3 ธ.ค. 2019 เวลา 04:18 • ปรัชญา
การจัดสวน
วันนี้เป็นวันที่อากาศเริ่มหนาวเย็นลงมาก ความหนาวที่เริ่มเข้ามา อากาศและอุณหภูมิลดลง จึงอยากให้ผู้อ่าน และผู้เขียนทุกท่านดูแลสุขภาพกันให้ดีๆ นะครับ
หากขาดใครไปสักคนคงคิดถึงแย่เลย อย่างน้องsinin ที่ตอนนี้ดูแลคุณแม่ ก็ขอให้คุณแม่สุขภาพร่างกายดีขึ้น เพราะโรคภัยไข้เจ็บมันเป็นสิ่งที่เราเองก็ไม่ปรารถนา
เราไม่รู้ว่าโรคและความเจ็บป่วยจะมาเมื่อใด แต่เราสามารถป้องกันได้ ออกกำลังกาย ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ห่มผ้าหนาๆ และทำจิตใจให้ร่าเริง เบิกบาน
ดังที่พุทธศาสนสุภาษิต ได้กล่าวไว้ว่า อโรคยา ปรมา ลาภา แปลว่า การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ขยายความว่า การไม่มีโรคเป็นทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่เพราะมีค่ามากกว่าทรัพย์ เมื่อร่างกายและจิตใจดี ย่อมทำงานหาทรัพย์ได้
แต่ถ้าหากเจ็บป่วยต่อให้มีทรัพย์มากมายก็หมด เพราะต้องเอามาดูแลรักษาตนเอง เมื่อเจ็บป่วยจะทำอะไรก็ไม่อยากทำ ก็ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงด้วยเทอญ
เหมือนดังที่พระท่านให้พร ในยามที่เราทำบุญเสร็จ ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนศาลสมบัติ พลศาลสมบัติ ทุกประการเทอญ
ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ชอบค้นคว้าศึกษาหาความรู้ ใน bolckdit เองมีให้เลือกอ่านมากมาย ทั้งที่เป็นวิชาการ บทกลอน รื่นเริง เฮฮา และสร้างสรรค์ บทความที่ผมเข้าไปแสดงความคิดเห็นทุกบทความนั่นคือผมอ่านแล้ว
ผมจะได้ความรู้จากผู้เขียนในเรื่อง ภาษา สำนวณ โวหาร การถ่ายทอด อารมณ์ และแรงบันดาลใจ แต่ที่รู้ก็คือทุกคนต้องการเสนอในสิ่งที่ตนมีอยู่ให้ผู้อ่านได้ชื่นชอบ
ผมจึงชอบที่จะเข้าไปอ่านเพื่อดูลีลาการเขียน และต้องการความรู้เพิ่ม ผมไม่ได้สนใจเรื่องของวัยวุฒิ หรือคุณวุฒิ เพราะทุกคนคือ ผู้ให้ที่ประเสริฐ
ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า "เสฏฐนฺทโท เสฏฐมุเปติ ฐานํ" แปลว่า ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ
กล่าวคือ ให้กำลังใจ ให้ความรู้ ให้ขอคิด ให้ความสุข ที่เกิดจากการอ่านบทความ ดังที่พุทธศาสนากล่าวว่า การให้ธรรมที่สูงสุดคือ ธรรมทาน หมายถึง การให้อะไรก็ตามที่ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ เช่น การให้ความรู้ ให้อภัย ให้สติ ให้ข้อคิด เป็นต้น
ดังพุทธศาสนาสุภาษิต กล่าวไว้ว่า .. “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ แปลความว่า การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง” เราผู้เขียนบทความจึงได้ชื่อว่าผู้ให้ที่ชนะการให้ทั้งปวง
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เรื่องการจัดสวน ทั้งนี้การที่ผมไปในสถานที่ต่างๆ ก็เพื่อเรียนรู้การจัดสวนของแต่ละสถานที่ เพราะทุกที่จะต้องมีสวนให้เป็นที่ตอนรับน่าดึงดูดใจและดูสวยงาม
การจัดสวนในแต่ละที่จะมีรูปแบบและเอกลักษณ์ ในแบบฉบับแนวคิดของแต่ละคนที่แตกต่างกัน เมื่อมองโดยรวมแล้วถือว่าเป็นการจัดสวนที่ลงตัวและสวยงาม เหมือนการร้อยมาลัยที่นำดอกไม้หลายชนิด หลากสีมารวมกันเข้าให้เกิดความสวยงาม
