23 ม.ค. 2020 เวลา 03:32 • ท่องเที่ยว
ตอนที่ ๑ ความสวยงามและอลังการของวัดป่าภูก้อน : ชุด “อุดรธานี-หนองคาย”
 
เพื่อนร่วมรุ่น “ประสานมิตร ๑๑” ได้ชวนคุณสายพิณให้ไปทำบุญไหว้พระที่วัดป่าภูก้อน อุดรธานี ในเดือนกุมภาพันธ์โดยรถทัวร์จากกรุงเทพมหานคร
 
อายุปูนนี้นั่งรถทัวร์ไป-กลับอุดรธานี เห็นว่าอาจจะทรมานสังขารมากเกินไป ประกอบกับในวันที่ ๑๖ มกราคม เป็นวันครบรอบวันแต่งงาน ซึ่งทุกปีได้พาคุณสายพิณไปท่องเที่ยวในและต่างประเทศอยู่แล้ว ปีนี้จึงถือโอกาสไปทำบุญไหว้พระที่วัดป่าภูก้อน อุดรธานี 
 
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วนับไปนับมาปีนี้เป็นปีที่ครบรอบแต่งงาน ๕๐ ปี ซึ่งฝรั่งเรียกว่าเป็น Golden Wedding Anniversary เสียด้วย ทำบุญไหว้พระเป็นเรื่องที่ดีแน่ๆ ครับ
 
วันที่ ๑๖ มกราคม ตื่นแต่เช้า เมื่อทำบุญใส่บาตรแล้ว โดยที่อากาศแล้งมากและแม้ว่าได้ทำระบบน้ำหยดให้ต้นไม้บางต้นแล้วก็ตาม แต่ไปหลายวันก็สร้างความชุ่มชื้นให้ต้นไม้เสียหน่อย วันนั้นรดน้ำต้นไม้ทุกต้นให้ชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษครับ
 
แม้ว่าเครื่องบินไปอุดรธานีออกสาย แต่โดยที่ในวันที่ ๑๖ มกราคม ซึ่งเป็นวันครูด้วยในปีนี้นั้นปรากฏว่ามีฝุ่น PM2.5 มากที่สุดใน กทม. จึงได้ออกเดินทางไปดอนเมืองแต่เช้า นอกจากรถไม่ติดแล้ว ยังได้ไปนั่งในห้องแอร์ที่ดอนเมืองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งได้กินอาหารเช้าที่ไม่แพงนักที่นั่นด้วย
กินอาหารเช้าที่ชั้น ๒ แล้ว เข้าห้องน้ำครับ เจอของแปลกเข้าให้ที่อ่างน้ำครับ มีคำอธิบายให้ยกขึ้นเพื่อเปิดน้ำ แต่ความจริงหมุนข้าง ผู้เขียนไม่โทษคนติดป้ายหรอกครับ แต่ AOT น่าจะมีระบบตรวจสอบและดูแลสักนิดนะครับ ขายหน้าคนไทยด้วยกันไม่เท่าไร ต่างชาติเห็นเข้าจะขำกลิ้ง
แล้วก็บินครับ ไปคราวนี้ไม่ได้สำรองที่นั่งผ่านเน็ตไว้ ไปถึงก็เช็คอินก่อนเครื่องออก ที่ไหนได้สายการบินจัดให้นั่งหลังสุดเลย ไม่เป็นไรครับ นั่งตรงไหนก็ได้ไปถึงพร้อมกันนั่นแหละครับ มองจากหน้าต่างเห็น PM2.5 เต็มไปหมด น่ากลัวจริงๆ นะครับ
 
ก่อนลงจากเครื่องที่อุดรธานี เห็นท้องฟ้าแล้วสบายใจมาก ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีมลพิษ หรือถึงมีบ้างก็ไม่มากนัก ตอนนี้อิจฉาคนอยู่ต่างจังหวัดเสียแล้วครับ ขอแย่งอากาศบริสุทธิ์สูดสัก ๓ วัน เถิดนะครับ
 
เดิมทีนัดหมายกันไปกินอาหารกลางวันกันที่แห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากคุณสิริวิมล เหมะธุรินทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี ติดประชุม จึงกินกันที่ร้านหมี่ขีด ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับศาลากลางจังหวัดอุดรธานี โดยคุณเยาวพรรณ แช่มพุดซา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี ซึ่งคอยรับที่สนามบินไปร่วมด้วย
ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณท่านทั้งสองที่อำนวยความสะดวกพร้อมทั้งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการท่องเที่ยวครั้งนี้อีกครั้งหนึ่งครับ
 
ร้านนี้คนเยอะมากครับ ทราบว่าเป็นร้านยอดนิยม ต้องนั่งรอคิวกันพอสมควร แต่ผู้เขียนคงไม่นิยมด้วยครับเพราะร้านนี้เติมเครื่องปรุงให้เรียบร้อยครับ ผู้เขียนเห็นว่าเป็นจุดอ่อนครับเพราะแต่ละคนกินอาหารรสชาติไม่เหมือนกัน ผู้เขียนไม่ชอบหวานครับ แต่ชามแห้งชามแรกนี่หวานจ๋อยเลยละครับ
 
แล้วก็เดินทางไปวัดป่าภูก้อน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ห่างจากจังหวัดอุดรธานีประมาณ ๑๐๙ กม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมง ๔๕ นาที (กูเกิ้ลบอกนะครับ)
จากอำเภอเมือง เดินทางผ่านอำเภอบ้านผือ (ต้นผือเป็นพืชชนิดหนึ่งคล้ายต้นกกคือนำมาทอเสื่อได้) เฉียดๆ อำเภอน้ำโสม แล้วก็ถึงอำเภอนายูร
 
