7 มี.ค. 2020 เวลา 08:04
ทำไมบริษัท องค์กร สร้างนวัตกรรมไม่ได้ซะที
การขยายตัวของโครงการนวัตกรรมในองค์กร
ทำไมมีมีคนให้ความร่วมมือ
4
ทำไมคนไม่ชอบสร้างนวัตกรรม
สาเหตุคืออะไรนะ
ตามดูชีวิตหัวหน้างานระดับล่าง
สร้างนวัตกรรมในโรงงาน
ผมมีโอกาสได้ไปบรรยายเรื่อง การสร้างแรงจูงในในการสร้างนวัตกรรมที่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง
ผมไม่ได้บรรยายเรื่องสร้างแรงจูงใจ....
ผมไปเปลี่ยนหัวข้อแล้วพูดเรื่อง...วิธีทำลายการสร้างนวัตกรรมในองค์กรของคุณ
เปลี่ยนหัวข้อเค้าซะเฉยเลย........
ถ้าจะเขียนนี้..สงสัยได้ pocket book เล่มโตๆ เล่มหนึ่งเลย..
เอาฮาๆ ก่อน
พี่ เล็ก....เป็นหัวหน้างานระดับหน่วยงานเล็กๆ ชอบปรับปรุงงานมาก
ไม่รู้เป็นไร...แกชอบ...ปรับปรุงโน้นนี้...แกทำไปหมดเหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
เสียแต่พี่เล็กแกจบแค่ ป.6 แต่นิสัยชอบทดลองลองผิดลองถูก ซน ว่างั้น
แกมีหน้าที่คุมงาน ฉีด พลาสติก
ภาพจาก Google ใช้เพื่อประกอบบทความ ขอบคุณเจ้าของภาพครับ
มีชิ้นงาน อยู่ 1 ชิ้น มันแปลกมาก
ภาพจาก Google ใช้เพื่อประกอบบทความ ขอบคุณเจ้าของภาพครับ
A. พอฉีดชิ้นงานเสร็จ...ก็ต้องมีคนมาปาดแต่งชิ้นงาน 2 คน
 ที่เป็นขี้แลบมาจากแม่พิมพ์
เนื่องจากการตั้งค่าไม่ดี
B. เสร็จแล้วต้องขนไปเก็บในโกดังผลิต 2 คน
C.พอครบ 3 วัน ชิ้นงานพลาสติกหดตัวแล้ว 2
คนขนออกมาจากคลังมาไว้ที่ผลิต
D.ทำการเจาะรูตามตำแหน่งที่ลูกค้าต้องการ 3 คน
ขนลงกอง 1 เจาะ 1 ขนขึ้นกอง 1
สรุป ใช้คน รวม 9 คน สำหรับสินค้า 1 ชิ้น
พี่เล็ก...มาเป็นหัวหน้าใหม่ๆ ถามช่างปรับเครื่อง
ทำไมไม่ปรับให้ดีจะได้ไม่มีขี้พลาสติกแลบออกมาจากชิ้นงาน
พี่เล็กถาม
ช่างประจำเครื่อง พิมพ์พลาสติกเก่าแล้ว ค่าเค้าก็ตั้งมาอย่างนี้
แต่แรกไม่กล้าแก้ครับ......(เอาทำงานง่ายเข้าว่าอ้างว่าทำมาก่อนแล้ว)
พี่เล็กถามต่อ.....แล้วทำไมต้องขนไปเก็บ 3 วัน
แล้วค่อยเอามาเจาะรู ไม่เอาคนหน้าเครื่องเจาะเลย
คนงานหน้าเครื่องกับช่างมองหน้ากัน.....
เราไม่รู้ชิ้นงานหดเท่าใหร่ครับแต่ละ ล็อตผลิตชิ้นงานหดไม่เท่ากัน
ถ้าเจาะเลยรูจะเคลื่อน คอยให้หดเต็มที่ค่อยมาเจาะดีกว่า
คุณภาพดีกว่าลูกค้าชอบครับ ( อ้างลูกค้าอีก )
แล้วต้นทุน ค่าของ 300 บาท/ ชิ้น ค่าแรงคน 9 คน 200 บาท/ชิ้น
รวมต้นทุน 500 บาท บริษัท ขาย 550 บาท
พี่เล็กเริ่มต้นโดยการไปปรับเครื่องฉีดพลาสติกเอง
จนชิ้นงานออกมาดูดีขี้ไม่แลบ flash
(สังเกตุชิ้นงานที่มีเนื้อพลาสติกแบนบางๆ
เกินออกมาจากชิ้นงาน
นี้เกิดจากการตั้งเครื่องไม่มี )
ภาพจาก Google ใช้เพื่อประกอบบทความ ขอบคุณเจ้าของภาพครับ
ภาพจาก Google ใช้เพื่อประกอบบทความ ขอบคุณเจ้าของภาพครับ
อันนี้แบบตั้งเครื่องดีครับไม่มีขี้แลบออกมา
ไม่ต้องมีคนมาปาดแต่งชิ้นงาน
พี่เล็กแกปรับไปปรับมา เครื่องก็เดินปกติ
แถมผลิตได้มากกว่าเก่าชิ้นงานก็ไม่ต้องปาดแต่ง
จาก 2 คน เลยเหลือ 1 คน มีหน้าที่แค่นำชิ้นงานลงกล่องบรรจุ
พี่เล็กไปถามคนหน้าเครื่อง
เจาะเลยได้ไม่...หน้างาน.....คนงานกับช่างมองหน้ากัน...
