4 ธ.ค. 2019 เวลา 13:20 • บันเทิง
2...
กลิ่นหอมกลางธารเลือด...ตอนที่ ๒
ชอลิ้วเฮียงไม่มีบ้าน แต่อาศัยอยู่ในเรือยอชต์ลำหรูจอดอยู่ริมทะเล...บ่ายวันนั้นแดด ลมค่อนข้างเย็น...เขานอนลูบคลำนางงามหยกขาวในมืออย่างชื่นชม...
โก้วเล้งบรรยายหน้าตาชอลิ้วเฮียงไว้...จัดว่าหล่อเข้ม เค้าหน้าเหี้ยมหาญเด็ดเดี่ยว ริมฝีปากบางแสดงถึงความทรนงหยิ่งในตัวเอง...แต่ดวงตาสุกใสเหมือนเด็ก และถ้าชอลิ้วเฮียงยิ้มเมื่อไหร่...ราวกับหิมะจะละลาย และแน่นอน สาวๆทั้งหลายก็พลอยละลายไปด้วย
ชอลิ้วเฮียงไม่ได้อาศัยอยู่ในเรือลำใหญ่คนเดียว แต่อยู่กับอีกสามสาว...สวยระดับนางเอกทั้งสามคน จำชื่อพวกเธอไว้หน่อย
อั้งซิ่ว...เตียมยี้ และย่งย้ง...
โก้วเล้งไม่ได้บรรยายชัดว่า ชอลิ้วเฮียงกับสามสาว มีความสัมพันธ์แบบไหน...จะว่าโคฮาสแบนด์ ก็คลุมเครือ
วันนั้นย่งย้งไม่ค่อยสบาย เป็นหวัด...ชอลิ้วเฮียงเลยนั่งหยอกล้ออยู่กับสองสาว แต่ไม่นาน...อั้งซิ่วก็ร้องว้ายขึ้นมาเบาๆ สายตาเธอมองลงไปในน้ำทะเล...
มีศพลอยคว่ำหน้ามาศพนึง...
หลังจากลากศพขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ...หลักฐานที่อยู่กับศพบอกได้ว่า คนนี้เป็นคนของพรรคดาวฟ้า
“นี่ไม่ใช่แค่คนของพรรคดาวฟ้า แต่เป็นตัวหัวหน้าพรรคเองเลย ชื่อ จ้ออิ่วเจ็ง”...ชอลิ้วเฮียงบอก แล้วลงมือสำรวจศพต่อ
“จากรอยกระดูกหักละเอียดที่ชายโครงซ้ายบวกรอยแดงรูปฝ่ามือตรงนั้น บอกได้ว่า จ้ออิ่วเจ็งตายภายใต้ฝ่ามือทรายแดง”...
“เอ๊ะ พรรคดาวฟ้ากับพรรคทรายแดงไม่มีข้อขัดแย้งกันนี่ อีกอย่าง ทั้งสองพรรคก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันนิ”...อั้งซิ่วให้ความเห็นมั่ง...
“แต่ด้วยระดับฝีมือของหัวหน้าพรรคแซ่จ้อ...คนของทรายแดงที่จะฆ่าเขาได้ ไม่น่าเกินสามคน...แล้วจะเป็นสามคนไหนล่ะ ที่ลงมือ”...ชอลิ้วเฮียงพูดอย่างครุ่นคิด
ไม่นาน...คำตอบก็มาพร้อมศพที่สองก็ลอยตุ๊บป่องๆ
ลักษณะของคนตายนี้ ถ้าดูเผินๆก็เหมือนคนธรรมดา มือซ้ายออกจะดูสวยผิดธรรมชาตินักบู๊ซะด้วยซ้ำ แต่มือขวากลับปูดโปนด้วยกระดูกเส้นเอ็น แถมยังมีฝ่ามือหยาบหนาสีแดงคล้ำ...อั้งซิ่วบังเอิญรู้จักผู้นี้
“ฮ้า นี่มันไซมึ้งโชยนี่ เป็นจอมยุทธแนวหน้าของสำนักทรายแดงเลยล่ะ”...
“ไซมึ้งโชยคือหนึ่งในสามของพวกทรายแดง ที่มีฝีมือพอจะฆ่าจ้ออิ่วเจ็งได้...แล้วใครฆ่าไซมึ้งโชยกันล่ะ”...ชอลิ้วเฮียงพึมพำแล้วลงมีตรวจศพต่อ...
