20 ม.ค. 2020 เวลา 11:00 • กีฬา
" ดอน ปาตริซิโอผู้กอบกู้บาร์เซโลน่า "
บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่ของโลก ควรจะตกอยู่ในสภาพย่ำแย่นานแล้วหากไม่มีชายไอริชชื่อ แพทริค โอคอนเนลล์
เรื่องของ โอคอนเนลล์ คือเรื่องพิเศษ มีแนวความคิดก้าวหน้าและท้ายที่สุดลงเอยด้วยความเศร้า เหล่าบาร์เซโลนิสต้า เรียกเขาว่า "ดอน ปาตริซิโอ" ตอนนี้เขามีสถานะเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์สโมสร
แพทริค โอคอนเนลล์ เกิดในปี 1887 ที่ดับลิน, ไอร์แลนด์ ตอนเป็นวัยรุ่นเขาทำงานในเบเกอรี่ อบขนม หาเวลาว่างเตะฟุตบอลกับสโมสรระดับท้องถิ่นหลายสโมสร เช่น แฟรงค์ฟอร์ท, สแตรนวิลล์ โรเวอร์ส และ ลิฟฟี่ย์ วันเดอเรอร์ส และเล่นได้ดีจนได้รับสัญญานักเตะอาชีพจากสโมสร เบลฟาสต์ เซลติกในปี 1909
โอคอนเนลล์ เป็นกองหลังตัวกลางร่างใหญ่แข็งแรง ไม่นาน เขาก็ได้ย้ายมาเล่นในอังกฤษเพราะผลงานยอดเยี่ยม เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ คือทีมที่ได้ตัวเขามาร่วมทีม แต่ทว่าการมาเล่นที่นี่ ไม่ง่าย ใช้เวลาแย่งตำแหน่งอยู่ 3 ปี ก็ย้ายไปเล่นกับ ฮัลล์ ซิตี้
อยู่กับ ฮัลล์ นั้น โอคอนเนลล์ ได้เล่นมากขึ้น และเล่นได้สม่ำเสมอมากขึ้นแต่ฟอร์มของเขาในทีมชาติต่างหากที่ทำให้เป็นที่สนใจจากทั่วสารทิศ ในนามทีมชาติไอร์แลนด์ เขาเล่นได้โดดเด่น เป็นกุญแจสำคัญช่วยไอร์แลนด์คว้าแชมป์รายการ "โฮม เนชั่นส์ แชมเปี้ยนชิพ" ในปี 1914
ตอนนั้นเองที่ทำให้เขาได้ย้ายอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนั้นเพิ่งคว้าแชมป์ลีก ในปี 1910/11 มาหมาดๆ แต่น่าเสียดายเมื่อมีปัญหาพัวพันเรื่องพนัน รวมถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ระเบิดขึ้น ทำให้โอกาสเล่นในระดับสูงสุดของ โอคอนเนลล์ ก็ต้องยุติลง
เมื่อสงครามยุติเขาย้ายไปเล่นในสก็อตแลนด์ รวมถึงช่วงสั้นๆ กับทีมระดับล่างของอังกฤษ ก่อนแขวนสตั๊ดกับแอชชิงตัน
ที่แอชชิงตันนี่เองที่เขาเริ่มต้นอาชีพโค้ช สโมสรทางอีสานของอังกฤษทีมนี้ เขาทำงานโดดเดี่ยวห่างไกลจากภรรยาและลูกๆ 4 คน หลังจากคุมทีม 1 ฤดูกาล ปรากฏว่าอยู่ดีๆ เขาก็หายสาบสูญไป
ครอบครัวไม่มีใครได้ข่าวเขาอีกเลย กระทั่งวันหนึ่งได้รับจดหมายที่ส่งมาจาก ซานตานเดร์, สเปน เมืองทางตอนเหนือในแคว้นกันตาเบรีย เขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที้่นั่น และเป็นที่สเปนนี่เองที่จะกระชับเรื่องราวชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา
ในปี 1922 เขาเข้าไปคุมทีม ราซิ่ง ซานตานเดร์ แทนที่ เฟร็ด เพนท์แลนด์ โค้ชชาวอังกฤษ แต่เขาได้งานนี้อย่างไรยังเป็นปริศนาจนทุกวันนี้ เพราะเขาแทบไม่มีประวัติการทำงานโค้ชสมัยอยู่ใน UK เลยด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่ในสเปน
ทว่าเขากลับได้คุม ราซิ่ง อยู่ถึง 7 ปีก่อนย้ายไป เรอัล โอเบียโด้ และตามด้วย เรอัล เบติส ที่นี่เองที่เขาพาทีมเลื่อนชั้นจาก เซกุนด้า ดิบิซิโอน ขึ้นสู่ ลา ลีกา ในปี 1932 จากนั้นอีก 3 ปี เขาพาทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้สำเร็จ!
