28 ก.พ. 2020 เวลา 16:05
ทำอย่างไร ให้มีความสุข ในชีวิตที่คุณไม่มีความสุข
ถ้ามีเงินจะมีความสุข ผมเคยคิดเช่นนั้น แต่บรรดาหลายคนที่ผมรู้จัก พวกเขามีเงินเยอะมากกว่าผมหลายเท่า สิ่งหนึ่งที่พวกเขาบอกตรงกัน คือ ถ้าตอนนี้ผมไม่มีความสุข พอมีเงินแล้ว ผมก็จะยังคงไม่มีความสุขต่อไป ถ้านายอยากจะมีความสุข ต้องพยายามมีความสุขตั้งแต่วันนี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้น ต่อให้หาเงินได้มากมาย แต่หัวใจห่อเหี่ยวตลอดเวลา ถือว่าขาดทุน…!!!
ผมเป็นคนหนึ่งที่ถึงเป้าหมายทางการเงินที่ตัวเองตั้งเอาไว้ เป็นเป้าหมายเล็กๆที่ไม่ได้ประกาศให้โลกรู้ มันทำให้ผมเริ่มเข้าใจ การมีเงินไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขมากยิ่งขึ้น (แน่นอน การไม่มีเงินนั้นทุกข์กว่าเยอะ) แต่การมีเงินจะทำให้คุณมีทางเลือกมากกว่าเดิม
ถ้าคิดในมุมกลับกัน สมมุติว่าคุณทำงานที่ได้เงินเยอะมากๆ แต่เป็นงานที่คุณเกลียดมากๆและยึดอิสรภาพในชีวิตของคุณไปจนหมด. คุณจะยังคงคิดว่าตัวเองมีความสุขอยู่หรือเปล่า..??? ผมเคยพบผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่หาเงินปีหนึ่งได้หลายสิบล้าน แต่ไม่มีความสุขแม้แต่วันเดียวเพราะทำงานในธุรกิจกงสี ต้องใช้ชีวิตภายใต้การ “ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้” ของพ่อแม่ตลอดเวลา และต้องอดทนทำงานกับบุคคลที่พี่เขาไม่ชอบใจอีกด้วย อยากจะมีชีวิตอิสระก็ไม่ได้ ลาออกจากงานก็ไม่ได้ เกษียณตัวเองก็ไม่ได้ หยุดทำงานก็ไม่ได้…!!!
ดังนั้น การมีเงินที่ดี ต้องมาควบคู่กับการมีอิสรภาพในการไปทำสิ่งที่มันคุ้มค่าและมีความหมายต่อชีวิตเราด้วย นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรือไม่มีเงิน ถ้าคุณสามารถเลือกทำสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุขไปโดยปริยาย
เมื่อผมรู้อย่างนี้ ผมเลยตั้งหน้าตั้งตาศึกษาเรื่อง “ความสุข” แบบวิทยาศาสตร์จริงๆจังๆ อ่านทั้งหนังสือ ดูภาพยนต์ และดูสารคดีเกี่ยวกับความสุข ผมเลยขอสรุปให้คุณได้เรียนรู้เพื่อประหยัดเวลาในชีวิตคุณนะครับ
อันดับแรก การออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 4 วันต่อสัปดาห์
คงมิต้องอธิบายเหตุผลใดๆอีกนะครับ ว่าการออกกำลังกายสามารถช่วยเสริมสร้างความสุขมากมายขนาดไหน เพราะความสุขนั้นมันไม่ใช่เรื่อง “วิธีคิด” เพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นเรื่อง “วิธีทำ” เพื่อสร้างสารเคมีแห่งความสุขให้หลั่งในสมองอีกด้วย