ที่คอหอย มีแผลกระบี่ทะลุคอหอย...ตัวแผลเล็กแคบ แสดงถึงกระบี่ที่เล็กเรียว...มีสำนักกระบี่ไม่มากนัก ที่ใช้กระบี่แบบนี้...
“มีแค่สองสำนักที่ใช้กระบี่แบบนี้ และที่น่าสงสัยที่สุดคือ สำนักไฮ้น้ำ...ข้าชักสงสัยแล้วล่ะ ว่าคงไม่จบแค่สองศพนี้”...ชอลิ้วเฮียงพูด
แล้วข้อสงสัยของชอลิ้วเฮียงก็เป็นจริง...ไม่นาน ศพที่สามก็ลอยตามมา
ศพนี้แต่งตัวเป็นนักพรต หัวถูกฟันแบะเป็นสองส่วน...ในมือศพยังกำกระบี่เรียวยาว ที่หักไปครึ่งท่อน...
ชอลิ้วเฮียงรู้จักมัน...”นี่คือเล้งจิ๋ว หนึ่งในสามองครักษ์กระบี่ของสำนักไฮ้น้ำจริงๆด้วย”...
“มันฆ่าไซมึ้งโชย แล้วใครเป็นคนฆ่ามัน”...เซียมยี้ตั้งคำถาม
ชอลิ้วเฮียงพิจารณาศพชั่วครู่แล้วสรุป...”คนฆ่ามันต้องไวขนาดหนัก เล้งจิ๋วถึงกับไม่มีปัญญาหลบหลีก ได้แต่ยกกระบี่ขึ้นปิดป้อง แต่เอาไม่อยู่...กระบี่เลยขาด แถมหัวแบะไปด้วย”...
“แต่ศิษย์ระดับองครักษ์กระบี่แบบนี้ ย่อมใช้กระบี่หลอมเย็นของสำนักไฮ้น้ำ เป็นกระบี่ที่เหนียวเป็นพิเศษ ไม่น่ามีอะไรฟันได้จนขาดขนาดนี้”...อั้งซิ่วท้วง
แต่ในใจชอลิ้วเฮียงนึกถึงคนๆนึง...
ไม่นาน คนที่ชอลิ้วเฮียงคิดถึง ก็นอนคุยกับปลามาตามน้ำจริงๆ...
สภาพศพที่สี่นี่น่ากลัวสุด...ทั้งร่างบวมพองราวกับถูกอัดลมมา บวมเกินกว่าสภาพคนตายปกติจนจำหน้าจำตาไม่ได้...แต่จากสภาพต่างๆ บวกกับป้ายเหล็กสลักรูปอูฐบิน...ชอลิ้วเฮียงก็พอรู้ว่าเป็นใคร
“นี่คือเจ้าทะเลทราย จามูเฮอ เจ้าของเพลงดาบไร้ใจ...ถ้าจะถามว่า ใครฟันเล้งจิ๋วซะกระบี่หักหัวแบะ...จามูเฮอคือคนที่ทำได้”...
“แล้วทำไมสภาพศพจามูเฮอถึงได้บวมฉึ่งขนาดนี้ล่ะ”...
2
ชอลิ้วเฮียงถอนใจหนึ่งเฮือก แล้วฟันธง...”มันถูกยาพิษ”...
“แต่ยาพิษชนิดนี้ไม่เหมือนชนิดอื่นใดในโลก...ไร้สีไร้รสไร้กลิ่น สภาพเหมือนน้ำทั่วๆไป...แต่ถ้าใครได้กิน แม้จะเพียงแค่หยดเดียว แต่ฤทธิ์จะเหมือนดื่มน้ำเข้าไปสามร้อยถัง...ไอ้ยาพิษหยดนั้นจะเข้าไปบวมพองในร่างกาย ชีพจรทุกเส้นจะระเบิดแตกออก...ตายแล้วก็จะมีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละ”...
สองสาวสยิวกายอย่างหนาวเหน็บ...ชอลิ้วเฮียงพูดต่อ
“หนึ่งเดียวที่มียาพิษชนิดนี้ คือ วังน้ำทิพย์”...
...เตี้ยมยี้ถามอย่างตกใจ...“ฮ้า ท่านกำลังจะบอกว่า ยาพิษที่ฆ่าจามูเฮอคือ...น้ำทิพย์เทวาหรือ”
ปล.
เปิดฉากก็มีชื่อให้จำเยอะเลย...แต่รับรองว่าเรื่องลึกลับน่าติดตามครับ
อย่าติดตามเฉยๆนะ like , share comment มาคุยกันด้วยเน้อ
โฆษณา