8 ก.พ. 2020 เวลา 15:30 • ธุรกิจ
ไวรัสโคโรน่า... วิกฤติ หรือ โอกาส ??
bloomberg : ลงทุนฉบับมืออาชีพ
เมื่อเทียบผลกระทบของไวรัสโคโรน่ากับตลาดหุ้นทั่วโลก ณ วันที่ 6 ก.พ.2020 จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังปรับตัวลงน้อยกว่าช่วงที่เกิดไวรัสซาร์สระบาดอยู่ค่อนข้างมาก
มีเพียงตลาดหุ้นจีน H-share และตลาดหุ้นไทยเท่านั้น ที่ปรับตัวลดลงมากกว่าช่วงที่เกิดไวรัสซาร์ส โดยหุ้นจีน H-share ปรับตัวลดลงไปถึง -10.3% และตลาดหุ้นไทยของเราปรับตัวลดลงไป -8.8%
ซึ่งปัจจุบันตลาดหุ้นหลักทั่วโลกก็ได้รีบาวด์จากจุดต่ำสุดขึ้นมาแล้วทุกตลาด โดยตลาดหุ้นที่รีบาวด์ขึ้นมามากที่สุดก็คือ ตลาดหุ้นจีน A-share H-share และตลาดหุ้น Nikkei225 ของญี่ปุ่น
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยของเรายังถือว่าทำได้หน้าผิดหวังเพราะรีบาวด์จากจุดต่ำสุดขึ้นมาได้เพียงแค่ 2.4%
indiatimes.com
โดยการระบาดของไวรัสโคโรน่าในครั้งนี้มันมีความคล้ายคลึงกับสมัยช่วงที่เกิดโรคซารส์ ปี 2002-2003 อยู่ 3 ประการด้วยกัน คือ
1.เป็นโรคทางเดินหายใจที่ติดต่อกันได้ง่าย
2.มีต้นตอเกิดจากไวรัสโคโรน่าเหมือนกันแต่แตกออกเป็นคนละสายพันธุ์
3.มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนและเริ่มแพร่กระจายอย่างหนักในปลายเดือน ม.ค. เช่นเดียวกัน
ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ของไวรัสโคโรน่าก็เริ่มชะลอลงบ้างแล้ว อีกทั้งอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่ายังอยู่ในระดับต่ำกว่า 3% ต่ำกว่าสมัยโรคซารส์ที่ 10% แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะทะลุ 30,000 รายไปแล้วก็ตาม
Tisco Research
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลงต่อเนื่องอาจชี้ได้ว่ามาตรการปิดเมืองอู่ฮั่นตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. ซึ่งประกาศใช้มาเป็นเวลา 15 วัน เริ่มประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคภายหลังจากระยะเพาะเชื้อ 14 วันผ่านไป
และถ้าเราย้อนไปถึงการระบาดของโรคซารส์ ช่วง (1 พ.ย.2002- 10 ก.ค.2003) เดือนที่มีผู้ป่วยติดเชื้อใหม่มากที่สุดจะอยู่ในช่วง มี.ค.-เม.ย. ต่อจากนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ก็ทยอยลดลงเรื่อยๆหลังจากปลายเดือน เม.ย. เป็นต้นไป
ซึ่งเป็นช่วงที่หุ้นกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วก่อนที่โรคการระบาดจะหยุดลงในเดือน ก.ค.
Bloomberg
ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าครั้งนี้จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะพีคได้เร็วกว่าสมัยโรคซาร์สก็เป็นได้ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อโคโรน่าเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งมากกว่าตอนสมัยโรคซาร์สอยู่หลายเท่าตัว
โดยระหว่างช่วงที่เกิดไวรัสซารส์จนถึงช่วงที่ไวรัสหยุดระบาด ดัชนี CSI300 และ HSCEI ให้ผลตอบแทนเป็นบวกที่ +2.44% และ +58.82% ตามลำดับ
Bloomberg : ลงทุนฉบับมืออาชีพ
ขณะที่สินทรัพย์ทางเลือกอย่าง REITs สิงคโปร์ ทองคำ และตราสารหนี้ ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเช่นเดียวกัน โดย REITs สิงคโปร์ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในกลุ่มสินทรัพย์ทางเลือกที่ +14.14% ขาดทุนสูงสุด -5.6%
Bloomberg : ลงทุนฉบับมืออาชีพ
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ จึงนำมาเป็นบทสรุปแบบฟันธงที่ว่า "ไวรัสโคโรน่าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ คือโอกาสสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นจีน"... ฟันธงครับ !!!
โฆษณา