26 ก.พ. 2020 เวลา 14:04 • ไลฟ์สไตล์
PPNK Review EP.1
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายระดับ 20,000 แรงม้า Xiaomi Dreame V9
เชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะเบื่อกับหน้าตาของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในครัวเรือน ที่ทั้งเชย และ ใหญ่เทอะทะ บางตัวดีไซน์ก็เห่ยจนไม่น่าจับมาใช้ แต่เทคโนโลยี และ การดีไซน์นั้นไม่เคยหยุดนิ่งครับ
ในที่สุดกาลเวลาก็นำพาทั้งสองอย่างนั้นเดินทางมาพบกัน โลกได้เดินทางมาถึงยุคที่ แม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านนั้น ก็เป็นเรื่องของการดีไซน์
เรื่องของความสะดวกสบาย และ ความน่าใช้งาน รวมอยู่ด้วยกัน จนตอนนี้ หลายๆคนคงจะรู้สึกได้แล้วว่า เครื่องใช้ภายในบ้าน ที่ผลิตออกมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มีความเป็น"ของเล่น"มากขึ้น ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ชอบทำงานบ้านอย่างแอดมิน พอได้เห็นดีไซน์ก็เกิด สงสัยขึ้นมาในใจว่า "มันจะใช้ดีป่ะวะ?" เลยตัดสินใจซื้อมาลองเล่นดูครับ แล้วก็ได้พบว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์จีนแท้ๆแบบนี้ ก็ทำของเจ๋งๆออกมาได้เหมือนกัน
ต่อไปเป็นอุปกรณ์ ภายในกล่อง
อุปกรณ์ชิ้นแรกในภาพนั้นคือ Vacuum Cleaner เป็นตัวเครื่องดูดฝุ่นนี่แหละ เป็นหัวใจหลักของ System ทั้งหมด
Metal Connecting Stick เป็นท่อโลหะเสริมความยาว แต่ละอุปกรณ์ จะมีหน้าคอนแทคโลหะยื่นออกมาเพื่อรับไฟจากตัวเครื่องหลัก
Soft Roller Cleaner Head หัวดูดแบบพื้นฐาน จะมีมอเตอร์ในตัว ตัว Roller สามารถถอดมาทำความสะอาดได้ตามภาพ
อแดปเตอร์ชาร์จ
Wall-Mounted Charging Dock ที่ชาร์จแบบแขวนผนัง สามารถชาร์จตัวเครื่องดูดฝุ่นได้
Electric Mites Cleaner Head ตัวนี้เอาไว้ทำความสะอาดพวกพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม อย่างพรม หรือ ผ้านวมมีมอเตอร์ในตัว ถอดมาทำความสะอาดตามภาพครับ
2 in 1 Crevice Tool และ 2 in 1 Dusting Brush ทั้งสองอุปกรณ์มีหน้าที่คล้ายกันคือ ใช้ในการปัดฝุ่นที่เกาะตามซอกแคบๆให้กระจายตัวออกมา แล้วดูดเก็บด้วยตัวเครื่องดูดฝุ่น สามารถยืดหดได้ตามภาพ
วกกลับมาดูที่ตัวเครื่องสักนิดนึงครับ ที่ตัวเครื่องหลักจะมีจะมีทั้งสวิสต์ที่เหมือนไกปืนเอาไว้เริ่มทำการดูด สวิตส์เป็นสวิตส์แบบ Micro Switch หรือก็คือสวิตส์แบบ กดลงเดินเครื่อง คลายสวิตส์ออกมาดับเครื่อง นั่นเอง มีลักษณะเหมือนไกปืน ลั่นค่อนข้างง่ายนะ แต่ก็ไม่ถึงกับสะกิดแล้วลั่นเลยนับว่าโอเค
