29 ก.พ. 2020 เวลา 14:39
## จีนรับมือกับ Covid-19 ยังไง…? สถานการณ์ตอนนี้เลยดีขึ้นมาก ##
สวัสดีฮะ...ชาว Blockdit เผลอแปบเดียวผมไม่ได้เขียนบทความใน Blockditถึง 6 เดือนแล้ววว ไวมากกก ><
เหตุก็เพราะว่า...ไปเรียนต่อที่ "จีน" นี่หล่ะฮะ ตอนนี้กลับมาได้เดือนกว่าๆแล้ว รอมหาลัยประกาศเปิดเทอมแบบไม่มีกำหนด
วันนี้เลยถือโอกาส...ขอมาเล่าสถานการณ์ที่จีนและมาตรการการรับมือกับ Covid-19 กัน
ตอนนี้ต้องบอกว่า...สถานการณ์ต่างประเทศ(นอกจีน)ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะเริ่มพบผู้ติดเชื้อ Covid หลายประเทศทั่วโลกทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา รวมๆแล้วคือ 56 ประเทศเลยทีเดียว
และบางประเทศก็เข้าสู่ระยะการแพร่เชื้อเฟสที่ 3 แปลว่า สามารถติดจากคนกันเองในประเทศได้และแพร่เป็นวงกว้าง (โดยที่คนนั้นไม่ได้เดินทางไปประเทศที่สุ่มเสี่ยง) ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงเอาๆแบบไม่หยุด กราฟเติบโตแบบ Exponencial
ประเทศที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ คือ
-เกาหลี ติด 3105 คน
-อิตาลี 888 คน
-อิหร่าน 593 คน
-ญี่ปุ่น 240 คน
แต่ในขณะที่จีน…ประเทศที่เป็นต้นตอและมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก กลับมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นมาก ยอดผู้ติดเชื้อรายวันถือว่าน้อยมาก ยอดรักษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค. จากผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 79,394 คน ตอนนี้ลดเหลือติดเชื้อ 37,357 คน
พูดง่ายๆว่า ลดลงไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว คือ 53%
(ข้อมูลวันที่ 29-02-2020)
.
จีนค่อนข้างเข้มงวดมาก และน่าจะมีบางอย่างที่มาปร้บมาใช้กับเราได้
มาดูว่าจีนรับมือยังไงบ้าง…?
(ผมจะพูดถึงเมือง Hangzhou เป็นหลักเพราะเรียนที่นั้น และยังได้ข่าวจากทางมหาลัยผ่าน Wechat Group อยู่)
1
เนื่องจากสถานการณ์ปลายเดือน ม.ค. ดูท่าจะเอาไม่อยู่แล้ว เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อไว้รัส จีนเลยออกมาตรการให้คนออกมาซื้อของกินของใช้ได้ 2 วัน 1 ครั้งเท่านั้น และครอบครัวนึงออกได้แค่ 1 คน
ส่วนคนเด็กที่อยู่หอคนเดียว ให้ออกได้ 3 วัน 1 ครั้ง
ทุกคนจะต้องมีบัตร ให้เจ้าหน้าที่ตรวจว่าออกไปวันไหน กี่โมงกลับกี่โมง ไม่มีการมั่ว
2
ทุกคนออกจากบ้านต้องใส่หน้ากากตลอด มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจ ใครไม่ใส่จะโดนประกาศให้ใส่ จนกว่าจะใส่
สำหรับนร.ต่างชาติที่ยังพักที่หอมหาลัย Hangzhou normal university มีการแจกหน้ากากใต้หอให้อาทิตตย์ละ 1 อัน ต่อ 1 คน
3
ใช้เทคโนโลยีในการช่วยกรองประเภทคน ทุกคนที่นู่นจะมีแอป Alipay อยู่แล้ว ต้องเข้าไปลงทะเบียน เรียกว่า Health code
จากนั้นโทรศัพท์จะ Track เราเลย ว่าไปไหนมาบ้าง ถ้าอยู่แต่ในพื้นที่ปลอดภัย Code เราจะขึ้นเป็นสีเขียว
แต่ถ้าเกิดเข้าไปพื้นที่สุ่มเสี่ยงมา Code จะเปลี่ยนเป็นที่ส้ม (ต้องกักตัว 7 วัน) หนักหน่อยสีแดง (กักตัว 14 วัน) ต้องรอจนกว่าจะเป็นสีเขียวถึงออกไปไหนได้