ร่างกายของมนุษย์ตั้งแต่โบราณ ธรรมชาติออกแบบให้เราจำเป็นต้องเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ แต่พอโลกเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมที่มนุษย์ต้องทำงานแบบเต็มวัน คนส่วนใหญ่ “ละเลย” ภารกิจที่สำคัญอันดับต้นๆของชีวิต ยิ่งเราทำงานนั่งโต๊ะนานเท่าไหร่ เรายิ่งห่างเหินธรรมชาติของการเป็น “มนุษย์” มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะมีเวลาหรือไม่ คุณจะต้องจัดสรรช่วงแห่งการรับใช้ชีวิตด้วยการออกกำลังกายให้ได้ เชื่อหรือไม่ การออกกำลังกายแค่ 20 นาที สามารถทำให้คุณมีความกระตือรือร้นในการสร้างความสุขนานถึง 10 ชั่วโมง คุ้มค่าจริงๆ
ผมเคยลดน้ำหนักจดไขมันในร่างกายลดฮวบฮาบเพราะออกกำลังกายอย่างเป็นระบบ ช่วงนั้น ผมมีความสุขกับชีวิตมาก ตื่นนอนด้วยความรู้สึกว่าโลกเป็นสีฟ้าสดใสทุกวัน อารมณ์ดีเหมือนคนได้รับสารเคมีตลอดเวลา พอปล่อยตัวเองให้น้ำหนักสูงขึ้นมาอีกครั้ง น่าเศร้า ผมไม่ได้สัมผัสอารมณ์นั้นอีก ตอนนี้ผมกำลังทำทุกทางเพื่อดึงความสุขนั้นกลับมา
อันดับสอง นอนหลับให้เพียงพอ ไม่งั้นความสุขจะไม่มีวันพอเพียง
เป็นเพราะเทคโนโลยีอีกแล้วที่ทำให้มนุษย์ยุคนี้สามารถอัพเดตสถานการณ์รอบด้านให้เกิดความตื่นตัวได้ตลอดเวลา และการดูโทรศัพท์มือถือหรือภาพยนต์ทำให้แสงสีฟ้าทะลุเข้าตา หลอกสมองเราว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลากลางคืน ดังนั้น ห้ามง่วงเด็ดขาด ต่อให้หลับลงจริงๆ ร่างกายก็หลับไม่ลึก เป็นการหลับแบบไม่มีคุณภาพอยู่ดี การงดเล่นอุปกรณ์อิเลคทรอนิคหลัง 3 ทุ่มจึงเป็นเรื่องจำเป็น
เนื่องจากผมเป็น Freelance และเป็นคนที่ชอบทำงานกลางคืน ทำให้ผมนอนตี 3 -4 เป็นประจำ จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มนุษย์มี 3 จำพวก คือ คนที่สามารถเปล่งศักยภาพได้ในตอนกลางวัน คนสายพันธุ์นกฮูกที่มีสมาธิสูงมากในช่วงกลางคืน และไม่เข้าพวกใดพวกหนึ่ง…!!! ผมเลยต้องใส่ใจเรื่องการนอนให้ครบ 7 ชั่วโมงต่อวัน
อันดับสาม ความสุขเริ่มต้นที่อาหาร
ลำไส้ของมนุษย์นั้นยาวมากๆ เขี้ยวแหลมๆก็ไม่มี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์กินพืช แต่ในยุคปัจจุบัน เรากินเนื้อสัตว์ในปริมาณมาก ถ้าเราอยากจะมีความสุข ต้องดึงตัวเองให้กลับมากินผักในปริมาณที่มากๆให้ได้ สารคดีหลายเรื่องพูดตรงกัน การเน้นกินผัก ผลไม้ นอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตให้สมบูรณ์มากยิ่งด้วย
โชคดีที่ผักหาซื้อได้ง่าย เพราะบ้านผมใกล้ Top 7-11 และห่างอีกหน่อยก็ Max Value ผมเลยกินเป็นประจำ และตั้งแต่กินผักแบบเน้น อาการท้องผูกก็ไม่เคยมาเยือนผมอีกเลย อันนี้ดีต่อใจจริงๆครับ
