12 ก.พ. 2020 เวลา 11:00 • กีฬา
" ตัวเก่งจากทีมตกชั้น "
รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีสำหรับฟุตบอลอังกฤษ รางวัลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ PFA
PFA = สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ รางวัลของ พีเอฟเอ จึงมาจากการโหวตของนักฟุตบอลด้วยกัน การชนะรางวัลนี้่หมายความว่าคุณได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมอาชีพ
ฤดูกาลที่แล้ว มันตกเป็นของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่งของลิเวอร์พูล ซึ่งก็ถือว่าสมเหตุสมผล หรือจริงๆ จะมอบให้กับคู่แข่งที่เบียดกันมาอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ก็ไม่น่าเกลียด
การประกาศเอาในช่วงก่อนจบฤดูกาลหมายความว่าไม่จำเป็นที่ผู้ชนะจะต้องมาจากทีมที่เป็นแชมป์หรือทีมที่ประสบความสำเร็จ เป็นผลงานส่วนตัวเป็นหลัก
คุณเล่นดีมาตลอดฤดูกาล เล่นดีต่อเนื่อง โดดเด่น ปีนั้นคุณก็ชนะใจเพื่อนร่วมอาชีพไป
ลองย้อนไปดูในช่วงหลัง คนได้รางวัลก็ถือว่าเหมาะสมทั้งสิ้น ปีก่อน โม ซาลาห์ ย้อนไปก็ เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ริยาด มาห์เรซ, เอแด็น อาซาร์, หลุยส์ ซัวเรซ และ แกเร็ธ เบล เอาแค่นี้ก่อน
ในแต่ละปี แต่ละฤดูกาล นอกเหนือจากรางวัลของ PFA แล้ว ยังมีอีก 2 รางวัลที่ถือว่าได้รับการยอมรับลดหลั่นกันลงไปอีกหน่อย
หนึ่ง รางวัลของ FWA = Football Writers' Association สมาคมนักข่าวฟุตบอล ลงคะแนนโดยนักข่าวกีฬาฟุตบอล
สอง รางวัล Premier League Player of the Season อันนี้มอบโดยพรีเมียร์ ลีก เอง คนลงคะแนนคือสปอนเซอร์ของพรีเมียร์ ลีก และจากการโหวตของแฟนบอล
เราเชื่อกันว่านักข่าว หรือแฟนบอล อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากกว่านักบอลด้วยกัน และอาจจะมีความเอนเอียง มากกว่าเสียงจากนักบอลด้วยกันเอง ความน่าเชื่อถือเลยลดน้อยลงกว่ารางวัลของ PFA อย่างที่บอก
บางปี คนเดียวกวาดทั้ง 3 รางวัล เช่นในฤดูกาล 2017/18 โม ซาลาห์ เหมาทุกสถาบัน
โดยมาก คนได้รางวัลมักมาจากทีมที่ผลงานดี อาจจะไม่แชมป์หรอก แต่ส่วนใหญ่จบอันดับสูงๆ ทั้งนั้น
เลยมีคำถามว่า เคยมีบ้างไหม ใครที่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี แต่มาจากทีมที่ผลงานแย่ ระดับตกชั้น !
