8 ธ.ค. 2019 เวลา 10:49 • ปรัชญา
อยากมีคนติดตาม"Followers"มากขึ้นทำไงดี?
การที่คนเราจะเดินติดตามใครสักคนได้นั้น ไม่ง่ายที่เราจะไปกำหนดและไปเกณฑ์คนมาให้หันมาชื่นชมนิยมในตัวเราได้
การไปจ้างใครให้มาเดินตาม คงเป็นได้เพียงผิวเผินที่อาจจะต้องมีการแลกเปลี่ยนด้วยผลประโยชน์ตอบแทนต่างๆและไม่มีวันยั่งยืนได้เลย
แต่การที่คนเราจะมี”คนเดินตามและติดตาม”(Followers)..อย่างแท้จริงได้นั้น
ล้วนขึ้นอยู่กับตัวเราเองเท่านั้นที่ต้องสร้างContentขึ้นมาเอง ไม่อาจซื้อหามาใส่ตัวเราได้
ในที่นี้ขอสรุปเบื้องต้น เพื่อสร้างสรรค์แนวทางให้รู้ว่าคนติดตามก็เพราะเหตุ 8 ประการที่สำคัญ คือคำว่า”FOLLOWER”ซึ่งมีดังนี้
(1) Faith in their mind(มีความเชื่อมั่นและศรัทธาในใจ)
คนเราจะยอมเดินตามใครได้ ก็ต่อเมื่อใจรู้สึกยอมรับได้..และมีความรู้สึกที่ดีทั้งต่อตัวคนและสิ่งที่คนนั้นสร้างสรรค์เท่านั้น
แต่การสร้างศรัทธาให้มีได้นั้น ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อนใครทั้งหมด
คือจะต้องมีความศรัทธาในตนเองก่อนที่จะให้ใครมารู้สึกเช่นนั้นกับเรา
เมื่อคนเราตระหนักรู้ว่าตัวเรามีสิ่งดีอยู่ในตัว คนเราจะเริ่มมีความเชื่อมั่น เชื่อใจ ในความเป็นตัวตนของตนเองมากขึ้น
แล้วจึงจะสามารถแสดงความสามารถทักษะต่างๆออกมาให้ผู้อื่นเห็นจนรู้สึกยอมรับและศรัทธาพร้อมอยากเดินตามได้
(2)Objectives to achieve (มีความสอดคล้องในเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ)
ไม่มีใครเดินตามคนที่แตกต่างไปจากเรา โลกใบนี้จึงมักเป็นโลกของทางใครทางมัน และมีอัตตาตัวตนที่ค่อนข้างสูง
จุดหมาย จุดประสงค์และจุดสนใจ ที่ตรงกันคือจุดร่วมดึงดูดคนเข้าหากัน เสมือนมีพลังสนามแม่เหล็ก
ดังนั้นเมื่อเรามีจุดยืนอย่างชัดเจน ย่อมเป็นคลื่นกระแสพลังดูดให้คนเลือกเส้นทางมาเดินตาม
ความสนใจที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายในในชีวิตมีความหลากหลาย
แต่ความสนใจที่สอดคล้องกันเท่านั้นจะเป็นเสมือนพลังดึงดูดเสมือนมีสนามแม่เหล็ก
ที่ดึงดูดคนที่คล้ายกันให้เข้าหาเพื่อมาอยู่ใกล้ๆและเลือกเดินตามกันไปในทางเดียวกันได้
(3)Leave a Legacy (มีตำนานให้คนติดตามได้)
ชีวิตคนเราจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อเราสร้างคุณค่าทิ้งไว้ให้แก่คนรุ่นหลังที่ตามมา
การสร้างตำนานไม่ใช่ต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ใดๆ เท่านั้น
แต่คือสิ่งที่คนเราตั้งใจทำ แล้วมีความชัดเจนว่าสิ่งที่ทำนั้น ทำไปเพื่ออะไรต่างหาก
เพราะเมื่อคนเราชัดเจนในสิ่งที่ได้ทำย่อมสร้างคุณค่าความหมายอยู่ในตัวเองเสมอ
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม
ตำนานมีไว้ให้คนเราสร้าง แต่คนติดตามคือคนที่คอยเล่าและสานต่อตำนานให้แพร่กระจาย
หากคิดจะให้คนติดตาม ต้องคิดที่จะให้มากกว่าที่จะรับผลต่างๆคืนกลับมาในยุคสมัยตนเอง
"ตำนานคือการสร้างเพื่อทิ้งระยะไว้ให้ผ่านกาลเวลาเสมอ..ยิ่งนานยิ่งมีคุณค่า"
(4)Learning model (มีแบบอย่างให้เรียนรู้ได้)
คนที่ผ่านสถานการณ์ที่สั่งสมประสบการณ์มาแล้วมากมาย ล้วนแล้วได้รับบทเรียนที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
แต่เป็น"model"ที่ให้คนเรียนรู้ได้เสมอ
เพราะคือร่องรอยให้ผู้คนได้สืบค้น และค้นคว้าเพื่อการเรียนรู้ได้
ทุกห้วงจังหวะเวลาของชีวิตของคนต้นแบบ จึงมีตัวอย่างให้คนได้ประจักษ์และสามารถนำไปประยุกต์ปฏิบัติตามได้อย่างแท้จริง
การเรียนรู้จากแบบอย่างคือการเรียนรู้สองด้านจากบทเรียนที่ได้เกิดขึ้นมาแล้ว