1
และ สวิสต์ปรับความแรงที่ท้ายเครื่องโดยจะแบ่งความแรงเป็นสามระดับ เป็น ระดับ1 ระดับ2 และ MAX ภายในมีมอเตอร์ที่ทำแรงดูดได้สูงสุด 20,000 PA
1
ด้านบนตัวเครื่องหลัก จะเป็นที่อยู่ของ HEPA Filter ซึ่งจะเป็นฟิลเตอร์เอาไว้กรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กมากๆ(0.3ไมครอน) สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้วนับว่าช่วยได้มาก
เป็นไส้กรองที่อยู่ภายใน Dustbin หรือ กล่องพักฝุ่น ถ้าตาม Spec แจ้งว่าเป็นระบบ Cyclnoes อะไรสักอย่าง ประโยชน์ของมันคือ เป็นตัวบังคับทิศทางลมให้ฝุ่นไม่กระจายตัวออกไปจากกล่องพักฝุ่น อธิบายง่ายๆเหมือน สร้างแรงลมกดฝุ่นไว้ไม่ให้มันกระจายขึ้นมาข้างบนกล่องพักฝุ่นนั่นเองครับ ซึ่งถ้าไม่มีระบบนี้ ฝุ่นอาจจะเข้าไปที่มอเตอร์และสร้างความเสียหายให้กับ System ทั้งหมดได้ เพราะด้านบนนั้นมีช่องลมที่ต่อสายตรงเข้ามอเตอร์ทันที
ทั้งหมดนั้นจะถอดออกมาได้แบบนี้ (ด้านขวาเป็น HEPA ด้านซ้ายคือ Cyclnoes)
ดูงานประกอบ ก็ถือว่าแน่นหนาแข็งแรงดี ดีไซน์จัดว่าสวยแบบเรียบๆมุมจับถือโอเค ตัวเครื่องมีน้ำหนักกำลังดี Hand Grip ก็จับถือได้เหมาะมือ ไม่ต้องออกแรงกำมาก เวลายกขึ้นมาเพื่อทำความสะอาดในมุมเงยอาจจะหนักข้อมือนิดนึง แต่ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
วดูดประเภท Roller สามารถพลิกหักศอกได้ตามรูป สามารถใช้งานในพื้นที่ที่ผู้ใช้งานยกศอกไม่ได้ ใช้การพลิกข้อมือแทน
แรงดูดสูงสุดของ Dreama V9 จะอยู่ที่ 20,000 PA โดยที่ค่า PA จะเป็นตัวบอกว่า เครื่องดูดฝุ่นเครื่องนั้นๆจะสามารถดูดอะไรเข้าไปได้บ้าง
2
1,000 PA ขึ้นไป จะเป็นพวกฝุ่นขนาดเล็กที่แทบจะไม่มีน้ำหนักเลย
8,500 PA ขึ้นไป จะเป็นพวกเส้นผม ขนแมว หรือ ผงอะไรก็ตามที่เริ่มมีน้ำหนักขึ้นมาบ้าง อย่างเช่น น้ำตาลผง เกลือ เป็นต้น
 
12,500 PA ขึ้นไป จะเป็นพวก เมล็ดข้าว ถั่ว เศษเส้นมาม่าแห้ง เมล็ดข้าวโพด อาหารเม็ดสำหรับแมวเด็ก
 
18,500 PA ขึ้นไป จะเป็นพวก เมล็ดกาแฟ คัตต้อนบัต ทรายแมวภูเขาไฟ
20,000 PA ขึ้นไป น๊อตก็ดูดได้ เหรียญ เศษแก้วที่แตก หรือ ฝุ่นฝังแน่น ในหมอน ผ้านวม พรม ม่าน ผ้าหนาๆ
**อย่าลองดูดเล่นเพราะในคู่มือ (น๊อต เหรียญ เศษแก้วที่แตก) รายการพวกนี้ถือเป็นของต้องห้ามนะจ๊ะ ถ้าพลั้งพลาด พังไป เพราะดูดของพวกนี้ เคลมไม่ได้นะเออ**
เพิ่มเติมสำหรับ เรื่อง PA Level จริงๆแล้วโดยทั่วๆไป ค่า PA จะมีไว้ใช้ในกรณีที่ผู้ซื้ออย่างเราๆ ต้องการประมาณหรือ คาดคะเน แรงดูดของเครื่องดูดฝุ่น เอามาเทียบกับสิ่งที่ต้องทำความสะอาดภายในบ้าน ว่าขอบเขตุของเศษผงเศษขยะที่เราต้องเจอภายในครัวเรือนของเราเองเนี่ยมีอะไรบ้าง
แอดขอแนะนำประโยชน์อีกอย่าง ที่เราได้จากการอ่าน Spec ตรงนี้อีกสักข้อ ถือว่าแนะนำการใช้งานแบบได้ประโยชน์สูงสุดก็ได้
Dreama V9 จะตั้งค่าความแรงได้สามระดับ มี ระดับ 1 ,2 และ MAX ถ้าเดามั่วๆ เพราะใน Manual ไม่มีบอกไว้ หรือเป็นภาษาจีนแอดก็ขี้เกียจจะอ่านเพราะอ่านไม่ออก ก็น่าจะแบ่งตามนี้ (อิงจากของที่ดูดขึ้นไปที่กล่องพักฝุ่นได้)
ระดับ 1 : 12,500 PA \ ใช้งานได้ 50-70 นาที โดยประมาณ
ระดับ 2 : 18,500 PA \ ใช้งานได้ 20-30 นาที โดยประมาณ
ระดับ MAX : 20,000 PA \ ใช้งานได้ 5-10 นาที โดยประมาณ
และเมื่อแบตหมด จะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อชาร์จให้เต็ม
**ระยะเวลาข้างต้น จากแบตเต็ม จน แบตเกลี้ยงถัง**
ถ้าดูระยะเวลาการใช้งานอาจจะรู้สึกว่าน้อยนะครับ แต่จริงๆแล้วการใช้งานจริงๆต่อหนึ่ง Fully Chart นั้นไม่ได้น้อยเลยครับ เห็น 30 นาที ,10 นาที แต่พอใช้จริงๆ เราไม่ได้กดสวิสต์ตลอดเวลาอยู่แล้วล่ะ จะกดไกสวิสต์ก็เฉพาะเวลาตั้งใจจะดูดสิ่งสกปรก เพราะฉนั้นปริมาณแบตเตอร์รี่ที่มีเนี่ย ถือว่าเพียงพอนะ ลองคิดในมุมที่ว่า ถ้าเปิดแรงขึ้น ก็ทำความสะอาดได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้นนั่นเองครับ
ถ้าเราเจอเวลาเร่งด่วนอย่างเช่น นัดสาวที่เพิ่งได้คุยกันมาที่ห้อง แล้วพี่แกดันโทรมาบอกว่าจะมาก่อนเวลานัด คุณเหลือเวลาแค่ 15 นาที ในการทำความสะอาดห้อง แอดก็แนะนำให้เปิด Max Mode ดูดอัดเข้าไปเลยครับ มันช่วยให้อะไรเร็วขึ้น ง่ายขึ้นจริงๆในแง่ของการทำความสะอาดนะ
เสียงตัวเครื่องที่เค้าว่า เงียบ ไม่ค่อยมีเสียงดังรบกวนนั้น ตามทัศนะของแอดมินเสียงไม่ได้เงียบนะ คือมันเป็น Noise รบกวนโสตประสาทได้ประมาณนึงเลยแหละ ยิ่ง Max Mode นี่ยิ่งแล้วใหญ่เสียงดังมาก แต่ถ้าเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นด้วยกันเองอาจจะถือว่าค่อนข้างเบาครับ แต่ถ้าตามความคาดหวังของแอดมินแล้วเนี่ย
ต่อให้เป็น Energy-Saving Mode(ความแรงระดับที่ 1) ก็ถือว่าสร้าง Noise รบกวนได้อยู่พอสมควร
เรื่อง "ความนิ่ง" ของบอดี้เวลารันเครื่อง ถือว่า"เกือบ"นิ่งสนิทนะ แต่พอเปิด Max Mode แล้วสังเกตได้เลยว่า บอดี้มีการ"สั่น"และมันจะสะท้านมือหน่อยๆด้วย ถ้าใครไม่จุกจิกเรื่องนี้ ก็มองข้ามได้นะ มันไม่ได้สั่นแรงอะไรอ่ะแต่แค่รู้สึกว่าไม่นิ่งสนิทเฉยๆ เหมือนกับว่าจังหวะหมุนมอเตอร์มันเนียนไม่สุดไง แรงเหวี่ยงมันสะเทือนมาถึงด้านนอกไรงี้ ใช้แปบๆไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าใช้นานๆจะมีผลให้ล้าข้อมือได้
ระบบทำความเย็น หรือ Cooling System ในความแรง ระดับ1 และ 2 ไม่มีปัญหา แต่พอเปิด Max Mode ก็ร้อนเร็วอยู่นะ ร้อนแบบเห็นได้ชัดเลย
ดูดตามไม้ระแนง นับว่าใช้ได้ แต่การจับถือในมุมเงยก็เป็นภาระข้อมืออยู่บ้าง
ตัวอย่างการใช้งาน ของ 2 in 1 Crevice Tool ปัด แล้ว ดูด ปัด แล้ว ดูด
ดูดผ้านวม โซฟา พรม ก็ใช้ได้นะแต่ตามความรู้สึกคือขอบข่ายการดูดไม่น่าจะ Deep เท่าไหร่เวลาดูดพวกหมอนหรือเบาะนอน อาจจะได้แค่บริเวณพื้นผิว และลึกลงไปอีก 1 ซม ถึง 2 ซม แค่นั้นแหละ
สำหรับคนที่หวังผลเรื่องดูดไรฝุ่น ตามทัศนะของแอดมิน คิดว่าตัว Dreame V9 ไม่ตอบโจทย์นะ เพราะ การดูดไรฝุ่นจากที่นอน หมอน มุ้ง มันต้องมีระบบทำความร้อนช่วยฆ่าไรฝุ่นด้วย จะเป็น UV อะไรก็ว่าไป แบบนั้นถึงจะหวังผลเรื่องดูดไรฝุ่นได้
กดเปิด Dust Bin ทางด้านล่างของกล่องพักฝุ่น
การถอดทำความสะอาด ส่วนที่โดนน้ำได้จะมี ไส้กรอง ทั้งด้านบนและด้านล่าง ตามคู่มือแนะนำให้ตากแดดไว้ 24 ชั่วโมงหลังล้างเสร็จ แต่ถ้าใครรีบก็ไดร์เป่าผมเป่าเอา ใช้ได้เหมือนกัน
กรอง HEPA ก็ล้างน้ำได้เหมือนกัน
จริงๆในส่วนของถังพักฝุ่น ล้างน้ำได้นะแต่ต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าไปในช่องมอเตอร์ ไม่งั้นพังครับ แนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงแบบแอดมิน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดดีกว่าครับ ปลอดภัยกว่าเยอะครับ
จบไปแล้วสำหรับรีวิว ตัวแรกของผมบน Blockdit ขอบคุณที่อ่านจนจบนะจ๊ะ น่ารักจริงๆเลย
และอย่าทะลึ่งไปใช้ดูดของเหลวนะ แอดลองแล้ว ไม่เวิร์ค เหตุผลคือ พวกของเหลวอย่างเช่นน้ำอะไรแบบนี้ แรงตึงผิวมันแปรผันตลอดเวลา เดี๋ยวเรียบ เดี๋ยวสั่นไหว เดี๋ยวกระจายตัว มันจะไม่เหมือนของแข็ง น้ำหนักมันไม่คงที่ ทำให้ดูดขึ้นมาได้ยาก แถมเพิ่งมาเปิดคู่มือภาษาจีนดูทีหลัง ในคู่มือบอกว่าห้ามดูดของเหลว 5555555 ดีนะที่เครื่องไม่พังไม่งั้นเสียดายแย่ แถมเคลมประกันไม่ได้ด้วย 5555
ถ้าชอบ รีวิวสไตล์นี้ ขอรบกวนนิ้วไหนสักนิ้วบนมือท่านกด ไลค์ & แชร์ ด้วยนะครับ แอดมินขอพับเพียบกราบตักล่วงหน้า
กราบตักครับ
โฆษณา