Blockdit Logo (Mobile)
no name
•
12 ธ.ค. 2019 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #ผลประโยชน์เป็นหลักความรักเป็นรอง ]
ปี 1997 ศึกพรีเมียร์ลีกที่เอลแลนด์ โร้ดระหว่าวลีดส์ ยูไนเต็ดกับแมนฯยูไนเต็ด หวดกันระอุดุเดือดสมราคา Wars of the Roses หรือ "สงครามดอกกุหลาบ" บนสังเวียนแข้งอย่างแท้จริง
นอกจากใบเหลืองจะถูกล้วงจากกระเป๋าเสื้อผู้ตัดสินแจกกันว่อนแล้ว เหตุการณ์ที่เป็นไฮไลต์คือจังหวะที่ รอย คีน วิ่งเบียดไปกับ อัล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์ กองกลางนอร์วีเจี้ยนของเจ้าถิ่น โดยที่แหย่ขาหวังชิงบอลเล่นก่อน
แต่แล้วห้องเครื่องแมนฯยูไนเต็ดลงไปนอนโอดโอยอยู่บนผืนหญ้า อัล์ฟ ไม่พอใจอย่างมาก เพราะเชื่อว่าไม่ได้ปะทะหนักอะไรเลยและ คีโน่ ต่างหากที่ทำฟาวล์ จึงก้มลงไปตะโกนใส่หน้าว่า -- "อย่ามาแกล้งเจ็บ เพื่อเลี่ยงโทษใบเหลือง-ใบแดงเลยไอ้สำออยเอ้ย!"
คีโน่ เจ็บจริง แต่ยังฝืนลุกขึ้นมาตั้งใจจะเอาคืน อัล์ฟ ก่อนที่จะเขยกออกจากสนาม อีกทั้งโดนใบเหลืองเป็นที่ระลึกด้วย
ว่ากันว่าเขาแค้นมากๆ มันฝังแน่นในความรู้สึกและคิดอยู่เสมอว่าจะต้องชำระสะสางหนี้ตรงนี้ให้ได้
ตอนนั้น อัล์ฟ เองเพิ่งย้ายมาจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ไม่กี่เดือน อายุแค่ 25 ปีกำลังห้าวสุดขีด ไม่ได้เกรงกลัวบารมีมิดฟิลด์ไอริชที่วัยไล่เลี่ยกันเลย
คีน เก็บงำความแค้นนี้ไว้นานถึง 4 ปีกว่าจะได้ถอน
1 เมษายน 2001 ศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อัล์ฟ เพิ่งเปลี่ยนมาสวมเสื้อสีฟ้าของแมนฯซิตี้ได้ไม่ถึงปี
เขาได้ลงเป็นตัวจริงในแดนกลาง ตอนอยู่อุโมงค์ก่อนโซ้ยแข้งได้ปะทะกับสายตาของ คีน แล้วพอจะรับรู้ได้ถึงรัศมีความอาฆาต
แม้จะพยายามระมัดระวังตัวอย่างเต็มที่ แต่สุดท้าย อัล์ฟ ก็หนีไม่รอด เมื่อสบจังหวะบวกแย่งบอล คีโน่ ไม่สนใจเล่นตามเกม ยันใส่เข้าที่เข่าขวาของอริจนตัวลอยคว้างในอากาศ ร่วงตุ้บลงสู่พื้น
คีน ไม่มองแม้แต่ใบแดงที่ผู้ตัดสินแจกให้ เขากลับเดินย้อนที่ อัล์ฟ ซึ่งยังโอดโอยด้วยความเจ็บปวด พร้อมตะคอกใส่หน้า -- "เอาคืนไปซะไอ้ซังกะบ๊วย แล้วทีหลังอย่าสะเออะ เรียกข้าว่าไอ้สำออยอีก!"