ทั้งในแง่ความสำเร็จและความผิดพลาดทุกด้านล้วนเป็นแบบฝึกหัดให้คนได้ฝึกฝน
(5)Open Mindedness (มีใจเปิดยอมรับความคิดต่างได้)
คนมักจะเดินตามคนที่มีใจเปิดกว้างที่พร้อมจะรับฟังข้อสงสัยและมีข้อคำถามที่ต้องการคำตอบเพื่อเรียนรู้
ยิ่งมีการเปิดใจยิ่งน่าเข้าใกล้..และก็ยิ่งน่าเดินตาม เพราะมีคำตอบที่แตกต่างให้ได้ค้นพบไม่มีวันสิ้นสุด
ขอบเขตจึงกว้างไกลและลุ่มลึกมากจนชวนให้น่าหลงใหลเฝ้าติดตาม
(6)Well balanced life (มีดุลยภาพในชีวิต)
คนที่มีความน่าสนใจให้ผู้คนเดินตาม บางทีมิใช่อยู่ที่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ใดๆ เท่านั้น
แต่คือวิถีชีวิตในการดำรงตน การสร้างตนและการรักษาตนของเขา
...ให้สามารถอยู่รอดผ่านอุปสรรค
...ก้าวข้ามสู่ความเติบโต
...และอยู่เหนือสภาวะการแข่งขัน
ได้อย่างลงตัวได้อย่างไร
ดังนั้นวิถีชีวิตของบุคคลที่ผู้คนอยากติดตาม..คือชีวิตที่พบจุดลงตัว..ให้ทุกสิ่งสามารถไปด้วยกันได้
(7)Elasticity to adapt (มีความยืดหยุ่นพร้อมปรับตัว)
ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหนักเบา หรือรุนแรงมากน้อยสักเพียงใด การคงอยู่ได้มิเสื่อมคลายเสมือนอมตะ
หัวใจสำคัญอยู่ที่การมีศักยภาพในการสร้างความยืดหยุ่นอันทรงประสิทธิภาพในการปรับทุกสิ่งให้เข้ากันได้กับทุกสถานการณ์
ความยืดหยุ่นที่ดี นำความปราดเปรียวมาสู่ชีวิต และสร้างความทันยุคทันสมัย
จึงง่ายที่ผู้คนจะติดตามได้ เพราะสิ่งนั้นเป็นเสมือนยังดำรงความเป็นจริงให้สัมผัสรับรู้ได้
(8)Respectability (มีความน่าเคารพนับถือ)
การวางตัวดีมีความเหมาะสม ช่วยเสริมความยั่งยืนให้ผู้คนติดตาม
พึงรู้ว่าจะทำอย่างไรให้คนยกมือไหว้ได้อย่างสนิทใจ
สิ่งสำคัญคือการสร้างความสม่ำเสมอในการวางตัวกับคนรอบข้าง อย่างมีความเสมอต้นเสมอปลาย
ด้วยการมีระบบ”การคิด การพูดและการปฏิบัติ”ให้มีความสอดคล้องตรงกันให้มากที่สุด
การวางตัวให้เป็นไปตามคำที่พูด ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตัว ย่อมได้รับความเคารพ มากกว่าคนที่ใจคิดอย่างแต่ทำจริงอีกอย่าง
ยิ่งโลกใบนี้มีความโปร่งใสด้วยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ ก็ยิ่งทำให้
"สิ่งที่เราคิด..คนจะเริ่มรู้ทันหมด
สิ่งที่เราพูด..คนจะได้ยินหมด
สิ่งที่เราทำ...คนจะเห็นได้หมด"
ใครที่คิดว่าจะให้คนติดตาม..จึงไม่อาจปกปิดและหลบซ่อนความเป็นตัวตนของตนเองได้
แม้ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบก็ตามแต่การเป็นคนที่ผู้คนสัมผัสได้ว่าเป็นของจริง ผู้คนก็จะให้ความนับถือเดินตาม..
เมื่อสามสิ่งนี้ไม่ตรงกัน..ก็ยากที่จะให้คนเคารพและอยากเดินตาม
กล่าวโดยสรุปแล้ว..โลกสมัยนี้ การเดินตามใครสักคนนั้นเป็นเรื่องง่ายที่จะผู้คนจะเลือกเป็น"Followers"ของใคร
แต่กลายเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งหากสิ่งที่คิด สิ่งที่พูดและสิ่งที่ทำนั้น ไม่ได้เป็นไปตามนั้น การรักษาสถิติอัตราการติดตามให้คงอยู่อย่างยั่งยืนจึงเป็นเรื่องยาก
หนทางเดียวคือการดำรงตนของเราให้"..เป็น..อยู่ ..และคือความจริงในปัจจุบันของเราให้โปร่งใสอยู่เสมอ"
คนชอบสไตล์เราเขาก็เดินตาม..คนต่างเขาก็แยกตัวไม่ติดตาม..ชีวิตก็แค่นั้นเอง
บางทีคนเราอาจไม่จำเป็นต้องรู้ว่าจะมีใครเดินตามรอยเรามากน้อยหรือไม่เพียงใด
พึงหันมาสนใจแค่"การสร้างตนให้ใจตัวเรา..อยากเดินตามตัวตนของเรา ให้ได้ตลอดเวลา"ก็ย่อมจะดีกว่า
ชีวิตนี้ก็ทรงคุณค่ามากพอแล้ว..มิใช่หรือ.."LL&L 8/12/62
โฆษณา