สองข้างทางมีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ๓ ชนิด คือมันสำปะหลัง อ้อยและยางพารา บางแปลงกรีดยางได้แล้ว บางแปลงก็เพิ่งปลูก อีกไม่นานอิสาณคงเขียวชะอุ่ม เพราะยางพารามีส่วนช่วยแน่นอนครับ
เพิ่งได้ความรู้ว่าเหตุใดชาวไร่อ้อยจึงเผาอ้อยก่อนตัดทั้งๆ ที่โรงงานให้ราคาต่ำกว่า เหตุผลคือตัดง่ายกว่าครับ แต่ไม่ดีสำหรับอากาศเลยครับ การเผาอ้อยหรือเผาอะไรก็ตาม ทำให้มลพิษทางอากาศหรือ PM2.5 มากขึ้น อันตรายถึงตายกันแล้วครับ ทางราชการต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดแล้วละครับ
 
เนื่องจากวัดป่าภูก้อนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ทางขึ้นวัดซึ่งอยู่บนเขาจึงปกคลุมด้วยแมกไม้ เห็นแล้วชื่นใจครับ บางวัดเทคอนกรีตเต็มไปหมด คนเข้าวัดต้องการความร่มเย็นทั้งกายและใจ เข้าวัดที่มีร่มเงาของแมกไม้เยอะๆ ใจสงบก่อนฟังธรรมเสียอีกครับ
ถึงวัดป่าภูก้อนแล้วครับ อยากให้ท่านผู้อ่านได้ชมบริเวณวัดทั้งหมดก่อนเข้าไปภายในวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ภ.ป.ร.
เข้าไปชมภายในวิหารกันครับ สวยงามมากครับ มีพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ภ.ป.ร. ชื่อของท่านมีคำว่า “ไสยาสน์” ซึ่งแปลว่านอนอยู่แล้วครับ
เพิ่งสังเกตุว่ารอบๆ ฝาผนังใกล้เพดานมีบทสวดมนต์พร้อมภาพสลักสถานที่สำคัญและเหตุการณ์ต่างๆ ในพระพุทธศาสนาไว้ด้วย เช่น สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ ลุมพินีวัน นางสุชาดา ถวายข้าวมธุปายาส และปฐมเทศนา และโปรดปัญจวัคคีย์ เป็นต้น
ชมภาพรอบๆ วิหารกันหน่อยครับ
ดังได้กล่าวข้างต้นแล้วว่า วัดป่าภูก้อนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ดังนั้นทิวทัศน์รอบวัดจึงเต็มไปด้วยต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม เห็นแล้วสบายใจยิ่งนัก
ก่อนกลับอุดรธานี ก็ขึ้นไปดื่มกาแฟกันก่อนครับ มองเห็นทิวทัศน์วิหารได้เต็มตา
เดิมทีวางแผนว่าจะนอนรีสอร์ตนอกเมือง แต่เพื่อความสะดวกด้วยประการทั้งปวง ตอนกินอาหารกลางวัน จึงขอให้น้องๆ จัดการจองโรงแรมให้ ซึ่งได้ที่อัมมาน ยูนีค โฮเทล (Amman Unigue Hotel)
โรงแรมนี้เจ้าของเป็นมุสลิม ตั้งชื่อว่าอัมมัน นึกว่าชื่นชมประเทศจอร์แดน แต่ทราบภายหลังว่าเจ้าของชื่นชมตุรกีมาก ดังนั้น สิ่งของตกแต่งภายในทั้งหมดภายในโรงแรมนี้เป็นสไตล์และนำเข้ามาจากประเทศตุรกี
สำราญ สวนสวัสดิ์ เพื่อนเก่าแก่สมัยที่เรียนชั้น ป.กศ. ต้น ที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในปัจจุบัน) ซึ่งไม่ได้พบกันมากว่า ๒๐ ปี แล้ว ไปรับที่โรงแรมเพื่อไปกินอาหารเย็นกันที่ศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ (UD Town) “ยูดี” ก็อุดรธานีนั่นแหละครับ
ยูดี ทาวน์ เป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์และความสมบูรณ์แบบใจกลางเมือง มีอาหารตั้งวางขายเป็นซุ้มๆ หลายชนิดให้เลือกซื้อครับ ทั้งนี้ ยังมีวงดนตรีบรรเลงให้ฟังด้วยครับ
ได้รับคำแนะนำให้นั่งสามล้อถีบชมเมืองและชมหนองประจักษ์ตอนกลับโรงแรม เห็นว่าเป็นคำแนะนำที่ดี จึงตอบรับทันที แต่สามล้อฉีบเลิกงานกลับบ้านกันหมดแล้วครับ จึงเหมารถสามล้อเครื่อง ๒๐๐ บาท แม้ว่าแพงไปนิดแต่ไม่เป็นไรครับ ไปเที่ยวแล้วนี่ครับ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ
ถึงโรงแรมแล้วก็นอนพักผ่อนครับ วันรุ่งขึ้นต้องเดินทางไปไหว้พระและชมวังบัวแดงที่หนองคายซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันครับ ไว้อ่านตอนต่อไปนะครับ
 
พุธทรัพย์ มณีศรี
โฆษณา