การจัดสวนเองยังทำให้เกิดความสวยงาม การจัดสวน คือกิจกรรมที่เป็นศาสตร์ศิลป์และงานฝีมือที่เกี่ยวกับการปลูกและดูแลพืชรวมถึงสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงาม โดยทั่วไปแล้วจะเป็นกิจกรรมในบริเวณที่อยู่อาศัย ในบริเวณที่เรียกว่าสวน
การเขียนบทความก็เช่นกันที่ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ ที่นำเอาเอกลักษณ์ ความสามารถของแต่ละคน เขียนออกมาในแบบฉบับของตนเองที่ความถนัด สามารถถ่ายทอดแนวความคิด อุดมคติ และอารมณ์ ให้ผู้อ่าน ได้เกิดความเข้าใจและสนุกสนาน ร่วมกับผู้เขียน
การที่ผมเรียนรู้บทความจากลุงทัฟฟี่ คุณเป้ย คุณดาว วิถีแพทย์ไทยติดดิน น้องแพร พยาบาลเกษตร แม่เฒ่ากิมฮวย น้องมาย คุณข้าว กุญแจชีวิต น้องสินิน คุณชตระกูล คุณparadee คุณแว่น เรื่องสั้นๆ คุณหมี คุณแมว ความสุข การเดินทางของผีเสื้อ เก็บฝัน ได้ภาษาพาคิดบวก โค้ชพีค santi kato
และอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จักชื่อ ก็เพื่อนำมาใช้กับตนเอง ที่มีศาสตร์และศิลป์เฉพาะตนในการนำเสนอ
ทุกคนที่กล่าวมาเปรียบได้กับมิตรผู้ให้ความรู้ ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า "สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ จเรยฺย เตนตฺตมโน สติมา โน เจ ลเภถ นิปกํ สหายํ เอโก จเร น จ ปาปานิ กยิรา" แปลว่า ถ้าได้สหายผู้รอบคอบ พึงพอใจมีสติเที่ยวไปกับเขา ถ้าไม่ได้สหายผู้รอบคอบ พึงเที่ยวไปคนเดียว และไม่พึงทำความชั่ว
ขยายความ เราควรหาเพื่อนที่มีความรู้ แนะนำเรา แต่ถ้าหากยังไม่เจอเราควรอยู่คนเดียวเสียก่อน หรือ "ธีโร จ สุขสํวาโส ญาตีนํว สมาคโม" แปลว่า อยู่ร่วมกับปราชญ์นำสุขมาให้ เหมือนสมาคมกับญาติ
ดังในนิกายเซน กล่าวถึงบุคคลที่จะเรียนรู้อย่าเป็นชาล้นแก้ว เพราะจะไม่สามารถรับความรู้อะไรจากใครได้เลย
ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระสารีบุตรที่มีความฉลาดมากทำไมถึงยังบรรลุชา ก็เพราะ วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย ด้วยมีความรู้มากจึงเกิดความลังเล สงสัยทุกเรื่อง จนไม่รับเอาธรรมะที่พระพุทธเจ้าสั่งสอน
นักปรัชญาหลายท่านมักจะไปหาความรู้จากชาวบ้าน หรือคนอื่น โดยทำตัวเหมือนคนไม่รู้อะไร เช่น โสคราติส เพลโต และอริสโตเติ้ล เป็นต้น
เหมือนที่ขงจื้อกล่าวว่า 2 คน เดินมาต้องมีคนใดคนหนึ่งเป็นครูเรา และความรู้ข้างเตาถ่าน ที่บัณฑิตไปสอบจอหงวน ไปขอพักโรงแรมที่นอนเต็มได้นอนข้างเตาถ่านกับพ่อครัว ทั้งนั่ง และนอนคุยกันเขาได้ความรู้จากการทำอาหารมากมาย
ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า สากจฺฉาย ปญฺญา เวทิตพฺพา หมายความว่า ความมีปัญญา ย่อมรู้ได้จากการสนทนา ขยายความ ความรู้ทั้งปวงย่อมได้จากการพูดคุยกัน
การที่เราชอบดูการจัดสวนก็เพราะความชอบและนำมาปรับประยุกต์ใช้ ก็เหมือนบทความที่เราอ่าน ไม่มีใครรู้ทุกอย่างในโลกนี้ เพราะความรู้ที่เรารู้ยังไม่เท่าใบไม้ในกำมือ
