14 ม.ค. 2020 เวลา 23:15 • ปรัชญา
"งานคุณภาพ..วัดได้จากคนคุณภาพ"
บางครั้งการทำให้ชีวิตคนเรารู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมนั้น..อาจจะเป็นเรื่องเดียวกับการสร้างชีวิตให้มีความปราณีตยิ่งขึ้นอีกสักนิด
ชีวิตที่ดีขึ้นไม่ว่าสร้างในมิติไหนก่อนก็ย่อมส่งผลไปยังทุกมิติของชีวิตได้เช่นกัน
การดูแลตนเองให้ดี ทั้งในแง่สุขภาพกายให้แข็งแรง สุขภาพใจให้มีความสงบนิ่ง การงานเข้มข้นอย่างดีเลิศ สัมพันธภาพราบรื่นอย่างผาสุก
โดยรวมอาจกล่าวได้ว่า..ล้วนคือ การต้องเริ่มใส่ความละเอียดประณีต ลงในทุกสิ่งที่ทำ อย่างมีคุณค่า มากกว่า..การเร่งรีบแบบ"งานการเสร็จ..แต่ไม่สำเร็จ"
ลองนึกย้อนดู..สังเกตว่า..เวลาเราทำสิ่งใดแบบลวกๆ เพียงเพื่อ ได้ผ่านๆไป..งานการก็ด้อยคุณภาพ ชีวิตก็พลอยด้อยคุณภาพตามไปด้วย
ผมจำได้ว่า..หัวหน้าผม เคยสอนผมถึงเคล็ดลับการจัดการงานที่ดี เพราะผมเป็นเด็กจึงสงสัยมองเห็นงานเต็มโต๊ะจะอนุมัติหมดได้ไงกัน
ท่านบอกเคล็ดลับเชิงสารภาพว่า.."อ่านและดูไม่หมดหรอกนะ..แต่เลือกอ่าน จากการดูคนดูจากผลงาน"
ท่านดูว่าเป็นงานของใครทำมา หรือผ่านใครมา..ก็รู้แล้วว่าต้องดูมาอย่างละเอียดดีแล้ว งานนั้นจึงใช้เวลาได้น้อยลง เพราะเป็นงานคุณภาพ
แต่บางคนเคยเห็นแล้ว ว่าทำงานแบบผ่านๆมาไม่ละเอียด ผิดพลาดบ่อย อย่างนี้ต้องเก็บไว้ทีหลังเพราะต้องรอบคอบในการดู
สรุปง่ายๆการสร้างคุณภาพของการทำทุกสิ่งในชีวิตนั้น จะสามารถมองเห็นความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน
คนที่เป็นผู้ดูผลงาน เขาย่อมรู้ว่าคุณภาพของสิ่งต่างนั้นเป็นเช่นไร ใครใส่ใจในความละเอียดประณีต ลงมามากน้อยเพียงใด
ยิ่งทำบ่อยยิ่งกลายเป็น แบรนด์ยี่ห้อติดตัวคนเราได้เลย..ใครทำเช่นใดผลย่อมได้ต่อคนนั้นโดยตรงเสมอ
ดังนั้นชีวิตคนเราจึงต้องคำนึงถึง..ความพิถีพิถัน กันตามสมควร แม้จะไม่ต้องไปให้ถึงขั้นสมบูรณ์ก็ตาม
จากประสบการณ์ในชีวิตทำให้ได้แง่คิดบางประการเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับการยกระดับคุณภาพในการสร้างสรรค์ชีวิต ของคนเรา อย่างน้อยมีไว้7 ประการ..คือคำว่า"Q.U.A.L.I.T.Y"ดังนี้
1. Q:question the..for the right answer
   . "ด้วยคำถามที่ถูกต้อง ..ชีวิตย่อมได้คำตอบที่มีค่าเสมอ"
การยกระดับการทำการงานใดๆ มักจะเริ่มต้นที่เราตั้งโจทย์เพื่อที่จะค้นหาคำตอบ ว่าจะต้องทำสิ่งใดๆก็ตาม ว่าทำไม อย่างไรและแค่ไหน
ถ้าถามไม่ถูกต้องตรงจุด เราจะไม่สามารถได้คำตอบที่ใช่ และที่สำคัญกว่าจะคำตอบ ก็จะได้ช้าลง ส่งผลถึงการตัดสินใจที่ขาดคุณภาพ
ซึ่งถือเป็นปัจจัยบ่งชี้ที่สร้างความแตกต่างของคนเราในอนาคตมิใช่น้อย
