23 ก.พ. 2020 เวลา 10:52 • ประวัติศาสตร์
โรคใต้สะดือ 1
...ในเช้าวันหนึ่ง ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัว ตัวลุมๆ ร้อนๆ เหมือนจะเป็นไข้ มันปวด มันเมื่อยตามข้อไปหมด ผมนั่งคิดๆ ดูเมื่อวานก็ไม่ได้ทำอะไรโลดโพนมาก. ก็ใช้ชีวิตเหมือนหนุ่มออฟฟิตธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านัั้น. กิน ดื่ม เที่ยว เหล่หญิง จีบชายไปวันๆ ในบางครั้งก็ได้้เล่นกีฬาบนเตียงบ้าง ป้องกันบ้าง ไม่ได้ป้องกันบ้าง ตามอารมณ์ ตามประสาชายโสด ที่หล่อและดูดีอย่างผม
เห้อ....จำไม่ได้ว่าไปแบกปูน โบกตึกที่ไหน ถึงได้ปวดขนาดนี้ วันหยุดแท้ๆ ต้องมาแบกร่างกายไปหาหมอเสียนี่ เสียเวลาพักผ่อนจริงๆ
ผมรีบอาบน้ำชำระร่างกายแบบลวกๆ จะไม่อาบก็ไม่ได้ ก็เมื่อคืนหนักไปหน่อยเลยเผลอหลับไปทั้งชุดทำงาน. และผมตัองอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผมของหลุดติดมือมาเป็นกระจุก. เฮ้ยยย. นี่มันอะไรกันว่ะ. ผมคิดในใจ
ผมมาถึงโรงพยาบาลอย่างไว แต่ก็อย่างที่รู้ว่าต้องนั่งรอหมอ. รอคิวนานมาก. เข้าใจคุณหมอครับ คนไข้เยอะจนล้นโรงพยาบาล. บุคลากรทางการแพทย์ก็มีจำกัด. การรอนานก็เป็นเรื่องธรรมดา กว่าที่ผมจะได้เข้าตรวจ ก็ปาเข้าไปบ่ายสามกว่าๆ
หลังจากเล่าอาการทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าที่ผมตื่นนอน. คุณหมอหนุ่มก็นั่งพินิจ พิจารณา รงมถึงซักประวัติเล็กๆ น้อย ก่อนจะลงมติเป็นเอกฉันท์ ( อย่างกับลงคะแนนเสียง....ล้อเล่น ). ต้องเจอะเลือดและต้องรอผลอีก 1-2 ชม.
2 ชม. ผ่านไป.. .. .. บะหมี่สำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่ง เหมือนโกหก
ผลการตรวจชี้ชัดว่าผมเป็น. "Secondary. Syphilis" หรือ "ซิฟืลิส ระยะที่ 2" ซึ่งจะมีอาการเด่นชัด คือ รู้สึกปวดหัว มีไข้ ปวดเมื่อยตามข้อ ผมร่วงเป็นหย่อมๆ. (เหมือนพยากรณ์อากาศเลย) ในบางรายอาจมีผื่นแดงหรือน้ำตาลขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้าและตามตัว โดยที่ไม่มีอาการคัน ซึ่งผมโชคดีที่ผื่นแดงยังไม่ขึ้น โดยภาษาชาวบ้านเรียกระยะนี้ว่า "ระยะออกดอก". ซึ่งจะแสดงอาการอยู่ประมาณ 1-3 เดือน และจะหายไปเอง แต่อาจกลับมาเป็นใหม่ได้อย่าชะล้าใจไปนะจ๊ะ
"เดี๊ยว!!! นะครับคุณหมอ" ผมเอ่ยขึ้นเมื่อผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง "ทำไมผมมาเป็นระยะที่ 2 เลยละครับ หมอวินิจฉัยผิดหรือเปล่า ระยะแรกผมยังไม่ได้เป็นเลย แล้วอยู่ๆจะใหัผมมาเป็นระยะที่ 2". ผมเริ่มหงุดหงิดกับความสับเพล่าของหมอ
"แสดงว่าคุณไม่เคยสังเกตุความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ในตัวคุณเลย" หมอพูดเป็นเชิงตำหนิก่อนจะเริ่มอธิบายให้ผมฟัง
