10 ธ.ค. 2019 เวลา 13:49 • บันเทิง
MovieTalk หนังชนโรง: Knives Out อำพรางฆ่า...น่าจะเป็น...?
ฮาร์ลาน ทรอมเบย์ เจ้าพ่อนักเขียนนิยายฆาตกรรมชื่อดัง กลายเป็นศพที่พยาบาลส่วนตัวมาพบในเช้าหลังวันเกิดของเจ้าตัว สภาพศพในห้องทำงานปิดตายที่มีประตูเข้าออกบานเดียว
ผู้กองเอลเลียต ตำรวจเจ้าของคดี ต้องทำหน้าที่สอบปากคำบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างบ่งชี้ว่าฮาร์ลาน ทรอมเบย์ตัดสินใจฆ่าตัวตาย คดีมันน่าจะถูกปิด
แต่เพราะความเป็นคนช่างสังเกตของ เบอร์นัวต์ บล็องก์ สุภาพบุรุษนักสืบคดีคนสุดท้าย ที่พบว่าสมาชิกในบ้านให้ปากคำที่เป็นเท็จ และทุกคนมีแรงจูงใจที่จะฆาตกรรม
ลินดา ลูกสาวคนโตของฮาร์ลาน เจ้าของธุรกิจที่สร้างขึ้นด้วยความสามารถของตนเอง คนที่สมควรสืบทอดทุกอย่างของตระกูล
ริชาร์ด สามีของลินดา ที่เหมือนจะเก่ง รู้มาก และฮาร์ลานพบความลับบางอย่างของริชาร์ด
แรนซั่ม ลูกชายจอมเสเพลของลินดาและริชาร์ด หนุ่มที่พร้อมจะเล่นงานสมาชิกทุกคนในตระกูล พอ ๆ กับสบถไม่หยุดปาก
วอล์ท ลูกชายคนเล็กของฮาร์ลาน ผู้ดูแลสำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์ขุมทรัพย์นิยายฆาตกรรมทั้งหมดของฮาร์ลาน และกำลังจะสูญเสียบางสิ่งที่เคยเป็นของตนเอง
วอล์ทมีลูกชายที่คลั่งการเมือง และถูกเรียก นีโอฟาสซิสม์
โจนี่ ลูกสะใภ้เจ้าของครีมหน้าเด้ง ที่ทุกวันนี้แม้สามีของเธอจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอก็ยังวนเวียในคฤหาสถน์ทรอมเบย์ และรายได้ส่วนหนึ่งคือค่าเล่าเรียนที่ฮาร์ลานส่งเสียให้แก่ เม็ก ลูกสาวของโจนี่
และ มาร์ธา พยาบาลส่วนตัวของฮาร์ลาน ที่เป็นแรงงานต่างด้าวที่มีวาระซ่อนเร้น
แล้วใครคือฆาตกร?
รูปแบบของนิยายฆาตกรรมอำพรางที่เรามักคุ้นเคยก็คือ
บุคคลที่ดูดีที่สุด ไม่น่าสงสัยที่สุดมักจะเป็นฆาตกร
แต่... บุคคลที่น่าสงสัยที่สุดนั่นล่ะก็อาจจะเป็นฆาตกรได้เช่นเดียวกัน (อ้าว!!!)