ดังนั้นชีวิตคนเราอาจเป็นเสมือนการต้องมีทักษะของการตั้งคำถาม เพื่อได้ข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องในเวลาที่รวดเร็วที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไร
2.  U:uncertainty is certainty "ความไม่แน่นอน..คือความแน่นอน"
บางครั้งต้องยอมรับความจริงว่าโลกได้เปลี่ยนแปลง ไม่เป็นเส้นตรงอีกต่อไปแล้ว ชีวิตจึงต้องเพิ่มความยืดหยุ่นให้พร้อมต่อการเกิดขึ้น และเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
สิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนอย่างชัดเจนก็คือการมองสิ่งต่างในรูปแบบตายตัว"Fix-mindset"ให้ไปสู่การมองใหม่ที่เน้นความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นด้วยแนวทางอื่นมากกว่าเดิมได้อยู่เสมอ
ยิ่งวุ่นวายแค่ไหน สับสนโกลาหลแค่ไหน ล้วนมีทางออกที่เป็นไปได้เสมอ ไม่ต้องรอให้เกิดความสงบนิ่งในชีวิตแล้วจึงเริ่มต้นลงมือทำ
3. A:Attitude for the better than for the best"ทัศนคติการทำทุกสิ่งให้ดีกว่าเดิมสำคัญกว่าการทำให้ดีที่สุด"
การทำให้ดีที่สุดนั้นคือการจดจ่อกับความพยายามทำให้ทุกสิ่งสมบูรณ์แบบ แต่มักจะช้าไม่ทันกาล ไม่ทันใช้งานก็ไร้ค่าเช่นกัน
การทำแล้วและใส่ใจต่อการพัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอ..คือการเปลี่ยนความคิดลงสู่การเริ่มลงมือทำให้เร็ว เพื่อจะได้มีเวลาเพิ่มขึ้นในการทำให้ดีกว่าเดิมได้ สู่ความเป็นจริง
ตัวอย่างเช่นถ้าหากจะเขียนหนังสือให้ดีกว่าเดิมก็ไม่ต้องรอให้ความคิดลงตัวดีที่สุดแล้วค่อยลงมือเขียน
แต่เมื่อได้เริ่มเขียนแล้วจริงๆ เราก็จะรู้ว่าจะเขียนให้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร
ชีวิตคนเรานั้นก็เช่นกัน การจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้ก็ต่อเมื่อโดดลงมาเล่นเองในสนามชีวิต แล้วทำชีวิตจริงให้ดีกว่าที่คิดไว้ให้ได้นั่นเอง
4.   L:learning is the master key  "การเรียนรู้คือแม่กุญแจที่สามารถเปิดได้ทุกประตูแห่งโอกาสในชีวิต"
ชีวิตที่มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิมได้นั้น ก็ต่อเมื่อมีกระบวนการปรุงแต่งชีวิตที่ผ่านการเรียนรู้โดยตรงเท่านั้น Learning by doing ที่เรียกว่า "D.I.Y"(Do It by Yourself)จึงจำเป็นเป็นพื้นฐาน
เพราะโอกาสในชีวิตที่ดีกว่า จะเกิดขึ้นมาได้จริงๆนั้น ก็ต่อเมื่อคนเราสร้างโอกาสที่จะเรียนรู้ฝึกฝนให้แก่ตนอย่างต่อเนื่องเท่านั้น
ทั้งนี้ทุกประตูแห่งความสำเร็จ..นั้นไม่มีประตูใดเลยที่จะเปิดทิ้งไว้ ให้เป็นที่สาธารณะ สำหรับทุกคน
แต่ทุกที่ล้วนปิดประตูรอเวลาให้คนที่พร้อมแล้วและมาด้วยกุญแจ เพื่อไขผ่านไปได้เท่านั้น
