13 ธ.ค. 2019 เวลา 12:00 • สุขภาพ
ื"ต้องมีชีวิดติดดิน" เป็นสิ่งทุกคนควรทำครับเป็นเรื่องของพลังรักษาร่างกายของ "พลังแม่เหล็กโลก" ปล่อยให้เขารักษาเราครับ
ผมใช้เวลาอ่านหนังสือ ซึ่งมีงานมากมายที่เขียนโดยหมอผู้เชี่ยวชาญ ส่วนมากก็จะไม่ต่างกันมาก แต่มีอยู่เล่มหนึ่ง ที่โดน
ถึงจะแหงนดูดาว แต่ให้เท้าติดพื้นดินไว้
ตรงกับความเห็นมากๆ
คือหนังสือ ....แค่รู้วิธี ชาตินี้เราจะไม่เป็นมะเร็ง...เขียนโดย นพ. ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต
อาจาร์ยสอน หลักสูตรปริญาโทแพทย์ทางเลือก ที่มหาลัยแม่ฟ้าหลวง
เป็นแพทย์ผู้เชียวชาญด้าน Anti-aging อายุรเวช ผู้เขียนหนังสือ เกี่ยวกับคีเลชั่น
1
เรื่องเกี่ยวกับวิถีความเป็นอยู่ของมนุษย์ที่อยู่สะอาดเกินไป ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ
ย่ำดินแล้วแข็งแรง
ทำให้คนเห็นการย่ำดิน เป็นที่น่ารังเกียจ ขยะแขยง และทำตัวห่างเหินจากพื้นดินไปเริ้อยๆ
พลังแม่เหล็กของโลก
คือสิ่งจำเป็นที่มนุษย์ไม่ควรจะมองข้าม เพราะมีผลต่อร่างกายมนุษย์เป็นอย่างมาก
สมดุลย์ภาพของคน เกิดขึ้นได้จาก พลังนี้ เพราะบรรพบุรุษของเรา ตั้งแต่ไหนแต่ไร เหยียบดิน เดินเท่าเปล่ากันมานาน
และมีร่างกายแข็งแรง อายุยืนกัน
ร่างกายมนุษย์ 1คนคือแบตเตอรี 1ก้อน เรามีประจุพลังงานไฟฟ้าสถิตย์ ในร่างกายสะสมไว้ตลอดเวลา
ซึ่งหากมีมากเกินไป จะทำให้ร่างกายเสียสมดุลย์ นอนไม่หลับ ภูมิคุ้มกันเสื่อมลง ทำให้แก่เกินวัย และมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งได้สูง
หากใครได้ดูหนังเรื่อง The Matrix ก็จะเข้าใจว่า สามารถเอามนุษย์มาทำแบตเตอรี่เพื่อเป็นพลังงานให้เครื่องจักรได้ แล้วเอาจิตวิญญานผูกไว้ในโลกเสมือน
ร่างกายของมนุษย์มีลักษณะเป็นสนามไฟฟ้าแม่เหล็กไฟฟ้าชีวภาพ( Bio electromagnetic field)
ซึ่งจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสนามแม่เหล็กโลกเสมอ เมื่อเราถูกขัดขวาง พลังงานเหล่านี้จึงทำให้เราไม่สบายทั้ง ร่างกายและจิตใจ
ดินคือ วัคซีนที่ดีที่สุดในโลก
ประจุไฟฟ้าสถิตที่สะสมอยู่ในร่างกายที่มากเกินไป นี้มีวิธีเดียวที่จะเอามันออกไป คือ....
.....เดินย่ำดิน....
....อยู่อาศัยไม่ห่างจากพื้นดินมากเกินไป..
มีตัวอย่างว่าเมื่อครั้งที่รัสเซียส่งนักบินอวกาศขึ้นไปประจำที่สถานีอวกาศนอกโลกในสมัยก่อน
พบว่านักบินที่อยู่บนสถานีนั้นมีอาการเจ็บป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุต้องส่งกลับโลกทุกราย
ต่อมาจึงพบว่าสถานีอวกาศนั้นห่างจากสนามแม่เหล็กโลกมากเกินไปจึงทำให้นักบินอวกาศไม่ได้รับพลังงานแม่เหล็กของโลกจึงเกิดการเจ็บป่วยขึ้น
แล้วคนที่อยู่บนคอนโดมิเนียมสูงๆจะทำอย่างไรดี ข้อนี้ ควรแก้ปัญหาด้วยการลงมาเหยียบพื้นสักวันละ 30 นาที ตอนเช้าๆทุกวัน
เดินเท้าเปล่าบนสนามหญ้าช่วงเช้าๆที่มีน้ำค้างยอดหญ้าบนพื้นดินหรือชายหาด สักครั้งหนึ่ง
ขณะนี้ประเทศญี่ปุ่นได้ออกกฎหมายว่ารองเท้าสำหรับเด็กจะต้องไม่มีพื้นยาง
ก็เนื่องด้วยเหตุผลอันนี้ครับ
เขียนรับใช้ท่านแต่เพียงเท่านี้ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม
อยู่ดีมีสุขทุกท่าน
สวัสดีครับ
โฆษณา