ซึ่งนั่นคือเสน่ห์ของนิยายฆาตกรรมอำพราง ที่ต้องวางปมหลอกล่อให้คนอ่านหลงทางไข้วเขว ยิ่งถ้าสามารถทำให้คนดูหลงทางไปได้จนถึงฉากเปิดเผยโฉมหน้าฆาตกรนี่ล่ะคือจุดสำคัญของเรื่อง
และเมื่อหนังที่มีต้นทางจากนิยายฆาตกรรมอำพราง การนำเสนอก็อยู่ที่ชั้นเชิงหลอกล่อให้คนดูไขว้เขวก็ไม่ต่างจากนิยาย
ดังนั้นปัญหาสำคัญในการเขียนถึงหนังแนวฆาตกรรมอำพรางก็คือ จะเขียนอย่างไรโดยไม่เปิดเผยข้อมูลสำคัญ แต่ก็ต้องให้ข้อมูลบ้างตามสมควรแก่คนดู (คนอ่านรีวิว)
ไรอัน จอห์นสัน ผู้กำกับจากหนังล่าย้อนเวลา Looper (2012) และ Satr Wars Episode VIII: The Last Jedi ด้วยความหลงใหลในนิยายของอกาทา คริสตี จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเป็น Knives Out หนังที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการอ่านนิยายฆาตกรรมอำพรางสุดคลาสิกนั้น
บทหนังเกาะติดกับ ‘ขนบ’ ความเป็นนิยายฆาตกรรมอำพราง ไม่ว่าจะเป็นบรรดาตัวละครที่แต่ละคนมีแรงจูงใจมากพอที่จะเป็นฆาตกรได้ทุกคน ร่องรอยเบาะแสต่าง ๆ ที่ให้คนดูแกะรอย หรือ หลอกให้คนดูหลงทาง ตลอดจนตัวละครนักสืบชาญฉลาดที่มีสไตล์การสืบแบบลุ่มลึก
แต่เมื่ออยู่ในมือของจอห์นสัน มันถูกปรับวิธีการนำเสนอให้มีความร่วมสมัย โดยการมอบหน้าที่ให้คนดูเป็นนักสืบร่วม ไม่ว่าจะเป็นการที่บรรดาผู้ต้องสงสัยให้ปากคำที่ช่างตรงกันข้ามกับเหตุการณ์ที่ตนเองเล่า, การใช้วิธีเล่าเหตุการณ์ที่ไม่เรียงลำดับ
เพื่อให้เบาะแสกระจัดกระจายจนต้องใช้สมาธิในการปะติดปะต่อเป็นภาพใหญ่ หรืออันที่จริงหลอกคนดูให้หลงทาง ตลอดจนการสอดแทรกตลกร้ายที่เสียดสีความเป็นอเมริกันลงไปในหนังผ่านบรรดาตัวละครทั้งหมดที่หลากหลายอาชีพ และฐานะ ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจ นายทุน ลูกคนรวย คนต่างด้าว ฯลฯ
แต่ที่ลึกลงไปกว่าคือการตีแผ่ตัวตนแท้จริงที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ฉากหน้าที่ตัวละครเหล่านั้นสร้างขึ้น มันคือความฉ้อฉล หลอกลวง เห็นแก่ตัว ละโมบ เจ้าเล่ห์เพทุบาย
ทั้งหมดคือยำรวมมิตรที่ ไรอัน จอห์นสัน คลุกเคล้า จนไม่น่าแปลกใจที่ Knives Out จะกลายเป็นหนังขวัญใจนักวิจารณ์ที่ขนาดเว็ป IMDb ให้คะแนน 8.1 เต็ม 10 หรือเว็ปมะเขือเทศก็ให้คะแนนใกล้เคียงกันที่ 8.35 เต็ม 10 น่าจะการันตีงานหนังชิ้นนี้ได้เป็นอย่างดี
ถ้าจะมีที่ต้องติกันบ้านก็เห็นจะเป็นเมื่อถึงเวลาเปิดเผยโฉมหน้าฆาตกร มันก็เป็นไปตามเบาะแสที่ผมเก็บรายละเอียดระหว่างทางมาตั้งแต่ต้น ไม่มีอะไรฉีกไปจากที่คาดคะเน นั่นแสดงให้เห็นว่าบทหนังยังซับซ้อนหลอกล่อไม่มากพอถ้าเจอคนที่คุ้นชินกับรูปแบบงานเขียนนิยายฆาตกรรมอำพรางแบบอกาธา คริสตี้
(ขออนุญาตนอกเรื่องเล็กน้อย: เนื่องจากแม่ของผมเป็นแฟนนิยายของ อกาธา คริสตี้ แม่มีนิยายของ เฮอร์คูล ปัวโรต์ เกือบ 30 ตอน จากจำนวนทั้งหมด 39 ตอน ผมโตมากับการอ่านนิยายเหล่านั้นจากตู้หนังสือของแม่)
ส่วนที่แข็งแรงชนิดแข็งโป๊กอีกอย่างก็คือ การนำนักแสดงที่เราคุ้นชินกับภาพจำติดตัวนักแสดงเหล่านั้นมาพลิกเป็นขั้วตรงข้ามแบบชนิดใส่ตระกร้าล้างน้ำกันเลย เริ่มกันที่