โทษแบน 3 นัดพร้อมปรับอีก 5,000 ปอนด์ ไม่ได้สร้างความสะทกสะท้านให้กับ คีน ตรงกันข้ามเขาอาจมองว่าคุ้มค่าด้วยซ้ำ
ส่วน อัล์ฟ บาดเจ็บหนักต้องพักรักษาตัวยาว แล้วพอกลับมาก็ไม่เหมือนเดิมอีก แทบไม่ได้ลงอย่างต่อเนื่อง เพราะมีปัญหาเรื้อรังที่เข่าซ้าย สุดท้ายก็แขวนสตั๊ดในปี 2003 ด้วยอายุแค่ 31 ปีเท่านั้น
ภายหลังเขายื่นฟ้อง คีน ในข้อหาเจตนาทำร้ายร่างกายและทำให้ต้องเลิกเล่นก่อนวัยอันควร
อย่างไรก็ตามศาลตัดสินยกฟ้อง ด้วยเหตุผลว่า อัล์ฟ แขวนสตั๊ดจากอาการบาดเจ็บที่เข่าซ้าย ไม่ใช่ข้างขวาซึ่งโดน คีน ยันใส่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแค้นยังแล่นพล่านข้างใน ตอน คีน ประกาศหย่าขาดจากอาชีพค้าแข้ง อัล์ฟ เปิดใจว่าพยายามไม่นึกถึงเหตุการณ์ในคราวนั้น แต่สำหรับมิตรภาพระหว่างสองคนไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
"รอย คีน คือสิ่งที่เลวสุดในชีวิตผม" -- อัล์ฟ ทิ้งท้ายไว้เช่นนี้
21 กรกฎาคม 2000 อัล์ฟ ได้ของขวัญอันล้ำค่า
เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ลืมตาดูโลก ทารกน้อยถูกพ่อตั้งความหวังไว้แต่แรกว่าจะต้องปลุกปั้นให้เป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ให้ได้
ตอนนั้น อัล์ฟ ยังเล่นอยู่กับลีดส์ ดังนั้น เออร์ลิ่ง จึงเป็นชาวยอร์คเชียร์โดยปริยายเพราะเกิดที่นี่
แต่ 3 ขวบก็ย้ายกลับไปนอร์เวย์ตามพ่อที่เพิ่งแขวนสตั๊ด อยากกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านตัวเอง
อย่างไรก็ตามเขาได้รับการสนับสนุนจากพ่อเต็มที่ มุ่งหน้าสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพอย่างที่ตั้งใจไว้
เออร์ลิ่ง รูปร่างสูงใหญ่กว่าเด็กรุ่นเดียวกัน น่าจะเหมาะกับตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก แต่เขากลับหลงใหลการเป็นกองหน้า อีกทั้งมีลีลายิงประตูที่ยอดเยี่ยม ฉายแววให้เห็นจนน่าพอใจ
หลังถูกเคี่ยวกรำจากเบิร์นสโมสรท้องถิ่นแล้ว จึงย้ายสู่โมลด์ร่วมงานกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เป็นกุนซือ
โชคดีของ เออร์ลิ่ง ที่ได้คนติวเข้มเป็นกองหน้าเคยประสบความสำเร็จมาก่อน ในวัยแค่ 17 ปีเขาระเบิดตาข่ายได้ถึง 20 ประตู ก่อนจะย้ายไป ซัลซ์บวร์ก เมื่อมกราคมที่ผ่านมา
พฤษภาคม 2019 เออร์ลิ่ง ติดทีมชาตินอร์เวย์ชุดอายุต่ำกว่า 19 ปีเล่นทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลก
เขาทำคนเดียว 9 ประตูในแมตช์ถล่มฮอนดูรัส 12-0 เป็นสถิติใหม่ของยู-19 โลก ก่อนจะอัพเลเวลอย่างรวดเร็วติดธงชุดใหญ่เมื่อสิงหาคมที่เพิ่งผ่านมา
ส่วนในสีเสื้อซัลซ์บวร์กทำแฮตทริกแรกได้ในออสเตรียน คัพหรือบอลถ้วยตั้งแต่กรกฎาคม ตามด้วยอีกแฮตทริกในเกมลีกเดือนกันยายน ทำสถิติซัลโว 11 ประตูจาก 7 เกม
จากนั้นประเดิมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกด้วย 3 ประตูในชัยชนะเหนือเกงค์ 6-2 รอบแบ่งกลุ่ม
เบ็ดเสร็จแล้ว เออร์ลิ่ง เล่นในทุกรายการ 27 นัดซัดไป 29 ประตู มันน่ามหัศจรรย์อย่างมากสำหรับนักเตะวัยแค่ 19 ปี
เราได้เห็นความร้ายกาจของ เออร์ลิ่ง กันแล้ว แข็งแกร่งมากๆ สูงถึง 194 เซนติเมตร แต่มีสปีดต้นที่รวดเร็ว สกิลก็ยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตามคุณสมบัติเด่นมากๆของหนุ่มน้อยคือ "ปราศจากความกลัว"
