18 ม.ค. 2020 เวลา 06:32 • ธุรกิจ
ลงทุนใน 'กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์' ดีอย่างไร
ในปีที่ผ่านมา ทุกคนคงน่าจะเคยได้ยินคำว่า 'กองทุนอสังหาริมทรัพย์' กันเยอะพอสมควร ไม่ว่าจะมาจากการแนะนำจากนักวิเคราะห์และคนในแวดวงการเงิน
เนื่องจากช่วงนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวน นักลงทุนหลายๆ คนเลยหาทางเลือกอื่นในการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง
ทำให้ปีที่แล้วกองทุนที่เน้นลงทุนหลักทรัพย์ที่เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มีเงินไหลเข้ามา 2.3 หมื่นล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 4.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 126% จากปีที่แล้ว
และกองทุนที่เน้นลงทุนหลักทรัพย์ที่เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศ มีเงินไหลเข้ามา 4.7 หมื่นล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% จากปีที่แล้ว
*ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2019 จากเว็บไซต์ Morningstar Thailand
เราจะมาพาทุกคนไปทำความรู้จักกองทุนอสังหาริมทรัพย์กันมากขึ้น
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เป็นการระดมเงินจากคนหลายๆคนที่ซื้อกองทุนเดียวกัน แล้วนำเงินที่ได้ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามนโยบายแต่ละกอง โดยเราจะได้รับเป็นหน่วยลงทุน
เมื่อกองทุนได้กำไร ส่วนใหญ่ก็จะให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปแบบของเงินปันผล โดยเปลี่ยนจะให้ผลตอบแทนประมาณ 5-10% ต่อปี (แต่ในปีที่แล้ว กองทุนอสังหาฯ ให้ผลตอบแทนสูงถึง 20% เชียวนะ)
จริงๆ แล้ว หลักการลงทุนก็เหมือนกับกองทุนรวมทั่วไป แต่จะต่างกันที่ผู้จัดการกองทุนจะนำเงินไปลงทุนในอสังหาฯ ต่างๆ เช่น สนามบิน อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า คลังเก็บสินค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม เป็นต้น
ภาพจาก: https://pixabay.com/photos/manhattan-new-york-city-407703
ประเภทของกองทุนรวมอสังหาฯ มี 2 ประเภท คือ กองทุนรวมอสังหาฯ (Property Fund) และ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
ในปัจจุบันจะไม่มีกองทุนรวมอสังหาฯ (Property Fund) เปิดกองใหม่เพิ่มแล้ว แต่ก็ยังเปิดให้เราซื้อขายตามปกติอยู่นะ โดยทาง กตล. ประกาศให้ออกเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) แทน เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและมีความเป็นสากลมากขึ้น
ซึ่งกอง REIT มีความคล้ายกับ Property Fund แต่จะมีความแตกต่างในเรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ และกอง REIT มีลักษณะเป็นกองทรัพย์สินที่ถือกรรมสิทธิ์โดยทรัสตี ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
ความแตกต่างระหว่าง Property Fund และ REIT ดังนี้
ภาพจาก: เอกสารทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและกลต.
ข้อดีของการลงทุนอสังหาฯ (Property Fund) คือ
1.ใช้เงินลงทุนน้อย เริ่มต้นเพียงแค่หลักพัน และมีสภาพคล่องสูง
2.กระจายความเสี่ยง เนื่องจากในแต่ละกองทุนจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลากหลายแห่ง หรือบางกองทุนก็จะกระจายลงทุนไปในหลากหลายประเทศ
3.ไม่ต้องดูแลสินทรัพย์เอง เพราะมีผู้เชี่ยวชาญหรือมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลและบริหารจัดการแทน
4.ทำให้เรามี passive income อย่างสม่ำเสมอ
ส่วนข้อควรระวังในการลงทุนกองทุนอสังหาฯ
การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ จะมีความเสี่ยงในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น อาจทำให้ความน่าสนใจของการลงทุนอสังหาฯ ลดน้อยลง
ตรงกันข้าม ถ้าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงก็จะเป็นประโยชน์ และน่าสนใจที่เราจะเลือกลงทุนอสังหาฯ ในช่วงนี้
สุดท้ายนี้ กองทุนอสังหามีความหลากหลายในนโยบายการลงทุนอย่างมาก ทั้งประเภทอสังหา การลงทุนอสังหาในประเทศ และการลงทุนอสังหาในต่างประเทศ ดังนั้น ก่อนการลงทุนอย่าลืมศึกษานโยบายกองทุนนั้นให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
ภาพจาก: https://pixabay.com/photos/airline-architecture-buildings-city-1807486
และในปีนี้ตลาดอาจจะยังคงมีความผันผวนอยู่เช่นเดิม เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนกันด้วยนะคะ
ในคราวหน้า เราจะมาเจาะลึกถึงกองทุน REIT กันแบบละเอียด ทั้งประเภท สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงทุน ฝากรอติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
ฝากติดตาม กด Like 👍 กด Share ❤️ และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จะคอยอัพเดตข้อมูลสาระเกี่ยวกับกองทุนรวมและการลงทุน
📢 เราได้เปิดช่องทางการติดต่อเพิ่มอีกช่องทางนึง หากเพื่อนๆ พี่ๆ คนไหนมีคำถามหรืออยากปรึกษา สามารถส่งอีเมล์มาได้นะคะ จะคอยเช็คอีเมล์และรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว
📨 E-mail: p.pam@live.com
#SecretFund
โฆษณา