนึ่งในนักแสดงชายที่คนดูพร้อมจะเทใจให้ไม่ว่าจะสวมบทใดก็ตามนั่นทำให้ตัวละครที่เจ้าตัวสวมบทจับใจคนดูเป็นตัวประกันไว้แล้ว และถ้ายังพอจำกันได้ Contact หนังว่าด้วยการเดินทางในอวกาศผ่านรูหนอน มีนางเอกคือ โจดี้ ฟอสเตอร์ ส่วนพระเอกคือ แมธิว แม็คคอนนาเฮย์ คนนี้นี่เอง
1
แอนน์ แฮธาเวย์ ที่เคยร่วมงานกับโนแลนในบท แคทวูแมน กลับมาร่วมงานอีกครั้งในบท แบรตต์ นักวิทยาศาสตร์หญิงที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ ที่มุ่งมั่นที่จะไม่ให้ภารกิจนี้ต้องมีอันเป็นไป แฮธาเวย์สามารถเอาตัวรอดไปได้ แม้จะดูไม่เชื่อนักในบทนักวิทยาศาสตร์ก็ตาม
บท เมอร์ฟ ลูกสาวอัจฉริยะของคูเปอร์ ใช้นักแสดงสามช่วงชีวิต วัยเด็ก แม็คเคนซี ฟอยย์ หนูน้อยแสดงให้เห็นความเป็นเด็กฉลาด แต่ไม่แก่แดด รักและผูกพันกับพ่อมากเพียงใด วัยสาว เจสสิกา แชสเทน ทำหน้าที่ถ่ายทอดภาวะลูกสาวที่เลือกเดินเส้นทางในฐานะนักวิทยาศาสตร์ อยู่กับความหวังว่าพ่อคงไม่เคยทิ้งไปและรอคอยการกลับมาในสักวัน และสุดท้าย อัลเลน เบอร์สตีน ในช่วงวัยชราที่ค้นพบบางสิ่งในชีวิต
ร่วมด้วย ไมเคิล เคน อีกหนึ่งขาประจำหนังของโนแลน รับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์ แบร็ตต์ผู้พ่อ เจ้าของโครงการ
จอห์น ลิธกาวด์ ในบท โดนัลด์ พ่อตาของคูเปอร์
เคซีย์ แอฟเฟล็ก น้องชายของเบ็น แอฟเฟล็ก ในบท ทอม ลูกชายคูเปอร์, เวส เบนท์ลีย์ ในบท ดอล์ย หนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์ และ แม็ตต์ เดมอน ในบท ดร.แมนน์ ที่สำคัญอย่างไรไปดูในหนังเอง แต่นี่คือหนึ่งในการแสดงรับเชิญในบทที่คนดูไม่เคยเห็นเดมอนแสดงอย่างแน่นอน
และมาแต่เสียง แต่ให้ความรู้สึกผูกพันกับคนดูมากเป็นพิเศษ ก็คือหุ่นยนต์ประจำยาน ทาสก์ ให้เสียงโดย บิลล์ ไอวิน คนดูรู้สึกใจหายกับชะตากรรมของเจ้าหุ่นทาสก์ตัวนี้ไม่แตกต่างจากลูกวอลเลย์บอลวิลสันใน Cast Away
บทหนังของ สองพี่น้องโนแลน โจนาธาน และคริสโตเฟอร์ ครั้งหนึ่งมันเคยผ่านมือของพ่อมดฮอลลีวู๊ด สตีเวน สปีลเบิร์ก ก่อนจะกลับมาอยู่ในมือของโนแลนอีกครั้ง เทคนิคด้านภาพผ่านการถ่ายทำขอ งฮอยต์ ฟาน ฮอยต์มา โลเกชั่นต่าง ๆ สร้างความตื่นตาและตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นไร่ข้าวโพดในฟลอริดา, ธารน้ำแข็งไอซ์แลนด์ที่คงบรรยากาศดาวน้ำแข็ง, ภาพอวกาศอันเวิ้งว้าง
ไม่ว่าชีวิตจะถูกลิขิตไว้ด้วยอะไรก็ตาม แต่ตราบที่ยังมีลมหายใจ เราก็ไม่ควรท้อถอยต่ออุปสรรคต่าง ๆ และเมื่อเราหลงทางในชีวิตที่มืดมน ความรักจากคนในครอบครัวจะเป็นเหมือนแสงสว่างนำทางเราให้พบเจอทางออก เพียงเพราะเรารู้ว่า ใครรอคอยเราอยู่ที่บ้าน
***สืบเนื่องมาจาก พี่หนังหลายมิติ เขียนถึงหนัง Interstellar ในมุมหลายมิติที่อธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ผมจึงขอร่วมสนุกสไตล์เพจหนังที่เล่าต่อกันภายใต้จักรวาลเดียวกัน เหมือนที่บรรดาเพจนิยายเขาเขียนต่อกันมาแล้วเป็นทอด ๆ โดยผมจะว่าด้วยเรื่องอารมณ์ของหนัง เพราะธีมหลักของ Interstellar คืองานที่ว่าด้วยความรัก การจากไป และหวลคืน โดยมีความรักนำทาง แฝงด้วยความเชื่อที่ว่า ‘ชีวิตถูกลิขิตแล้วโดยอะไรบางสิ่ง’ ถือว่าเป็นการทำงานร่วมกันในหนังเรื่องเดียวกันครับ
Interstellar (2014) Directed: Christopher Nolan/Staring: Matthew McConaughey, Anne Hathaway, Jessica Chastain, Michael Caine, Bill Irwin/Screenplay: Jonathan Nolan, Christopher Nolan/Music: Hans Zimmer/Cinematography: Hoyte van Hoytema/Editted: Lee Smith/Distributed: Paramount Pictures, Warner Bros. Pictures/Running time: 169 Mins./Rated: PG-13
ขอบคุณที่มาต้นทางของบทความชิ้นนี้: เพจ หนังหลายมิติ บทความ ‘รู้จัก “ทฤษฎีรูหนอน” จากหนังเรื่อง Interstellar
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMdb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Youtube
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDb
โฆษณา