อันดับสี่ การทำสมาธิ
สมัยเด็กผมเกลียดการทำสมาธิมากๆเพราะมันเป็นสิ่งที่โรงเรียนบังคับ แต่พอโตขึ้นมาแล้วเรียนรู้ว่า สมาธิมันไม่ได้อยู่ที่ท่านั่ง แต่มันอยู่ที่สติในการจดจ่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทุกครั้งที่ว่าง ผมจะหลับตาแล้วกำหนดจิตที่ลมหายใจ เหลือเชื่อ มันเหมือนตัวผมเป็นจานสกปรกๆที่ถูๆล้างๆด้วยน้ำยาล้างจาน ยิ่งสงบมากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกอิ่มเอิบมากยิ่งขึ้นเท่านั้น มีสารคดีที่เคยทำเรื่องสมาธิอยู่บน NetFlix ด้วย คุณสามารถเข้าไปรับชมได้เลย เรื่อง Feel Rich
อันดับห้า จำกัดการเล่น Social Media และอินเตอร์เน็ต
โลกอินเตอร์เน็ตคือโลกแห่งการเปรียบเทียบ คุณสามารถเปรียบเทียบเรื่องใดเรื่องหนึ่งกับคนอื่นได้เสมอ หน้าตาดีกว่า แฟนดูดีกว่า รวยกว่า บ้านใหญ่กว่า รถใหม่กว่า ไปเที่ยวต่างประเทศ ทำงานดีกว่า เงินเดือนสูงกว่า บลาๆๆๆ โลกของการเปรียบเทียบอาจจะดูสนุกสำหรับคนที่ชอบแข่งขัน แต่มันเป็นทุกข์สำหรับคนที่ต้องการหาความสงบใจให้กับตัวเอง ผมอยากท้าพิสูจน์ให้คุณเลิกเล่น Facebook ซัก 1 วัน รับประกันว่าคุณจะมีความสุขยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
3
อันดับหก มาจาก Money Coach เรียนรู้เรื่องการวางแผนการเงินซะ
คนเราไม่ควรใช้เวลาทั้งชีวิตหาเงิน แต่ควรใช้เวลาช่วงหนึ่งของชีวิตหาเงินให้เพียงพอเลี้ยงชีพตัวเองทั้งชีวิต เพราะเราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานหาเงินเพียงอย่างเดียว ยิ่งเราแก่ตัวลง การมีเวลาว่างไปค้นหาตัวเอง ค้นหากิจกรรมที่ทำให้เรามีความสุขจะยิ่งทวีคูณความสำคัญ ถ้าชีวิตของคุณมีอิสรภาพทางด้านการเงิน คุณจะไม่ต้องบังคับตัวเองให้ทำงานที่ไม่ชอบตลอดเวลาเพื่อหาเงิน
ลองคิดดูสิ ถ้าคุณอายุ 50 แล้วคุณเกลียดงานตัวเองมาก มันคงน่าเศร้าที่คุณจะต้องสะกดจิตตัวเองหน้ากระจกให้พยายามมีความสุขกับสิ่งที่ทำให้คุณไม่มีความสุข ตอนนี้ผมอายุ 33 – 34 ปี ผมไม่รู้ว่าวันตายของผมจะมาถึงเมื่อไหร่ ผมเลยศึกษาเรื่องวางแผนการเงินตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว และผมก็รู้สึกขอบพระคุณ Money Coach มากๆที่สอนเรื่องการเงินให้คนอื่นเรียนรู้แบบฟรีๆ
หลังจากนี้ ผมก็นึกไม่ออกแล้วครับ ว่าผมเรียนรู้เรื่องอะไรมาบ้าง ที่เขียนทั้งหมดนี้มาจากความทรงจำทั้งหมด และหวังว่า คุณ จะมีความสุขการจากลงมือทำนะครับ ผมไม่เชื่อว่าวิธีคิดจะเอาชนะความทุกข์ได้เสมอไป วิธีทำนั่นเเหละที่จะจูงใจวิธีคิดครับ
โฆษณา