9 ม.ค. 2020 เวลา 05:25 • ไลฟ์สไตล์
เล่าเรื่องแคนาดากันต่อครับ
พุธ 8 มกราคม 2563
(เวลาในประเทศไทย)
ผมเสร็จสิ้นภารกิจในรัฐโนวาสโกเทียแล้ว จึงเดินทางไปท่าเรือ North Sydney เพื่อขึ้นเรือกลับไปยังเกาะนิวฟันด์แลนด์
ระหว่างทางเจอรถทุกไม้เยอะครับ ประเทศนี้มีไม้เยอะมาก
แคนาดาเป็นประเทศใหญ่ แต่ประชากรน้อย ต้องเดินทางนานกว่าจะเจอร้านขายของและทานอาหาร หมู่บ้านแถวนี้ มีแต่ชาวอินเดียแดง
ร้านแถวนี้มีไม้แห้งขาย เพื่อให้เอาไปก่อไฟบรรเทาความหนาว
บนถนนมีหิมะ ที่ต้องระวังคือความลื่นและกวาง กลางคืนทัศนวิสัยไม่ค่อยดี ในระยะสายตา ผมเห็นสัตว์นอนตายกลางถนนเพราะโดนรถชนแล้วก็สงสาร
คนแคนาดาชอบซื้อของจากคนท้องถิ่น จะไม่ค่อยมีร้านระดับชาติไปแย่งงานคนท้องถิ่นทำ อาจจะเป็นเพราะต้องการกระจายความมั่งคั่งให้ทั่วถึง
ร้านเล็กๆ ริมทางถนนที่เจอในชนบทห่างไกลบางร้านก็ทำเบียร์ รัม วอดก้า และแอลกอฮอล์อีกหลายประเภทขายเอง ผลิตได้ง่าย ไม่ต้องมีอะไรยุ่งยากเหมือนบ้านเรา
ที่เห็นในภาพ แหล่งผลิตนี้เล็กกว่าร้านห้องแถวบ้านเรา แถมมีชั้นเดียว เข้าไปในร้าน ก็เจอผู้หญิงขายอยู่คนเดียว ความที่มีคนน้อย คนเดียวต้องทำงานได้ทุกอย่าง
สินค้าที่เห็นในร้าน ทำให้ห้องแคบๆ นี้ทั้งหมด ผมถามคนขายดูแล้ว ไม่ได้รับมาจากที่อื่น
เดินทางกลับไปยังเกาะนิวฟันด์แลนด์ครั้งนี้ ผมต้องอยู่ในทะเลท่ามกลางความหนาว -5 ถึง -10 องศาเซลเซียส ลมแรง 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีพายุก่อตัว
คลื่นจะสูงเรือจะโคลงแรงมาก ได้รับคำแนะนำว่าจะต้องทานยาแก้เมา
มหาสมุทรแอตแลนติกนี้นี่ละครับ ที่เรืออาร์เอมเอส ไททานิก ชนภูเขาน้ำแข็งจมทะเลเมื่อ 15 เมษายน ค.ศ.1912 หรือเมื่อ 108 ปีที่แล้ว
ลงเรือมาได้ไม่นาน ผมก็รู้สึกว่าที่คลื่นกลางมหาสมุทรแอตแลนติกนี่ แรงมากจริงๆ
ยาแก้เมาของคนอื่นเป็นยาเม็ด แต่ของผมเป็นยาน้ำจาก Hip Flask ขวดในภาพครับ
โฆษณา