เป็นความสำเร็จใหญ่ยิ่ง เพราะขณะนั้น เรอัล มาดริด แข็งแกร่งสุดๆ แต่ เบติส สามารถทำได้ดีกว่าทีมราชันชุดขาว มีแต้มมากแค่ 1 แต้ม ทีเด็ดคือเกมรับสุดเหนียวแน่น ตลอดซีซั่น เสียแค่ 19 ประตู
ฆูลิโอ ฆิเมเนซ เอราส เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของสโมสร เรอัล เบติส อธิบายว่า จุดเด่นที่ แพทริค โอคอนเนลล์ นำเข้ามาก็คือความเป็นมืออาชีพ, ความฟิต และแท็คติกที่ไม่เหมือนใคร เป็นแท็คติกที่ก้าวหน้าก่อนกาลเวลา ณ ตอนนั้น แถมเขายังมีบุคลิกอบอุ่น มีเสน่ห์ นักเตะทุกคนรักเขา
ความสำเร็จในการคุม เบติส ทำให้เป็นที่สนใจของยอดทีมแห่งกาตาลุนย่า ในที่สุดบาร์เซโลน่า ก็แต่งตั้งเขาเข้ามาคุมทีม เพียงแต่ตอนนั้นมันเกิดขึ้นไม่นานก่อนที่สงครามกลางเมืองสเปนจะอุบัติขึ้น
สถานการณ์มันยากลำบากมากๆ บาร์เซโลน่า ยิ่งลำบากใหญ่ เมื่อความขัดแย้งทวีความรุนแรง นักเตะต่างชาติของพวกเขาถูกส่งกลับประเทศ ทว่า แพทริค โอคอนเนลล์ แม้ได้รับคำแนะนำให้กลับไอร์แลนด์ไปเสีย เขากลับเลือกอยู่ต่อในกาตาลุนย่า
บาร์เซโลน่า ไม่มีเงินพอจะจ้างเขาในตอนนั้น แต่เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะช่วยสโมสรเพื่อให้กลับมามั่นคงอีกครั้งให้ได้ ในเดือนสิงหาคม 1936 ประธานสโมสร โจเซป ซุนยอล ถูกสังหารโดยฝ่ายที่สนับสนุนนายพลฟรังโก้ เหตุการณ์นี้ หมายความว่า มันรุนแรงจนถึงขั้นที่ เป็นใครก็ทนอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว แต่นั่นไม่ใช่กับ โอคอนเนลล์
สถานการณ์ของบาร์เซโลน่า ย่ำแย่หนักเข้าไปอีก พวกเขาไม่มีเงินเหลืออีกแล้ว และแพทริค โอคอนเนลล์ ก็ไม่ได้รับค่าจ้างเลย พวกเขามีโอกาสได้เงินทุนในปี 1937 เมื่อนักธุรกิจเลือดกาตาลัน ที่อพยพไปอยู่เม็กซิโกก่อนหน้านี้ มานูเอล มาส โซเรียโน่ เสนอให้สโมสรเดินทางไปทัวร์อเมริกาเหนือ
บาร์เซโลน่า ตอบตกลง โอคอนเนลล์ และลูกทีมก็ลงเรือเดินทางไปเม็กซิโก ที่นั่นพวกเขาลงเล่น 6 นัด และเล่นอีก 4 นัดในนิว ยอร์ค ทำให้ในที่สุดพวกเขาก็ได้เงินมากพอที่จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ของสโมสร
ทว่ามีนักเตะเพียง 4 คนเท่านั้นที่เดินทางกลับบาร์เซโลน่าพร้อมกับ โอคอนเนลล์ หลายคนอยู่ต่อในเม็กซิโก เพื่อขอลี้ภัยจากสงคราม อย่างไรก็ดี โอคอนเนลล์ ก็นับว่ามีบทบาทสำคัญยิ่งต่อความอยู่รอดของสโมสร หากปราศจากเขา ที่กัดฟันสู้ต่อแม้เหตุการณ์รุนแรง และไม่ได้ค่าจ้าง บาร์เซโลน่า อาจล้มหายตายจากไปพร้อมๆ กับสงครามกลางเมืองสเปนไปแล้ว
โอคอนเนลล์ ยังใช้ช่วงเวลาที่เหลือในสเปนกับเส้นทางการเป็นโค้ชฟุุตบอล เขาไม่ได้กลับไปหาครอบครัวอีกเลย เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งในเซบีย่า และแต่งงานกับเธอ ให้บังเอิญ เธอชื่อเอลเลน ชื่อเดียวกับภรรยาคนแรกของเขา และเป็นคนไอริช ที่เดินทางมาจากไอร์แลนด์เหมือนกันอีกด้วย
ชีวิตส่วนตัวของเขาซับซ้อนยุ่งเหยิง มีเรื่องดำมืดซุกซ่อนอยู่ แต่ในฐานะคนฟุตบอล เขาได้รับการยอมรับมากในสเปน เขาต้องสละหลายอย่างบนเส้นทางนี้ บั้นปลายเขาย้ายไปลอนดอน อาศัยในห้องใต้หลังคาในบ้านของน้องชาย
เขาไม่มีงาน ไม่มีเงินบำนาญจากรัฐบาล ในปี 1959 เขาเสียชีวิต ห่างไกลจากสถานที่ที่เขาเคยสร้างชื่อและได้รับการนับถือ ไม่มีใครที่นี่รู้จักเขา ทว่าสำหรับ เรอัล เบติส และโดยเฉพาะ บาร์เซโลน่าแล้ว ชื่อของ แพทริค โอคอนเนลล์ จะถูกจดจำตลอดไป "ดอน ปาตริซิโอ"
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา