1 ธ.ค. 2019 เวลา 15:43 • บันเทิง
23. ค้นหาตัวรู้ในตัวเรา
Cr. Wordpress
“ตัวรู้ในจิตบอกว่า คนที่เล็กสอนการปฏิบัติทางจิตนั้น คือครูเพ็ญ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะ การพูดการจา ภาวะจิตเหล่านี้ น่าจะใช่ กลายเป็นว่า ใช่จริงๆ แล้วอยู่ดีๆ ครูเพ็ญก็มาถามเล็กว่า เธอใช่ไหมที่มาสอนฉันทางจิต ในตอนนั้นเล็กไม่ได้พูดอะไร...ได้แต่บอกว่า ถ้าครูอยากรู้ก็ดูให้ดีๆซิคะ
...นั่นเป็นวิธีกระตุ้นให้ครูเพ็ญ ขยันที่จะทำต่อไป ไม่ใช่ว่า มีอะไรมาถาม แล้วเราบอกๆ เขาจะได้อะไร ได้แค่ในสิ่งที่เราบอก เขาก็ต้องทำไขว่คว้าหาความรู้ให้ได้ได้คำตอบมาแค่คำเดียว
คำตอบคำเดียว กว่าจะหาคำตอบได้เป็นร้อยวิธี ร้อยวิธีประโยชน์เยอะ นั่นคือ สิ่งที่เล็กจะให้ ไม่ใช่เราไม่รู้ แต่เราอยากให้เป็นอย่างนี้ มีแรงฝึก มีแรงจูงใจ เราใช้การปรุงแต่งให้มีประโยชน์
พอมาปี 1 สอน สอน สอน คือ สอนอย่างเดียวทั้ง 2 ทาง (ทางจิต และ ทางกาย) จนในที่สุดสำเร็จด้วยดี ปัจจุบันไม่ต้องรีบมาก เป้าหมาย คือ คนนี้(ครูเพ็ญ) คุณจะต้องสอนเขาให้ได้ภายในระยะเวลาเท่านี้ 1 เดือน ต้องได้ ถ้าไม่ได้ตามเวลาที่กำหนดเล็กก็โดน ถามว่า เล็กรู้สึกอย่างไรถ้าจะถูกโดนทำโทษเล็กภูมิใจ”
“แล้วอะไรเป็นเหตุให้คนแต่ละคนเข้าถึงธรรมช้าเร็วต่างกัน” ผมจี้ในประเด็นที่สงสัย
“ปัญหาที่ทำให้จิตแต่ละดวงพัฒนาไปได้เร็วช้าต่างกันเพราะ 1.สมาธิไม่เที่ยง 2. สภาพสังคม สภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน การวัดผลต้องดูจากหลายเหตุปัจจัย แต่ถ้าข้างบนจริงๆ เขาตัดที่ 80 -90 แต่อีกหน่อย ก็เริ่มเคี่ยว เก่งแล้วก็ต้องเคี่ยว ใครจะมาตัดที่ 5 ตลอด แล้วเมื่อไรจะเก่งมันต้องขยับ 30 เขาสูงแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องพัฒนาระดับสภาวะจิต ถ้ามาตั้งเท่ากัน คนหนึ่งไม่เก่งเลย อีกคนเก่ง ทำให้ตายมันก็อยู่แค่นั้น แทนที่จะได้พัฒนามันก็อยู่แค่นั้นไม่ไปไหน อย่างครูเพ็ญตั้งไว้ที่ 30 จาก 100 ไม่ใช่เกิน 30 จะต้องเกินเยอะกว่า 30 ถึงจะผ่าน แบบทดสอบจะมาจากชีวิตประจำวัน
การออกแบบทดสอบ มันต้องทำมาเป็นทีม ถ้าไม่มาเป็นทีม เราไม่สามารถทำได้ ดวงจิตดวงหนึ่งที่ไม่ได้มารับการเรียนการสอนจากทางเรา เราจะวางแผนล่วงหน้า จะมีกลุ่มนี้ (เด็กห้อง 138 )ที่เล็กกำหนดระยะเวลา เพราะกลุ่มอื่นเขามีพื้นฐานมาเยอะกว่า เขาจะไม่ไปวัดนั่นคือข้อดีของเขา ทำไมเล็กถึงพูดว่าดี เพราะการไปวัด เป็นการไขว่คว้าหาความรู้จากข้างนอก
แต่การได้อยู่กับตัวเองพิจารณา เรื่อง กาย วาจา ใจ ของตัวเอง นั่นคือ การไขว่คว้าหาความรู้จากข้างในตัวเอง ซึ่งเป็นข้อดีมากๆ ทำให้เล็กสามารถสอนเขาง่ายขึ้น วิธีการสอนจะลัดขึ้น อย่างมีเด็กคนหนึ่งมา เล็กก็ดูว่า เขาเหมาะกับวิธีไหน เอาทีละวิธีป้อนไป อันไหนเขาไปเร็วก็ใช้อันนั้น ใช้เสร็จแล้วก็เช็ค นั่งสมาธิได้แค่ไหน ได้เท่านี้ๆ เรามีวิธีลัดให้เขาไหม หาวิธีลัดให้เขาแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางกลุ่มบอกตรงๆ เล็กให้ทำเป็นหัวข้อๆ ไป เขาสามารถแตกออกได้เป็น 100 แต่อีกกลุ่มให้หัวข้อไปแตกไม่ได้ แต่ละคนจึงให้ไม่เหมือนกัน แต่เราต้องจำได้ว่า เราให้อะไรเขาไปบ้าง มันไม่มีโจทย์บันทึก
ในการเลือกสอนธรรมแต่ละครั้ง จะดูตามวาระบุคคลที่ถูกจัดสรรมา สำหรับตัวเล็กเองเรียนอวิชชามาแล้วทุกอย่าง เรียนวิชาดีๆ ก็มาเยอะ แต่ไม่สามารถสอนทุกวิชาให้กับคนทุกคนได้ เพราะไม่เหมาะสมที่เราจะไปสอนเขา ไม่ใช่หน้าที่ของเรา สอนได้แต่เราทำเกินหน้าที่ มันก็จะผิดกฎว่า คนนี้ควรสอน คนนี้ไม่ควรสอน การจะเราสอนใคร เราเอาวิชาอะไรไปสอน เราก็ต้องขอครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์าก็จะเช็คอีกว่า สมควรสอนหรือไม่ ท่านจะคอยเป็นที่ปรึกษาให้ตลอดเวลา”
“แล้วใช้วิธีคัดเลือกศิษย์ยังไงครับ” ผมถาม
“ผู้ที่จะมาเรียนปฏิบัติธรรมทางจิตกับเล็ก เล็กจะใช้วิธีตรวจสอบทางจิตเป็นจำนวนหลายครั้งว่า บุคคลที่มาเรียนด้วยนั้นถูกจัดสรรมาแบบไหน (ต่อ)
โฆษณา