โรคซิฟิลิส ( Syphilis ) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า "Palhdum" ซึ่งจะเข้าสู่ร่างกายโดยอาศัย เยื่อเมือก เช่น ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ เหยื่อบุตา. ปาก หรือตามผิวหนังที่มีแผล จากนั้นจะเข้าสู่เส้นเลือดและไปจับตามอวัยวะต่างๆ จนทำใหัเกิดโรคที่อวัยวะนั้นๆ
ในระยะแรก เชื้อจะเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดแผลซึ่งมักจะเป็นอยู่แผลเดียว เรียกว่า แผลริมแข็ง ลักษณะจะเป็นแผลขอบนูนๆแข็งๆ ไม่รู้สึกเจ็บ ทำให้เราไม่รู้ตัว แผลดูสะอาด ซึ่งหลายๆคนมักไม่สนใจ เพราะแค่คิดว่าเดี๊ยวมันก็หายเอง. แผลแค่นี้ ชิชิ
ผมคิดตามที่หมอบอก. ใช้ผมมีแผลแบบที่หมอว่านั้นแหละ. อยู่ตรงหัวหยักตรงอวัยวะเพศที่สาวๆ เห็นยังต้องอึ่งกับความอลังการตระหง่าน 555. แต่ผมก็ไม่ได้สนใจแผลนั้นมากนักก็แค่อาจเป็นแผลถลอกธรรมดา เดี๊ยวก็หายแค่ดูแลความสะอาดให้ดีก็เท่านั่น
ผมสลัดความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวผมก่อนที่จะตั้งใจฟังคุณหมอต่อ
หากไม่ได้รับการรักษาในระยะแรก โรคก็จะกลายมาเป็นระยะที่ 2. แบบที่คุณกำลังเป็น ซึ่งถ้าคุณไม่มารักษาก็ได้ 1-3 เดือนก็หายเองได้ แต่.....
โอ้ยยยย. ผมไม่ชอบเสียเลยไอ้คำว่า. "แต่"เนี๊ย
แต่ก็มีสิทธิ์กลีบมาเป็นได้อีกครั้งและอาจจะรุนแรกกว่าเดิมก็เป็นไปได้
ระยะที่ 3. เราเรียกว่า "ระยะแฝง". หรือ Latent. Stage. เป็นระยะที่ไม่มีอาการใดๆ และอาจกินเวลาอยู่หลายปี และอาจมีผื่นขึ้นบ้างเหมือนระยะที่ 2 ซึ่งการเจาะเลืิอดไปตรงจเป็นทางเดียวที่จะรู้ได้ว่าเป็น "ซิฟิลิส". หรือไม่
ระยะที่ 4 Late. Stage. ระยะนี้จะกินเวลายาวนานถึง 30 ปี หลังจากได้รับเชื้อ โดยจะเข้าไปทำลายอวัยวะต่างๆภายในทำให้เกิดความผิดปกติ หากรักษาไม่ทันอาจทำให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายถูกทำลายจนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
หากพบเชื้อในระยะต้นๆ สามารถรักษาให้หายขาดได้ ระยะการรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคด้วย
ส่วนการป้องกัน การสวมถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง และอย่าเปลี่ยนคู่นอนบ่อย นอกจากนี้หากมีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าจะเป็นโรคควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
"ผมรู้สึกโชตดีที่มาหาหมอได้ทันท่วงที แลัรู้สึกโชคดีอีก 1 ชั้น คือ เจอคุณหมอที่สละเวลาอธิบายที่ไปที่มาจนกระจ่าง แจ่มแจ้ง แดงแจ้"
"เอ้อ...แล้วคุณหมอฝากบอกว่า. ถ้าร่างกายมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ อย่ารอให้เป็นหนัก. เพราะอาจจะสายเกินแก้ก็ได้.."
ชอบกด "ไลค์"
ถ้าใช้กด "แชร์"
"กดติดตาม". และคอมเม้นท์พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ
โฆษณา