บันทึกอายุ 23 ปีครั้งแรกและครั้งเดียวของผม
บทความนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ สุขภาพหรือการลงทุน แต่เป็นเรื่องราวของผมที่ผ่านมา
เวลา 23 ปีนับถอยหลังไปจากวันนี้ ถ้าดูเวลาตามสูติบัตรจะเป็นเวลาประมาณ 02.02 น. ซึ่งผมก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่ามันใช่เวลานี้จริงหรือไม่ หรืออาจจะเป็นเพราะหมอชอบเวลานี้ จึงได้เลือกเวลานี้ให้กลายเป็น...
"วันและเวลาเกิดของผม" ประทับลงในสูติบัตรเรียบร้อย
และนี่คือเหตุการณ์ที่สำคัญที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคุณผุ้อ่านในด้านแง่คิด การใช้ชีวิตต่างๆ ที่ผ่านมาตลอด 23 ปีครับ
1. การถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่จำความได้ ไม่ใช่เรื่องที่แย่ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไม่รัก แต่เป็นเพราะพ่อกับแม่อยากให้เราฝึกการอยู่ด้วยตัวเองให้เป็น เพราะวันนึง ถ้าเกิดว่าไม่มีพ่อกับแม่อยู่แล้ว เราก็ต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้
2. การตั้งใจเรียนในโรงเรียนประถม ไม่ได้ช่วยตัดสินว่าเราเป็นคนฉลาดหรือคนโง่ เพราะเด็กแต่ละคนมีทักษะแต่ละทักษะไม่เหมือนกัน ต้องใช้เวลาใการค้นหา บางคนโชคดีรู้ตั้งแต่ตอนเรียนประถมหรือมัธยม ช้าหน่อยก็มหาลัย หรือถ้าช้าที่สุดก็อาจจะเป็นเวลาสุดท้ายของชีวิตซึ่งก็อาจจะมาตอบคำถามตัวเองได้แต่อาจจะ "ช้าเกินไป" ฉะนั้น อย่าให้ใครมาบังคับหรืออย่าบังคับตัวเองทำในสิ่งที่ไม่ได้ชอบจริงๆ
3. พ่อกับแม่แต่ละคนไม่เหมือนกัน การพูดหรือการคิดว่าน่าจะเป็นลูกของคนนั้นคนนี้เป็นเรื่องที่เสียเวลาและไร้สาระที่สุด เพราะสุดท้ายก็จะกลายเป็นมุมมองของเราที่จะมองว่าพ่อแม่ของเราเป็นอย่างไร
4. ชีวิตมัธยมสนุกที่สุดเพราะเป็นวัยคึกคะนอง ร่างกายข็งแรง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ท้าทายกับกฏต่างๆของโรงเรียน วัยที่จะเป็นตัวตัดสินว่าเราจะมีนิสัยในระยะยาวเป็นอย่างไร การคบเพื่อน ทุกอย่างที่ต้องระวังควรจะเป็นวัยนี้
5. มหาลัยเป็นสถานศึกษาที่ต้องควบคุมตัวเองในระดับที่มากพอกับการเป็นผู้ใหญ่ เพราะต้องรับผิดชอบในเรื่องการเรียน กิจกรรม การใช้ชีวิต และการจัดสรรเวลาต่างๆเพื่อจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีหรือสมบูรณ์จะถูกปูรากฐานจากชีวิตในช่วงมหาวิทยาลัย
6. การเปิดโอกาสให้ตัวเราเองได้ทดลอง เรียนรู้จากเรื่องราวในชีวิต การเผชิญปัญหาต่างๆด้วยตัวเองในตอนชีวิตมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความรัก การเรียน การใช้ชีวิต สังคม เพื่อนฝูง ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง จึงไม่แปลกที่จะมีคนรับมือไม่ได้แล้วต้องจบชีวิตตัวเองไป
7. พอเข้าวันทำงานหรือเรียกได้ว่าเป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัว สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตการทำงานคือ "การควบคุมอารมณ์ของตัวเอง" ซึ่งตัวแปรนี้จะเป็นตัวกำหนดทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในชีวิตเช่นกัน เพราะอารมณ์ ณ เวลานั้น มีผมต่อ "การเลือก" ในเวลานั้นเสมอ
8. เรื่องเงินจะมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตการทำงาน ในลักษณะที่เข้ามาเกือบทุกด้านของชีวิต เป้าหมายการทำงาน เป้าหมายชีวิต มิติของความสัมพันธ์ อะไรทั้งหลายที่เคยได้ยินมา ล้วนมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องระวังการคิดและการมีสติในเรื่องเงินให้ดี เพราะเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อจิตใจของคนทำงานอย่างมาก
9. เมื่อเริ่มทำงานแล้ว จะมีคนเข้าหามากขึ้นหรือต้องเข้าหาคนมากขึ้น พอคนเยอะเรื่องก็เยอะ เกิดความเครียดจะส่งผลต่อสุขภาพในด้านร่างกายและจิตใจ การดูแลสุขภาพควบคู่ไปกับการดูแลจิตใจจึงสำคัญในลักษณะที่ว่าควรยึดมาเป็นเรื่อง "สำคัญอันดับแรก" ในชีวิต
10. การตั้งเป้าหมายชีวิตควรทำคนเดียว แน่วแน่ และรู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร เราทำอะไรได้ดี สิ่งที่ทำนั้นสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตเราและครอบครัวเราได้หรือไม่ คิดเยอะได้ แต่ต้องรอบครอบและใช้เวลา อาจจะยังไม่ต้องมีตอนนี้แต่ก็ควรมีให้ไวที่สุด
11. อย่าฟังคนอื่นเยอะ รู้เยอะ ก็ไม่อยากทำอะไรกันพอดี
12. รักษาคนรอบตัวที่ดีกับเราไว้ให้ดีๆ เพราะสุดท้าย ในวันที่เรามีครบทุกอย่าง ถ้าเกิดว่าไม่มีผู้คนเหล่านี้ที่คอยช่วยเหลือเรา ทุกสิ่งที่ทำมาก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร จริงไหมครับ?
ผมขอให้บทความนี้กับคนที่มีวันเกิดวันนี้ เดือนเกิดเดือนนี้ หรือที่มีวันเกิดผ่านมาแล้ว กำลังจะมาถึง
เพื่อเป็นการจรรโลงใจ ให้ข้อคิด บางข้อก็อจจะปลง บางข้ออ่านแล้วอาจจะฮึกเฮิมบ้างผสมกันไป
สุดท้าย "สุขสันต์วันเกิดนะครับ"
ชอบบทความอย่าลืม "กดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเพจ" ไว้ด้วยเด้อ เจอกันบทความต่อไปนะครับ
บันทึกประจำวันที่ 101 จากสรุปของฉันในวันนี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