ยกตัวอย่างในปี 2010/11 ปีนั้น แต่ละสถาบันโหวตไม่ซ้ำกันเลย
PFA ตกเป็นของ แกเร็ธ เบล ซึ่งฤดูกาลนั้น เบล โดดเด่นขึ้นมาจริงๆ ผลงานของเขากับสเปอร์ส เหมือนดอกไม้ที่ผลิบานหลังจากตูมมานาน นอกจากในลีกแล้ว ใน ชปล. ก็โดดเด่นด้วย ลงสนาม 41 นัดยิง 11 ประตู ทุกรายการ
ด้าน พรีเมียร์ ลีก กลับมอบรางวัลให้กับปราการหลังเหล็กไหลของแมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง เนมานย่า วิดิช ซึ่งก็ไม่น่าเกลียด เพราะปีนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ วิดิช คือหัวใจสำคัญ นอกจากเกมรับแล้ว วิดิช ยังทำได้ถึง 5 ประตูจาก 35 เกมลีก
ส่วน FWA เหล่านักข่าวลงคะแนนแล้วมอบรางวัลให้กับ สก็อตต์ พาร์เกอร์ ห้องเครื่องวัย 30 ปีของ เวสต์แฮม
ปีนั้น พาร์เกอร์ เล่นดีจริงๆ มีส่วนทั้งรุกและรับในแดนกลาง ยิงได้ 5 ประตูจาก 32 เกม แต่ที่เขาทำไม่สำเร็จคือการพาเวสต์แฮม อยู่รอดในพรีเมียร์ ลีก
เวสต์แฮม จบฤดูกาลด้วยอันดับ 20 เป็นบ๊วยตกชั้น ด้วยการมี 33 แต้ม โดนยิงถึง 70 ประตู
อีกหนึ่งตัวอย่างคือในฤดูกาล 1996/97
อลัน เชียเรอร์ ย้ายมาจากแบล็คเบิร์น สู่นิวคาสเซิ่ล ด้วยค่าตัวถึง 15 ล้านปอนด์ แล้วส่อง 25 ตุงจาก 31 เกม แม้สาลิกา จะไม่ได้แชมป์ แต่ฟอร์มร้อนแรงแบบนี้ ทำให้นักเตะด้วยกันโหวตให้ ฮ็อตช็อต ได้รางวัลของ PFA ไปครอง
ส่วนนักข่าวกีฬา FWA เลือกที่จะมอบให้กับอีกหนึ่งนักเตะใหม่ จานฟรังโก้ โซล่า พ่อมดร่างเล็กของเชลซี ที่มาสร้างความหวือหวาฮือฮา แบบที่ในพรีเมียร์ ลีก ไม่ค่อยมีนัก
อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนั้นมีอีกหนึ่งพ่อมดร่างเล็ก จูนินโญ่ เปาลิสต้าของมิดเดิลสโบรช์
โบโร่ จบอันดับ 19 แต่ จูนินโญ่ ยิงถึง 10 ลูกจาก 36 นัด และเล่นได้อย่างโดดเด่น เขามีคะแนนตามหลัง เชียเรอร์ ใน PFA และแพ้ โซล่า ในสถาบัน FWA แบบหวุดหวิดทั้งสองสถาบัน
แม้โบโร่ จะตกชั้น และ จูนินโญ่ อกหักทั้ง PFA กับ FWA แต่เขายังมีรางวัลปลอบใจเมื่อพรีเมียร์ ลีก เลือกเขาเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม จบฤดูกาลนั้นเขาก็โดน แอตเลติโก้ มาดริด คว้าตัวไปร่วมทีมทันที เขาเล่นกับตราหมีอยู่ 2 ปี แล้วย้ายกลับมาทิ้งทวนกับ มิดเดิลสโบรช์ อีกครั้งในฐานะฮีโร่ผู้เป็นที่รักในฤดูกาล 1999/2000 แล้วกลับบ้านเกิดเล่นให้ วาสโก ดา กาม่า กับ ฟลาเมงโก้ ก่อนจะหวนคืนถิ่นอีสาน ริเวอร์ไซด์ เป็นคำรบ 3 และคำรบสุดท้ายในปี 2002/03
หนนี้เล่นอยู่ 2 ซีซั่น จึงอำลาไปเซลติกด้วยวัย 31 ปี
นี่คือตัวอย่างที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับนักเตะจากทีมตกชั้นที่เล่นได้ดีถึงขั้นรับการโหวตเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล
จูนินโญ่ ได้ไป 1 รางวัล และ "เกือบ" ได้ในอีก 2 รางวัลที่เหลือด้วย
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา