20 ม.ค. 2020 เวลา 23:09 • ปรัชญา
"ออมใจ..ให้เป็นสุข"
ใครๆก็อยากมีความสุขกันทั้งนั้น จะเห็นได้ว่าในแต่ละวันเรื่องที่คนpostมากที่สุดก็คือเรื่องเหล่านี้ ซึ่งล้วนมีคนพูดถึงความสุขกันมากมายในรูปแบบมีคุณค่าทั้งสิ้น
การให้คำนิยามความสุข..ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะเลือกออกแบบความสุขให้ชีวิตกันเช่นไร
ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด...สำหรับการสร้างความสุขในชีวิต
ความสุขในความหมายของผมนั้น เป็นส่วนสำคัญของชุดความเชื่อในชีวิตอีกชุดหนึ่งคือหนึ่งใน"ตองแอล"(Life Love&Laugh)
ว่าจำเป็นต้องอาศัยพื้นฐานมาจากความรักและความเมตตา(Love)ที่คนเราพึงมีต่อกัน
รูปแบบของความสุขที่มาจากความรักความเมตตา จึงส่งผลให้คนเราสามารถมีความสุขที่ลึกซึ้งและดื่มด่ำยิ่งกว่าความสุขที่มาจากปัจจัยภายนอก
ความสนุก ความสะดวกสบาย อาจเป็นความสุขชนิดหนึ่งที่คนส่วนมากแสวงหา..และมักจะเป็นความสุขแบบชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ค่อยอยู่กับเรานานมากพอที่จะสร้างความทรงจำที่งดงาม
และมักต้องคอยเติมพลังอยู่ตลอดเวลาของการเดินทางสู้ชีวิต
แต่การใช้ความรักความเมตตานำ..ความสุข ให้ผลที่ยืนยาวมากกว่าที่คนเราคาดคิดเสมอ..
เป็นความสุขที่ลึกภายใน อยู่กับเราได้นานมากพอ โดยไม่ต้องวิ่งเติมตลอดเวลา เพียงแค่รู้จักออมไว้ให้อยู่ในใจ ยิ่งนานยิ่งพอกพูนเหมือนดอกเบี้ยทบต้น
ดังนั้น...ความสุขที่แท้ในมุมมองเรา อาจลองมองให้ลึกล้ำในใจตนเอง ด้วยการคำนึงถึงแนวทางการออมใจเราให้เป็นสุข 9ประการ ด้วยคำว่า"H.A.P.P.Y.N.E.S.S"ดังนี้คือ
1. H..Habbit "สร้าง...นิสัยสร้างสุข"
ความสุขที่ดีนั้นคือความสุขที่สามารถทำงานได้เองอย่างอัตโนมัติ..เพราะย่อมสร้างสรรค์ผลิตสารความสุขได้ไม่มีวันหยุด
สิ่งนั้นคือการทำสิ่งดีๆด้วยหัวใจรักอย่างแท้จริง ความรักจะช่วยให้คนเราติดกลายเป็น"นิสัยสร้างสุข"ได้เอง
ทำไมแม่สร้างความสุขให้แก่ลูกๆได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย..ก็เพราะคำว่ารักเท่านั้นเอง
ทำไมคนเราเห็นคนอื่นทุกข์ยาก ก็พร้อมบริจาคช่วยเหลือทำบุญ ก็เพราะจิตเมตตาเอื้อเฟื้อติดอยู่ในใจ จึงส่งผลออกมาได้เอง
มีคนไม่น้อยสร้างความสุขให้คนรอบข้างโดยไม่ทันต้องคิดแม้แต่น้อย..เพราะติดเป็นนิสัย
แต่คนจำนวนไม่น้อยต้องคิดค้นหาวิธีมาสร้างสุข..เพราะยังไม่ได้ทำบ่อยๆเพื่อให้เกิดความคุ้นชินจนเป็นนิสัยนั่นเอง
"สั่งสมนิสัยสร้างสุข คือออมใจให้เป็นสุข"
2. A..Attitude.."สร้าง..ทัศนคติมองเห็นความสุข"
การแพร่กระจายของความสุขให้เกิดแรงกระเพื่อมไปสู่ผู้คนนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากสิ่งที่อยู่ข้างในใจของแต่ละคน คือการมีทัศนคติในการมองสิ่งต่างๆเป็นเช่นไร
ตราบเมื่อคนเรามองเห็นความสุข ในความทุกข์ยากลำบากได้ คนเราย่อมจะไม่มีข้อจำกัดใดๆที่จะสร้างความสุขให้เกิดขึ้น
เพราะไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์สุดๆก็ยังมีทัศนคติเป็นสุขได้ ดังนั้นจึงย่อมสามารถคิด พูด และทำ ทุกสิ่งในแต่ละวันให้เป็นไปมีความสุขได้
"ยิ่งมองเห็นสิ่งรอบตัวงดงาม..ก็ยิ่งมองเห็นความสุขในใจ"
3. P..Politeness "อาศัยความดี..นำพาความสุข"
ความสุขที่เกิดขึ้นมาจากการทำความดีในรูปแบบต่างๆในชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด จะมากหรือน้อยแค่ไหน หรือทำกับใครก็ตาม
ทุกครั้งที่ได้ทำจึงล้วนอิ่มเอิบใจในความสุขโดยทันทีเสมอ
นอกจากความสุขที่จะได้จากการทำสิ่งดีๆในแต่ละวัน แม้ว่าอาจเป็นสิ่งเล็กน้อย..แต่ก็จะเป็นการสั่งสมออมใจตน ให้ตกอยู่ในโหมดของการเป็นคนดีไปในตัวอยู่เสมอ
เวลาขับรถลองให้ทางรถคันอื่นเข้ามาแทรกบ้าง เพราะเขาจะมีความจำเป็นต้องรีบไป
ลุกขึ้นเพื่อให้ที่นั่งคนอื่นบนรถไฟฟ้าบ้าง..เพราะเขาอาจจะอ่อนล้ามาจากการทำงานหนัก
บางทีลองให้ใครบางคนแซงคิวเราบ้างเพราะเขาอาจต้องรีบไปทำสิ่งสำคัญ
เพียงทดลองทำสิ่งดีๆเล็กๆ ชีวิตในใจเราจะเริ่มเบิกบานมีความสุขทีละน้อยได้
4. P..Peace.."ใช้ความสงบ .สร้างสรรค์ความสุข"
การหาเวลาให้ชีวิตพบความสงบ จะช่วยให้คนเรามีอารมณ์มองสิ่งต่างๆในเชิงบวกมากยิ่งขึ้นได้
ยิ่งคนเราสามารถสงบจิตใจลงได้ เราจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมเพราะเราจะเริ่มมีมุมมองเรื่องเดิม ในมิติที่แตกต่างไปจากเดิม
"ยิ่งจิตนิ่ง..ใจสงบ"
คนเราจะสามารถค้นพบ..สิ่งที่ดีๆให้ชีวิต มีความสุขกับความฝันที่เป็นจริง เรียนรู้รู้วิธีการออกแบบความสุขให้เกิดขึ้น และรู้ว่าจุดหมายความสุขในชีวิตของตนเองเป็นเช่นไร
5. Y..You are the Happyness "ตัวเราคือความสุข"
"คนเราจะเป็น ในสิ่งที่คนเราลงมือทำ และมีในสิ่งที่คนเราได้เป็น"
เมื่อเรามีความรู้สึกว่าตัวเรานั้นเป็นคนมีความสุข ทุกสิ่งที่คนเราคิด ทุกสิ่งที่เราพูดและทุกสิ่งที่เราทำ จะยิ่งมีพลังสร้างสรรค์ให้เกิดความสุขได้
ย้อนเวลา..คืนความรู้สึกในวัยเด็กมาใช้สร้างสุข ด้วยสามสิ่งที่ได้หายไปจากใจ คนเราคือ ความตื่นเต้น..ความกระตือรือร้น ..และความกล้าแสดงออก...
คนเราจะมีความสุขในชีวิตได้จริงๆ ก็เมื่อเข้าใจว่า..ความสุขนั้นคือตัวเราและอยู่ในใจเรานั่นเอง
และหากเราแบ่งปันความสุขที่ตัวเราได้ทำในแต่ละวันให้ใครสักคน หรือกี่คนก็ตามเป็นประจำ..
