15 ธ.ค. 2019 เวลา 01:38 • ความคิดเห็น
หมอขอเล่าขอสัมภาษณ์ :นพ.จอมชัย ลือชูวงศ์ หมอหนุ่มมากความสามารถผู้เป็นทั้ง อาจารย์หมอ ผู้บริหาร นักธุรกิจ เเละ นักลงทุนพอร์ต
ระดับ 9 หลักด้วยวัยเพียง 28 ปี!!!!!
1
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์กับ พี่หมอ คนหนึ่งซึ่งนอกจากประกอบ อาชีพหมอเเล้วยังสามารถ เป็นเจ้าของธุรกิจเเละนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในเวลาเดียวกันด้วย ผมขอเเนะนำ นพ.จอมชัย ลือชูวงศ์ หรือ หมอจอม นะครับ
2
หมอขอเล่า : สวัสดีครับ พี่หมอจอม ยินดีมากครับที่พี่ให้เกียรติมาสัมภาษณ์ในวันนี้
ก่อนอื่น ขอให้พี่ช่วยเเนะนำตัวเเละเล่าถึงตำเเหน่งหน้าที่การงานของพี่ ณ ปัจจุบันให้ฟังหน่อยนะครับ
หมอ จอม : สวัสดีครับ พี่ชื่อ นพ.จอมชัย ลือชูวงศ์ อายุ 28 ปี ส่วนเรื่องหน้าที่การงาน ณ ปัจจุบันของเเบ่งเป็น สามส่วนนะครับ
หมอจอม : ในส่วนของด้านอาชีพ เเพทย์ พี่เป็นหมอ เฉพาะทางด้านอายุรกรรมที่ศูนย์ศรีพัฒน์ สังกัด คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ เเละเป็น ดำรงตำเเหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการเงินร่วมด้วย
หมอจอม :ส่วนในด้านธุรกิจ พี่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ เบเกอรี่ ชื่อ นวลเบเกอรี่ มี13 สาขาในเชียงใหม่ เเละกำลังเปิดอีก 1 สาขาในเมืองจีน
หมอจอม:เเละอีกส่วนก็เป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นะครับ
หมอขอเล่า : โอ้โห !!!ทำงานหลากหลายขนาดนี้ ขอให้พี่ช่วยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการได้มาทำธุรกิจเเละการลงทุนให้หน่อยครับ
หมอจอม : ได้เลยครับ พี่ขอเล่าถึงจุดเริ่มต้นเรื่องลงทุนก่อนนะครับ การเริ่มต้นลงทุนของพี่เริ่มตอนพี่จบ ม.6 ตอนนั้นมีเงินเก็บประมาณ 80,000 บาท ก็เลยอยากเอาเงินไปลงทุนให้ผลตอบเเทนงอกเงย ช่วงเเรกก็เอาเงินไปซื้อทอง เเละ เล่น gold futureบ้าง เเต่ พอได้มาอ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ความคิดเรื่องการลงทุนก็เปลี่ยนไป
https://th.wikipedia.org/wiki/นิเวศน์_เหมวชิรวรากร
หมอจอม: จากเคยมองว่า หุ้นเป็นการพนันก็เปลี่ยนความคิดว่า การลงทุนในหุ้นก็เหมือนการลงทุนในธุรกิจเเละคิดว่า การเล่นทองคำที่ทำอยู่เป็น การเก็งกำไรไม่ใช่การลงทุนจริงๆ เเละตัวพี่เอง ก็ประทับใจในหลัก เเก้ว 3 ประการของผลตอบเเทนทบต้น ซึ่งได้อธิบายว่าผลตอบเเทนจากการลงทุน จะขึ้นกับ 3 ปัจจัย คือ 1.จำนวนเงินต้น 2.จำนวนผลตอบเเทนทบต้นในเเต่ละปี 3.ระยะเวลาที่ลงทุน ตอนนั้นจึงคิดว่าถึงเราจะมีจำนวนเงินต้นไม่มากเเต่ถ้า เริ่มลงทุนให้เร็วเเละผลตอบเเทนเเต่ละปีได้เยอะ ก็สามารถเป็นเศรษฐีได้!!!!
1
หมอจอม: ซึ่งพี่โชคดีได้ลงทุนในตลาดหลัก
ทรัพย์หลังวิกฤติ subprime พอดีเลยได้กำไรที่มากอย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนนั้นพี่ก็ประหยัดมากเจียดเงินเดือนตอนเรียนหมอที่พ่อเเม่ให้ มาลงทุนในหุ้นเเทบทั้งหมด
หมอจอม:ส่วนในเรื่อง ธุรกิจดั้งเดิมพ่อเเม่พี่ ทำร้านเบเกอรี่อยู่เเล้ว ที่จังหวัดสุโขทัย เเต่ก็มีสาขาเดียวไม่มีเเบรนด์อะไร ซึ่งพ่อเเม่พี่ เวลามาเยี่ยมพี่ที่เรียน หมออยู่เชียงใหม่ก็มักจะนำขนมมาฝากเพื่อนร่วมงานพี่เสมอ เเละช่วงนั้น พี่เรียนหมออยู่ปี 5 กำลังขึ้นปี 6 พ่อเเม่พี่ก็เอาขนมมาฝาก พี่พยาบาลที่หอผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งตอนเเรกก็เป็นเเค่การฝากปกติ เเต่ไปมาๆ พี่ๆพยาบาลเกิดติดใจเเละบอกว่าไม่ต้องฝากเเละ ขอซื้อเลยดีกว่า !!!! ซึ่งทำให้ พี่ลองpreorder ขนมเบเกอรี จากผู้ที่ทำงานด้วยกันซึ่งยอด preorder เเต่ละทีเป็นหลักหมื่นจึงเกิดความคิดว่า อยากเปิดร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง
หมอจอม: ซึ่งก็เป็นโชคดี อีกครั้งที่ คุณ สุณีเจ้าของ Mc jeans ซึ่งเป็นหุ้นที่พี่ลงทุนอยู่ทำให้พี่รู้จักกัน ได้มาตรวจร้านที่เชียงใหม่จึงได้คุยกันเเละพี่ได้เล่าไอเดียเรื่องจะทำร้านเบเกอรี่ขึ้นมา ซึ่งตัวคุณสุณีก็เห็นด้วยเเละได้ช่วยได้คุยกับทางห้าง Big c เชียงใหม่ให้ทำให้พี่ได้พื้นที่เปิดร้าน เบเกอรี่ร้านเเรกในห้าง Big c ขึ้นมา
https://praew.com/fashion/216638.html
หมอจอม : ซึ่งการเปิดร้าน ในห้าง Big cก็ทำให้สะดวกต่อการขยายร้านต่อๆไปอย่างมาก เพราะมีเเบบเเผนที่คล้ายเดิมเราก็เพียงขยายร้านไปตามห้าง Big c สาขาอื่นๆเท่านั้น ซึ่งหลังจากเปิดสาขาเเรก ก็มีผลตอบรับเเละยอดขายที่ดี จึงขยายร้านมาเรื่อยๆตอนนี้ ประมาณ 4 ปี หลังจากเปิดสาขาเเรก
นวลเบเกอรี่ก็มี 13 สาขาทั่วเชียงใหม่
หมอขอเล่า: เเล้วพี่มีหลักการทำงานยังไงบ้างครับในการที่ต้องเป็นทั้ง หมอเเละนักธุรกิจอย่างนี้
หมอจอม: นอกเหนือจากหลักการทำงานทั่วๆไปจำพวก ขยัน ตรงต่อเวลา รับผิดชอบเเล้ว พี่ก็มีหลักการใช้ชีวิตอยู่ 3 ข้อหลักๆ คือ 1.กตัญญู 2.ซื่อสัตย์ 3.ถ่อมตัว ซึ่งตัวพี่เชื่อว่าเป็นหลักที่ทำให้เป็นเเรงดึงดูดด้านบวก เเละทำให้มีผู้ใหญ่หลายท่านได้ช่วยส่งเสริมเเละทำให้ประสบความสำเร็จได้เร็วขนาดนี้
หมอขอเล่า : เเล้วในอีก 10 ปีข้างหน้าพี่มองตัวเองว่าจะอยู่ในจุดไหน
1
หมอจอม : อีก 10 ปีข้างหน้าพี่ก็อยากจะทำอะไรที่มีผลเปลี่ยนเเปลงสังคมนี้ให้ดีขึ้น พี่ก็ยังไม่เเน่ใจเหมือนกันว่าจะออกมาในรูปเเบบไหน ซึ่งการที่พี่ ยังทำงาน หมออยู่ทั้งๆที่รายได้จากการเป็น หมอคิดเป็นประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมๆทั้งหมดเเต่ต้องใช้เเรงกาย
มากกว่างานด้านอื่นๆ เพราะ พี่รู้สึกว่าการเป็นหมอ เป็นการช่วยตอบเเทนสังคมอย่างหนึ่งเเละมีความสุขทุกครั้งที่คนไข้หายจากความเจ็บป่วย ซึ่งพี่จะขออยู่ในวงการเเพทย์ต่อไป ไม่เเน่ว่าในอนาคตพี่อาจจะตั้งเป็นองค์กร startup เพื่อพัฒนา เทคโนโลยีทางการเเพทย์ของคนไทยก็เป็นได้!!!!!
จบเเล้วนะครับสำหรับบทสัมภาษณ์ ซึ่งการสัมภาษณ์ครั้งนี้สนุกมาก เเละได้ข้อคิดหลายๆอย่างจากผู้ที่ประสบความสำเร็จตั้งเเต่อายุยังน้อย ซึ่งจากการสัมภาษณ์ ผมสัมผัสได้ถึง ความเฟรนลี่เเละถ่อมตนจริงๆจากตัวพี่เค้าซึ่งคงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ ผู้ใหญ่หลายๆท่านช่วยเกื้อหนุนจนประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วนะครับ เเละผมเชื่อว่าคงเห็นความสำเร็จในด้านต่างๆของหมอจอมออกมาเรื่อยๆในอนาคตนะครับ
หวังว่าผู้อ่านจะสนุกเเละได้ความรู้นะครับ
https://today.line.me/th/article/5+นิสัยสู่ความสำเร็จ-6p1rvX
โฆษณา