13 ม.ค. 2020 เวลา 09:34 • ธุรกิจ
เศรษฐกิจยุคนี้ ปี 2563 ทําธุรกิจอะไรดี?
ภาพรวมตามที่สำนักเศรษฐกิจต่างๆ ได้วิเคราะห์ว่าทิศทางในปี 2563 “ไม่โต แต่ไม่ตาย” (แต่ก็ ICU)... สภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จะฉุดให้การลงทุนไม่โต ไม่นับรวมปัจจัยด้านเทคโนโลยีที่คาดว่าจะมีผลชัดเจนต่อการทำธุรกิจมากขึ้น รวมถึงบรรดาเทรนด์ต่างๆ ที่เริ่มปรากฏในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และน่าจะชัดเจนที่สุดตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป
ไม่ว่าจะเรื่องสังคมผู้สูงอายุ , สินค้าสุขภาพ , เทรนด์รักษ์โลก เป็นต้น ฉะนั้นเมื่อรู้กระแสและทิศทางที่น่าจะเป็น จึงสรุปพอเป็นแนวทางได้ว่า ปี 2563 มีธุรกิจอะไรแบบไหนที่น่าลงทุนบ้าง
💥1.ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ
เป็นกระแสที่คนพูดกันอย่างหนาหูมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็ดูจะสอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจุบัน โดยมีการวิเคราะห์ว่ามนุษย์เราจะมีอายุยืนยาวขึ้นจากเดิมอายุเฉลี่ยจะอยู่ที่ 68.5 ปี ขยับมาเป็น 77 ปี ในอีก 20 ปีข้างหน้า และข้อมูลที่สำคัญที่สุด คือ ในช่วง 55 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงมีอัตราให้กำเนิดบุตรต่ำมาโดยตลอด คำว่า “สังคมผู้สูงอายุ” จึงไม่ใช่สิ่งที่ใกล้ตัวอีกต่อไป และดูเหมือนว่าสังคมไทยก็จะตื่นตัวกับเรื่องนี้เช่นกัน
ดังนั้นสายงานที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลผู้สูงอายุตั้งแต่ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ หมอ พยาบาล รวมถึงศูนย์บริการดูแลผู้สูงอายุ จะเป็นอาชีพและธุรกิจที่มีความต้องการมากและมีการแข่งขันสูง จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการบริการที่ดีมากด้วย
💥2.ธุรกิจดูแลสื่อโซเชี่ยล
กระแสของโลกยุคดิจิทัลคือเหตุผลหลักที่ก่อให้เกิดธุรกิจการดูแลสื่อโซเชี่ยล แม้ในภาพรวมบริษัททั้งหลายก็พัฒนาแผนกนี้ขึ้นมาเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไปได้ และธุรกิจดูแลสื่อโซเชี่ยลจะยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถือว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากที่สุดในทุกธุรกิจ และผู้ใช้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะลดลงเลย จึงไม่แปลกเลยที่ธุรกิจดูแลสื่อโซเชียล จะกลายเป็นธุรกิจมาแรงใน ปี 2563
นอกจากในองค์กรจะมีแผนกนี้ โดยตรง ก็อาจเป็นช่องทางให้เกิด SMEs หรือสตาร์ทอัพที่จับเอาจุดนี้มาทำธุรกิจมากขึ้น
💥 3.คอร์สเรียนออนไลน์
ควบคู่มากับโลกยุคดิจิทัล ที่คอร์สเรียนออนไลน์จะกลายเป็นกระแสที่คนให้ความสนใจมาก การผนวกเอาเทคโนโลยีมารวมกับการเรียนการสอนทำให้ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางไปตามสถาบันต่างๆ และสามารถเลือกเรียนคอร์สออนไลน์ที่ตัวเองสนใจได้ การจ่ายเงินก็ผ่านระบบแอพพลิเคชั่นที่ง่ายและสะดวก เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่ปรับมาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ดูได้จากมหาวิทยาลัยต่างๆ หรือสถาบันกวดวิชาที่เริ่มสร้างคอร์สเรียนออนไลน์เป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะคอร์สเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไอที ภาษาต่างประเทศ รวมถึงคอร์สเรียนสร้างอาชีพต่างๆ ด้วย
💥 4.บ้านพัก โฮมสเตย์
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะนักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชุมชม ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ทำให้ธุรกิจบ้านพักสไตล์ Eco เป็นกระแสใหม่ที่กำลังมาแรง ธุรกิจบ้านพักแนวธรรมชาติก็ถือว่ามาจากเทรนด์ “รักษ์โลก” ที่นอกจากคนจะเริ่มรณรงค์การงดใช้พลาสติกหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม การเที่ยวในแบบธรรมชาติก็คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ ปี 2563 ดูน่าสนใจอย่างยิ่ง
💥5.สินค้าเพื่อสุขภาพ
คนสมัยใหม่เริ่มหันมาสนใจตัวเองมากขึ้น อาจจะด้วยไลฟ์สไตล์ที่เช้าตื่นมาทำงาน เย็นกว่าจะกลับบ้านก็ดึกดื่นทำให้กระแสรักสุขภาพเริ่มชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดสถานฟิตเนส คอร์สออกกำลังสุขภาพ แม้แต่การจัดงานวิ่งเพื่อสุขภาพ การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ก็เป็นกระแสที่มาแรง ไม่นับรวมสินค้าแนวสุขภาพทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ที่ต่อจากนี้เป็นต้นไป ถือว่าเป็นปีที่เปิดกว้างในเรื่องเหล่านี้มากขึ้น