แดเนียล เคร็ก ที่เรากำลังจะได้ดู เจมส์ บอนด์ สั่งลา แต่ในเรื่องนี้ เคร็ก รับบทเป็น เบอร์นัวต์ บล็องก์ สุภาพบุรุษนักสืบคดี ที่ดูยังไงก็รู้ว่าต้นทางของตัวละครนี้คือ เออร์กูล ปัวโรต์ ของ อกาทา คริสตี ชัด ๆ เลย และเคร็กดูจะสนุกกับการสร้างสีสันการเป็นนักสืบผู้ลุ่มลึก แต่แฝงความขบขันอยู่ในที และไม่ได้มีเสน่ห์ล้นเหลือแบบบอนด์ จนไม่น่าแปลกใจถ้าหลังจากโบกมือลาบทสายลับเจ้าเสน่ห์ คนดูจะได้เห็นเคร็กในบทอื่น ๆ ที่แปลกตากว่าเดิม
ไมเคิล แชนนอน ที่คนดูคุ้นชินกับการเป็นตัวร้ายทรงอำนาจแบบนายพลซอร์ดใน Man of Steel แต่วอล์ทของแชนนอน คือลูกชายที่ไม่สามารถก้าวพ้นเงาของพ่อ ดูอ่อนแอและไม่กล้าแม้แต่จะให้เหตุผลหักล้างกับความคิดของพ่อ
และที่พลิกกันสุดขั้วก็ต้องเป็น คริส อีแวนส์ กับบท แรนซั่ม หลานชายสุดแสบที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ และพรั่งพรูคำสบถออกมาอย่างไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้ยินจาก ชายที่เป็นผู้นำของเหล่าอเวนเจอร์ส ผู้ชายต้นแบบที่แสนดี และอีแวนส์นำความร้ายมาให้เราได้ดู
แต่นั่นไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมด เพราะ
เจมี ลี เคอร์ติส ในบท ลินดา, ดอน จอห์นสัน ที่หายหน้าไปนาน กับบท ริชาร์ด, โทนี่ คอลเล็ตต์ กับบท โจนี่ ทั้งหมดก็คือบรรดาตัวละครที่มีแรงจูงใจในการฆาตกรรมเช่นเดียวกัน ในฐานะผู้สูญเสียผลประโยชน์
สุดท้าย อนา เดอ อาร์มาส ในบท มาร์ธา พยาบาลส่วนตัวที่เป็นแรงงานต่างด้าว ที่แม่ของเธอยังไม่ได้ฐานะพลเมืองอเมริกันโดยสมบูรณ์ และครอบครัวพร้อมจะถูกส่งตัวกลับ หากมีใครสักคนกระทำความผิด มาร์ธาก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ต้องสงสัยเช่นเดียวกัน
ส่วน ฮาร์ลาน ทรอมเบย์ ได้นักแสดงระดับไว้ใจได้อย่าง คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์ มาสวมบท ที่ดูยังไงก็นาเชื่อว่า นี่คือผู้ชายที่เขียนเรื่องสั้น ๆ เอ๊ย...เรื่องฆาตกรรมจนกลายเป็นนักเขียนผู้มั่งคั่ง และทรงอำนาจ แต่อยู่ไกลเกินคนรอบข้างจะเข้าถึง
อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าบทความชิ้นนี้ไม่ได้เบาะแสมากพอเท่ากับการที่คุณต้องไปดูหนังเรื่องนี้กันเอาเอง เพื่อค้นหาว่า “ใครคือฆาตรกร?”
คำว่ารักและไว้ใจ อาจกลายเป็นคำลวง ทันทีที่สูญเสียผลประโยชน์ต่อกัน
Knives Out (2019)
Directed: Rian Johnson/Written: Rian Johnson/Starring: Daniel Craig, Chris Evans, Ana de Armas, Jamie Lee Curtis, Michael Shannon, Don Johnson, Toni Collette, Lakeith Stanfield, Katherine Langford, Jaeden Martell, Christopher Plummer/Music: Nathan Johnson/Cinematography: Steve Yedlin/Edited: Bob Ducsay/Distributed: Lionsgate/Running time: 130 Min/Rated: PG-13
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Youtube, Mongkol Major Mongkol Cinema
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDb
โฆษณา