และกุญแจที่สำคัญที่สุดที่คนสามารถสร้างได้ก็คือ"การเรียนรู้"เพื่อเปิดประตูได้ทุกบานนั่นเอง
5. I:inside-out is the core "แก่นสำคัญคือการระเบิดจากข้างในสู่ข้างนอก"
คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้ ล้วนเกิดขึ้นจากข้างในตนเองเท่านั้น เมื่อใดที่คนเรามีความเชื่อในสิ่งที่ถูกต้อง ย่อมนำพาให้มีความคิดที่ดี มีความคิดที่รอบคอบ และมีความคิดที่พิถีพิถัน
ชีวิตที่ดีกว่าจึงสามารถระเบิดออกมาสู่ภายนอกด้วยคำพูดที่มีพลัง และการลงมือทำที่สำเร็จได้อย่างราบรื่น
6. T:Tommorrow comes from today"อนาคตของวันรุ่งขึ้น  ขึ้นอยู่กับวันนี้ของเรา"
เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่เราสามารถเริ่มต้นเปลี่ยนปัจจุบันวันนี้ของเราได้เสมอ
ยิ่งเราสามารถเปลี่ยนวันนี้ไปในทิศทางทีดีกว่า อนาคตของวันรุ่งขึ้นย่อมพร้อมและดีขึ้นอย่างแน่นอน
คนที่เตรียมสิ่งต่างในวันนี้ คือคนที่พร้อมที่จะลงมือทำในวันรุ่งขึ้นได้ดีกว่า
ดังนั้นคนที่เริ่มคิดและทำสิ่งต่างๆในวันนี้ ก็คือคนที่คิดทุกสิ่งแบบล่วงหน้าทั้งสิ้น
เพราะการจัดการสิ่งที่ทำวันนี้ ที่เน้นสิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญ ก็เท่ากับสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่ดีกว่าตั้งแต่วันนี้แล้ว
7.  Y: your heart bring you be smarter"หัวใจที่ยิ่งใหญ่..เท่านั้นที่จะนำมาซึ่งความสง่างามในชีวิต"
บางครั้งชีวิตที่ดีกว่าเดิมไม่อาจใช้มาตรวัดทางโลกแบบสากลที่อาศัยเครื่องมือวัดผลต่างๆได้เลยแม้แต่น้อย
เพราะการสร้างคุณภาพของชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้นั้น บ่อยครั้งดูจะเป็นการวัดที่ใจมากกว่าอื่นใดด้วยซ้ำไป
หากจะว่าไปแล้ว.ความสง่างามของคนไม่ได้เกิดจากผลงานโดยตรงเท่านั้น แต่เกิดจากใจที่กล้าพอที่จะให้และแบ่งปันสิ่งต่างๆแก่ผู้อื่นเพียงใด
ดังนั้นจึงสำคัญอยู่ที่การใช้ความมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ไปช่วยเติมเต็ม ความไม่สมบูรณ์ของสิ่งต่างๆให้ดีกว่าเดิมได้ จึงสร้างสรรค์ให้ชีวิตมีความสง่างามเสมอ
ผมเชื่อว่าหากเราได้ลองยกระดับ ความพิถีพิถันใส่ใจลงไปในชีวิต สักวันละเล็กน้อย อย่างมี"Q.U.A.L.I.T.Y"ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่คาดคิดได้
การสร้างคุณภาพจากสิ่งเล็กๆที่เริ่มจากตัวเราคือสิ่งที่จะสะท้อนให้เกิดความเป็นตัวตนแห่งคนมีคุณภาพที่ดีกว่า และจะเำรงติดตามตัวเราไปได้ตลอด
โดยที่ทุกคนจะมองเห็นความเป็นตัวตนของเราอย่างชัดเจน ไม่ว่าเส้นทางนั้นที่เราเลือกจะเป็นเช่นไร
แต่ก็จะเป็นเส้นทางที่มีคุณภาพให้ผู้คนจำได้เสมอ..."LL&L
โฆษณา