จะเท่ากับเป็นการ"เพิ่มอัตราเร่งในการทำให้ตัวเราคือ..ความสุขมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณอย่างแท้จริง"
6. N..Network "เครือข่ายความสุข คือพลังหนุนเสริม"
บางเวลาของชีวิตคนเรานั้น..อาจมีช่วงหนึ่งของชีวิตที่แกว่งหวั่นไหว จนจิตเริ่มอ่อนแรง การมีเครือข่ายรวมพลคนมีความสุข..ไว้เป็นกัลยาณมิตรบ้าง
ด้วยพลังของพวกเขาจะส่งผลหนุนเสริม ให้คนเราสามารถลุกขึ้น ปลุกจิต ปลุกใจ ให้มีความสุขที่คงเส้นคงวาได้
ความสุขที่หลากหลายในชีวิต มักมาจากความหลากหลายที่คนเราติดต่อเชื่อมโยงกันได้
บางแง่มุมที่คนเราไม่เคยรู้และเข้าถึงได้อาจเกิดขึ้นจากการแลกเปลี่ยนและแบ่งปันระหว่างกัน
"ความรู้ไม่สิ้นสุด..ความสุขก็ไร้ขีดจำกัดเช่นกัน
7. E ..Enough "ความสุข..มีเพียงพอให้ทุกคน ไม่มีวันหมด"
เรื่องมหัศจรรย์อยู่ตรงที่ยิ่งเราแบ่งปันความสุขให้ใครดูเหมือน ความสุขจะเริ่มก่อตัวขยายวงให้ใหญ่มากยิ่งขึ้น
ดังนั้นเมื่อคนเรามีความสุข หากใช้ความรักความเมตตาส่งผ่านไปยังผู้อื่น บ้าง ไม่หวงความสุขติดสุขอยู่กับตัวเอง อย่ากลัวหมดความสุขในชีวิต
เราจะรู้ว่า ความสุขของคนๆหนึ่งนั้นเมื่อให้ใครไปแล้ว ความสุขนั้นจะเบ่งบานได้ในใจทั้งผู้รับและผู้ให้เสมอ
"ยิ่งให้..ยิ่งหมดห่วง จึงยิ่งสุขล้น"
8.S..Skill "หมั่นฝึกฝนให้ชีวิตมีความสุข จนชำนาญ"
ความสุขนั้นขึ้นอยู่กับการพัฒนาลีลาในชีวิตของเราเองว่าจะเลือก วางชีวิต วางใจ และวางตัวเรา อย่างเหมาะสมให้คงรักษาความรู้สึกมีความสุขได้อย่างไร
การสร้างความสุขนั้น เป็นทักษะที่จำเป็นต้องฝึกฝน ให้ใจเราอ่อนโยนลงด้วยความรักความเมตตา ในทุกสถานการณ์
ทักษะการเป็นอยู่อย่างไร ให้มีความสุขกับการรู้จักพอ ในสังคมที่มีคนหลากหลายจำพวก
"ยิ่งพอเพียง..ก็ยิ่งสุขอย่างเพียงพอเสมอ"
9. Safeguard "สร้างระบบป้องกันการทำลายความสุข"
ความสุขมักมีคู่ปรับเป็นเงาคอยติดตามบ่อนทำลายอยู่เสมอ หากคนเราไม่ทันระวัง ก็อาจถูกจู่โจมได้อย่างไม่รู้ตัว
ทำอย่างไรตัวเราจะสามารถทำให้มีระบบสะกัดกั้น ขีปนาวุธด้านลบเข้ามาจู่โจมในชีวิตของเราได้
อย่างน้อยควรมีระบบป้องกัน3ระยะคือ
@ระยะไกล คือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในจิตใจเราให้เข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวง่ายๆ
@ระยะกลาง คือการป้องกันด้วยการไม่ทำให้ตัวเรานั้นตกเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวเชิงลบวิ่งเข้ามาหาใส่ตัวเรา "ศูนย์กลางนินทาและบรรดาFake news"ต้องไม่ใช่เรา
@ระยะใกล้ คือการเร่งรัดแก้ไขที่ตัวเราเอง ที่มีอาการทำลายความสุขด้วยตนเองอยู่ทุกวัน พึงพิจารณา ลด ละ และเลิก พฤติกรรมที่จะนำมาสู่การทำลายความสุขในชีวิตของเรา
"ยิ่งเรามีระบบเปิดและปิดประตูชีวิตแบบอัตโนมัติ..สิ่งบั่นทอนความสุขย่อมเข้ามาในชีวิตไม่ได้"
 
การออมใจเรา..ให้เป็นสุข ทั้ง9แนวทางนั้น..เป็นสิ่งที่ต้องสะสม เสริมสร้างอย่างสม่ำเสมอในทุกวัน....
"ช้าลงสักนิด ชีวิตจะเห็นความสุข
ตั้งใจในสิ่งที่ทำ ชีวิตจะสุขใจกับสิ่งนั้น
สัมผัสรับรู้กับทุกสิ่ง ชีวิตจะดื่มด่ำเป็นสุข
เปิดใจเรียนรู้ ชีวิตจะพบสุขที่กว้างไกล
ปรับอารมณ์เบิกบาน ชีวิตจะร่าเริงมีสุข"
"LL&L..21/1/2020
โฆษณา