จำนวนประตูที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ มาจากตรงนี้ด้วย หัวใจกล้าหาญที่น่าจะได้มาจากพ่อ ช่วยผลักดันฝีเท้ารุดหน้าอีก
ปี 2017 เออร์ลิ่ง เคยเล่าถึงความฝันของตัวเองว่า อยากจะมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกตามรอยพ่อแลละถ้าจะให้เพอร์เฟ็คต์ต้องกับลีดส์ ยูไนเต็ดทีมเชียร์เท่านั้น
"เราต้องแยกบทบาทการทำหน้าที่กับกองเชียร์ออกจากกัน ผมไม่ได้มีปัญหากับเรื่องนั้นแล้ว อีกอย่างลูกผมก็สนใจมาเล่นในพรีเมียร์ลีกมาก"
อัล์ฟ พูดถึง เออร์ลิ่ง ไว้เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการย้ายมาเล่นให้แมนฯยูไนเต็ด
ถ้าพิจารณาดูให้ดีปัจจัยเดียวที่ช่วยให้ปีศาจแดงได้เปรียบมากสุดคือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งเป็นอดีตบอสที่ เออร์ลิ่ง นับถือมากๆ
ส่วนอย่างอื่นแทบจะติดลบ ไล่ตั้งแต่ อัล์ฟ มีความทรงจำย่ำแย่กับทีมอย่างแมนฯยูไนเต็ด เขาเคยเล่นให้ทั้งลีดส์และแมนฯซิตี้ซึ่งเป็นอริตัวฉกาจ
ไม่นับคดีความกับ รอย คีน ซึ่งยังเป็นที่พูดถึงกันจนทุกวันนี้
อย่างไรก็ตามหากมองว่า คีน เองไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับทีมแล้ว นอกเหนือจากเป็นอดีตนักเตะ รวมทั้งมักจะวิจารณ์ในแง่ลบเสมอ จึงไม่น่าจะต้องลำบากใจอะไรกัน
เหมือนที่ อัล์ฟ พูดไว้นั่นแหล่ะ สิ่งสำคัญสุดคือต้องรู้จักแยกแยะให้ออก ตรงไหนคือหมวกของหน้าที่และอันไหนต้องใส่ในฐานะกองเชียร์
เมื่อเดือนที่แล้วยังมีข่าวลือว่า อัล์ฟ เดินทางมาเยี่ยมชมเอออน เทรนนิ่ง เซนเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกซ้อมอันโออ่าของแมนฯยูไนเต็ดด้วย
แม้จะไม่มีภาพยืนยัน แต่สื่อหลายสำนักยืนยันว่ามีหลายคนเป็นพยาน เห็นเดินอยู่กับเจ้าหน้าที่สโมสรจริง รับรองไม่ผิดตัวแน่
อีกประเด็นที่ละเอียดอ่อนคือ เออร์ลิ่ง มีเอเยนต์ชื่อ มิไน ไรโอล่า ซึ่งโดนเร้ด อาร์มี่ตั้งข้อรังเกียจมากๆ
ไรโอล่า คือเอเยนต์ของ ปอล ป็อกบา ซึ่งเคยตกเป็นข่าวว่าผลักดันเต็มที่เพื่อให้นักเตะในความดูแลย้ายไปเรอัล มาดริดหรือยูเวนตุสให้ได้เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
เป็นบุคคลที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยด่าอย่าไม่เกรงใจ แล้วช่วงหลังตั้งแต่ โซลชา เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม เฟอร์กี้ จะแวะเวียนมายังสโมสรมากขึ้น
สื่อเลยโยงเอาปมตรงนี้มาเล่นว่าอาจเป็นอุปสรรคในการย้ายมาแมนฯยูไนเต็ดได้
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นปัจจุบัน เออร์ลิ่ง กลายเป็นวันเดอร์คิดของโลกลูกหนังไปแล้ว ค่าตัวไม่ต่ำกว่า 80 ล้านปอนด์แน่นอน
แล้วถ้าจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อแมนฯยูไนเต็ดจริง ย่อมไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไรเลย
เกมลูกหนังปัจจุบันถูกขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์เป็นหลัก ส่วนความรักความชอบเป็นรอง
นี่คือความจริงที่บางคนอยากจะปฏิเสธ แต่หลบเลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้น
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line : https://line.me/R/ti/p/@cheerball
ขอบคุณครับ
โฆษณา