💥6.ธุรกิจด้านโลจิสติกส์
จากการเติบโตของตลาดออนไลน์ ทำให้อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เติบโตอย่างรวดเร็ว และจะยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีแบบ100% นั้นหมายถึงคนเราจะต้องพึ่งพาบริการด้านโลจิสติกส์ ที่ตอนนี้ก็เริ่มมีการพัฒนารูปแบบตัวเองให้สอดคล้องและตอบโจทย์กับความต้องการที่มากขึ้นในอนาคต ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นการเติบโตเรื่องธุรกิจออนไลน์และเห็นว่ามีหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องพยายามพัฒนาตัวเองให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดนี้และเชื่อว่าตั้งแต่ ปี 2563 เป็นต้นไป จะยิ่งชัดเจนและมีอีกหลายธุรกิจด้านโลจิสติกส์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจ
💥7.การเป็นนายตัวเอง
กระแสการเป็นนายตัวเองเริ่มมีความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อแฟรนไชส์ การเป็นยูทูปเบอร์ การทำงานผ่านอินเทอร์เนต ฯลฯ ในอนาคตเราจะพบว่าคนที่เป็นนายตัวเองจะมีมากขึ้น นั้นเพราะการแข่งขันในสายอาชีพมีมากขึ้น และปัจจุบันการธุรกิจด้วยตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่รู้จักผสมผสานการใช้เทคโนโลยีคู่กับการบริหารจัดการ ก็เพิ่มโอกาสการเป็นนายตัวเองได้ไม่ยาก ดังจะเห็นได้ว่านักศึกษาจบใหม่หลายคนไม่ได้มุ่งหางานประจำทำ แต่หลายคนมุ่งหน้าสู่การทำธุรกิจของตัวเองเพราะมองว่าโอกาสรวยและมีรายได้นั้นดีกว่าทำงานประจำในยุคที่เศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก
💥8.นักกฏหมายเทคโนโลยี
การที่บริษัทนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงคือ เทคโนโลยีนั้นผิดกฎหมายหรือเปล่า หรือขัดกับหลักเกณฑ์กำกับดูแลด้านไหนหรือไม่ แน่นอนว่านักกฎหมายจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น หากมีบริษัทพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ บริษัทนั้นก็จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ทำหน้าที่ประสานกับหน่วยงานของรัฐได้ เพื่อไม่ให้ขัดต่อกฎเกณฑ์ต่าง ๆ
💥9.โปรแกรมเมอร์/พัฒนาแอพพลิเคชั่น
ยุคดิจิทัลเรื่องเทคโนโลยีแข่งขันกันรุนแรงมาก ดังนั้นธุรกิจที่จะเติบโตได้ดีที่สุด คือเหล่าโปรแกรมเมอร์หรือคนที่มีความสามารถด้านไอที ทั้งการเขียนโปรแกรม พัฒนาแอพพลิเคชั่น วางระบบเครือข่าย สำหรับคนที่มองหาโอกาสทางธุรกิจและตอนนี้ตัวเองมีพื้นฐาน มีความรู้ ความสามารถในงานเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก พยายามนำเสนอผลงานตัวเอง ให้คนอื่นได้รู้จัก และงานต่างๆ ในสายนี้จะไหลมาเทมา ยิ่งมีความสามารถ มีความรับผิดชอบ เรียกได้ว่าเงินดีแบบสุดๆไปเลยทีเดียว
💥 10.ธุรกิจไฟแนนซ์/ จำนำ/ เงินกู้
อาจจะดูเหมือนเป็นธุรกิจที่หลายคนมองว่า “หน้าเลือด” แต่เชื่อเถอะว่าถ้าใครพอจะมีประสบการณ์ในงานด้านนี้และพัฒนาเอามาทำเป็นธุรกิจได้ จะมีรายได้ที่ดีแน่ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก และเชื่อว่าในปี 2563 ก็จะเป็นปีที่ปากกัดตีนถีบไม่ต่างจากปี 2562 ทางออกที่ดีที่สุดของคนส่วนใหญ่คือหาแหล่งเงินกู้ แหล่งรับจำนำ หรือไฟแนนท์ ต่างๆ ที่จะทำให้ตัวเองได้ “เงินสด” ออกมาหมุนใช้ แต่คนที่จะทำธุรกิจด้านนี้ก็ต้องมีการวางระบบบริหารจัดการให้ดี ต้องดำเนินธุรกิจไปตามที่กฏหมายกำหนด เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาในภายหลังด้วย
จะสังเกตได้ว่าธุรกิจที่แนะนำส่วนใหญ่ไม่มีหมวดหมู่ของร้านอาหาร เครื่องดื่ม หรือการเป็นพ่อค้าแม่ค้า เพราะเรามองว่าธุรกิจเหล่านี้ต่อให้ไม่แนะนำแต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะลงทุนอยู่แล้ว เพราะถือเป็นอาชีพยอดฮิตสำหรับการขายของ ซึ่งบางทีเรา "ควรคิดหาการลงทุนที่ออกนอกกรอบไปจากที่คนอื่นคิด" ไม่แน่ว่าสิ่งใหม่ๆที่เราเลือกทำแรกๆ อาจจะดูเหมือนไม่น่าจะดีไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่อาจสร้างรายได้ที่ดีกว่าอาชีพทั่วๆไปก็ได้
ทั้งหมดข้างต้นนั้นคือการวิเคราะห์ในแง่มุมเพียงกว้างๆเท่านั้น หากท่านใดมีแง่คิดหรือมุมองอาชีพอื่นๆที่ถูกที่ควร ว่าด้วยกฏและจริยธรรมก็สามารถแบ่งปันความรู้กันได้ครับ
โฆษณา