กล่าวคือธรรมะของพระพุทธเจ้าที่สอนเท่ากับใบไม้ในกำมือ แต่ยังเหลืออีกมากมายในป่า ที่มีความหลากหลาย และไม่สามารถรู้ได้ทั้งหมด
การจัดสวนช่วยให้เราเกิดสมาธิ เพราะการจัดสวนทำให้เรามีความตั้งมั่นตั้งใจ จดจ่อกับสิ่งที่เราทำ จะรู้ว่าควรทำอย่างไรให้เกิดความสวยงาม ความสะอาด มีอะไรที่ควรดูแล และทำให้ออกมาดี
ก็เหมือนนิกายเซนที่ให้พระบวชใหม่ไปจัดสวน ดูแลสวน ให้ดี จะได้มีสติ และสมาธิกับงานที่ทำ และเก็บใบไม้ที่รกออกจากสวน
การเก็บใบไม้เป็นปริศนาธรรมที่ต้องการให้พระบวชใหม่ได้เข้าใจว่าจิตคนก็เหมือนกับสวน ใบไม้ก็เหมือนกิเลส ตัณหา โทสะ โมหะ และโลภะ ที่ต้องขจัดทิ้งไปจากจิต
เมื่อเข้าถึงระดับหนึ่งแล้วระดับถัดไปคือ จิตว่าง สูญญตา ศูนยตา ความว่างเปล่า คือการไม่มีจิต ดังโศลกของท่านฮุ่ยเหนิงที่มีความว่า
โพธิ์เดิมไร้ต้น
กระจกหามีไม่
เดิมทีไม่มีสิ่งใด
ฝุ่นเกาะที่ใดกัน
ขยายความ โพธิ์ คือ กาย, กระจก คือ จิต, ฝุ่น คือ กิเลส หมายถึง ถ้าไม่มีทั้งกายและจิตแล้วกิเลสจะไปอยู่ที่ไหน
การจัดสวนอาจทำนอกบริเวณที่อยู่อาศัยก็ได้เช่น สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ บริเวณสถานที่ท่องเที่ยว บริเวณโรงแรม/ห้างร้าน/บริษัท/หน่วยงานต่างๆ
โดยทั่วไปจะทำกลางแจ้งและทำบนดินแต่ก็อาจทำในร่มได้เช่น การจัดสวนในเรือนกระจก หรืออาจทำในน้ำได้การปลูกเลี้ยงสระบัว หรือแม้แต่การทำสวนพืชรากอากาศ อาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น สวนดอกไม้ สวนหิน สวนที่มีลักษณะที่สมดุลเช่นการจัดสวนแบบยุโรป หรือ ลักษณะการผสมผสานความไม่สมดุลเช่นการจัดสวนแบบญี่ปุ่น เป็นต้น
นอกเหนือจากการตกแต่งบ้านให้สวยงามแล้ว การจัดสวนก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้บ้านน่าอยู่น่าอาศัย เพราะการที่เรามีสวนที่สวยงามจะทำให้เรารุ้สึกว่าบ้านของเรานั้นหน้าอยู่
ประโยชน์ของการจัดสวน คือ
1. เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และช่วยสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้น
2. เพื่อพัฒนาความคิดของผู้จัดสวนอยู่เสมอ
3. เพื่อความสวยงามในที่นั้นๆ
4. ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนของในบริเวณนั้นๆ เช่นการปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงาในทิศตะวันตกของบ้านเพื่อบังแสงแดดที่ส่องเข้ามา
การจัดสวนจึงเป็นการเสียสละแรงกาย แรงใจ เวลา ความคิด และความรู้ของตนให้ผู้อื่นได้เชยชม ก็เหมือนการเขียนบทความที่มีความคล้ายกับการจัดสวนเพื่อให้ความรู้กับผู้อื่นได้เกิดข้อคิด และปฏิบัติตาม
ดังนั้นแล้ว นักเขียนทุกท่านเปรียบได้กับต้นไม้ ดอกไม้นานาชนิด ที่ถูกนำมารวมไว้ด้วยกันเพื่อจัดให้เกิดความสวยงาม เกิดความจรรโลงใจ และให้ความสุขกับผู้พบเห็น
เหมือนดังที่ทุกท่านได้เขียนบทความขึ้นมาก็เพื่อสร้างสิ่งที่ดีงามให้กับผู้อ่านได้เข้าถึง และเกิดความสุข จึงขอให้ทุกท่านหมั่นในการทำความดีนี้ตลอดไป ตราบนานเท่านาน
ด้วยรักและปรารถนาดี
ปล. บทความนี้จะทำให้รู้จักนักเขียนทุกท่านนะครับ เพื่อนำมาเขียนในบทความต่อๆ ไป หรือเพิ่มในบทความนี้
โฆษณา