ส่วนใครบังเอิญไปขึ้นรถไฟสายที่เพิ่งตรวจเจอว่ามีผู้ติดเชื้อในสายนั้น เค้าจะมาตามตัวเลย เพื่อเฝ้าระวังอาการ
4
สำหรับคนไปทำงาน ก่อนเข้างานต้องตรวจ Health code กับอุณหภูมิก่อน (ถ้าเป็นสีเขียว + อุณหภูมิปกติ ถึงอนุญาติให้เข้าตึกได้)
5
การขึ้นลิฟ ปุ่มกดจะมีแรฟพลาสติกติดไว้ ซึ่งจะมีแม่บ้านมาเปลี่ยนทุกชม. จำกัดคนเข้าลิฟไม่ให้แอแอัด
6
การต่อแถวซื้ออาหาร จะมีสติ้กเกอร์ติดที่พื้นเพื่อให้ยืนเว้นระยะห่างกัน
(ไม่ให้ยืนเข้าแถวชิดๆกันเหมือนปกติ )
7
การกินข้าวที่โรงอาหาร ให้นั่งได้โต๊ะละคน ไม่มีการจับคุยกันระหว่างกิน
8
Taxi จะมีพลาสติกกั้นระหว่าง คนขับและคนโดยสาร
9
สำหรับคนที่อยู่นอกประเทศ เช่นนักศึกษาต่างชาติอย่างผมที่ต้องกลับไปตอนเปิดเทอม เค้ายังไม่เว้นและมีมาตรการที่เข้มงวด คือ
-ผมต้องเข้าไปลงทะเบียน Health code และโดน Track เช่นกัน
(ตอนนี้เป็นสีเขียว คือปลอดถัย)
อันนี้ของผมเองฮะ ยังสีเขียวปลอดภัย :)
10
ผมต้องส่ง Report ให้มหาลัยทุกวัน (ขนาดไม่ได้อยู่จีนนะเนี่ย) เค้าจะมี QRcode ให้แสกนแล้วติ้กตอบคำถาม เช่น
-วันนี้มีอาการป่วยไรมั้ย ไอ จาม หวัด ไข้ หรือสบายดี
-ได้ไปหาหมอ รพ.มั้ยช่วงนี้
-ได้ติดต่อสัมผัสกับคน บริเวณที่ต้องสงสัยมั้ย
อันนี้มหาลัยเพิ่งให้เริ่มวันที่ 26-02-2020
ย้ำว่าต้องทำ Report ส่งทุกวัน เค้าขู่ว่า…ถ้าไม่ทำจะมีปัญหาตอนที่เดินทางกลับมา และระบบจะขึ้นบันทึกไว้เลยว่าเราทำกี่วัน ไม่ทำกี่วัน
ตอนนี้คือทำมา 4 วันแล้ววว
จะเห็นได้ว่า…จีนพยายามกักกิจกรรมต่างๆไม่ให้คนมาอยู่รวม แออัดกัน แม้กระทั่งต่อแถวยังให้เว้นระยะ เพื่อลดโอกาสติดเชื้อให้ได้มากที่สุด
จีนพยายามคัดแยก และหาผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อให้ได้เร็วที่สุด โดยการใช้เทคโนโลยีช่วย Track เพื่อที่จะได้แยกคนเหล่านั้นออกมาเฝ้าระวัง และไม่ให้ไปติดใครต่อเพิ่ม
จีนเอาจริงและเข้มงวดมาก ทั้งคนในประเทศ มีเจ้าหน้าที่คอยคุมและตรวจตาตลอด และยังเฝ้าระวังไปถึงคนที่อยู่นอกประเทศที่มีโอกาสกลับมาในอนาคตด้วย
มาถึงวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อที่จีนลดลงมาถึงครึ่งนึงแล้ว ยกเว้นมนฑล Hubei ที่มีเมืองอู่ฮั่นที่ยังติดสะสมอยู่เยอะ (34,617 คน) ส่วนใน Hangzhou ล่าสุดเข้าไปเช็ค เหลือผู้ติดเชื้อเพียง 10 คนเท่านั้น
มาตรการต่างๆ…ที่ดูจะเข้มงวดและยุ่งยากสำหรับบางคน
แต่ก็ต้องยอมรับว่า…ทำให้ผลลัพธ์ในจีนดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน
(ขนาดผมไม่ได้อยู่จีนยังรู้สึกยุ่งนิดๆเลย พอรู้ว่าต้องทำ Report ส่งทุกวันด้วยเหรอ ?)
ผมคิดว่า…น่าจะมีมาตรการอะไรบางอย่างในนี้ ที่นำมาปรับใช้กับประเทศที่กำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดของ Covid-19 นี้ได้
แต่อย่างไรก็ตาม…ดีที่สุดคือ ทุกคนช่วยกันรับผิดชอบตัวเอง
ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปที่ชุมชนแออัด เฝ้าระวังตัวเองหลังจากกลับจากพื้นที่เสี่ยง
ถ้าต่างคนต่างรับผิดชอบตัวเองได้ดี ผมว่าโอากาสการแพร่ระบาดก็จะลดน้อยลงไปเยอะเลยล่ะฮะ
อาเหลียง
โฆษณา