เดี่ยวชิ้นงานมันหดตัวครับ
พี่เล็ก....แกไม่รอช้าเริ่มนั่งวัดชิ้นงานว่าหดตัวเท่าใหร่ช่วงแรกๆ
ก็ไม่นิ่งหด 3 มิล บ้าง 2 มิล บ้าง ไม่หดเลยก็มา
แกก็ค่อยๆ ปรับเครื่องไป จนการทดตัว
 นิ่งๆ อยู่ที่ 2 มิลลิเมตร
แกก็ทำ จิ๊ก สวมชิ้นงานเป็นรูๆ
ให้พนักงานหน้าเครื่องเจาะเลย
จาก 2 คนเหลือ 1 คน แล้ว 1 คนที่เหลือ
ก็มานั่งเจาะชิ้นงานแทนคน 3 คน
เช้าวันหนึ่ง พี่เล็กแกก็มาตรวจนับปริมาณการผลิต
กะ กลางคืน ทำไมมันได้น้อยกว่ากลางวัน
พี่เล็กถามหัวหน้า กะ ซึ่งเป็นช่างหน้าเครื่องด้วย ...
คนงานเจาะรูชิ้นงานไม่ทันผลเลยลดกำลังการผลิต
เครื่องให้พอดีกับความสามารถคนครับ
เครื่องฉีดเครื่อง 10 ล้าน แม่พิมพ์ตัวละ 5 ล้าน ดอกเบี้ย 7%
บริษัทจ่ายดอกวันละ 2900 บาทเฉพาะเครื่องนี้
ช่างหน้าเครื่องลดการผลิตได้ด้วยตัวเอง
พี่เล็กแกรู้ว่าคนงานกับช่างไม่พอใจการปรับปรุงงานของแก
แกเลยไปนั่งสร้างเครื่องเจาะรูสว่าน พร้อมกัน 4 หัว
ให้คนงานเอาชิ้นงานเข้าเครื่องกดปุ่มแล้วหยิบชิ้นงานออกเลย
สรุป จากกระบวนการผลิต 9 คนเหลือ 1 คน
ต้นทุนจาก
ชิ้นงาน 300 บาท/ชิ้น
ค่าแรง 200 บาท/ชิ้น
รวม 500 บาท
บริษัทขาย 550 บาท
กลายเป็น
ชิ้นงาน 300 บาท/ชิ้น
ค่าแรง 25 บาท/ชิ้น
รวม 325 บาท
 บรษัทขาย 550 บาท
วันหนึ่งผลิต 650 ชิ้น/วัน
บริษัท กำไรเพิ่มขึ้น
= (500-325) x 650 ชิ้น x 365 วัน
= 41,518,750 บาท/ปี
สิ่งที่พี่เล็กได้รับ........
1.ลูกน้องไม่พอใจ..เพราะ 9 คน เคยอยู่สบายๆ
ต้องทำงานอื่นๆ เพิ่มเติม
คนที่ไม่ชอบใจที่สุดคือ คนหน้าเครื่องเพราะ
แทนที่จะอยู่ 2 คนสบายๆ ต้องมาเจาะชิ้นงาน
ต้องมาเอาของบรรจุลงกล่อง
ทำงานไม่หยุด
2.ช่างประจำแผนกเพราะต้องปรับงาน
ละเอียดขึ้นแล้วต้องลามไปเครื่องอื่นๆ
ที่เหลือเพราะหัวหน้าปรับได้แล้วลูกน้องจะปรับไม่ได้
ได้ยังไงเลยต้องนั่งมองชิ้นงานหน้าเครื่องตลอด
ไปหลบไปอู้ที่ใหนก็ไม่ได้
3.พนักงานระดับหัวหน้างานซึ่งเป็นระดับเดียวกัน
 อิจฉา (ผู้ชายก็อิจฉากันเป็นนะครับ)
เพราะตัวเองอยู่ก็ไม่เคยปรับปรุงพัฒนาอะไร
 พอ พี่เล็กมา ทำโน้นทำนี้เวลาในเวทีนวัตกรรมพี่เล็ก
ก็มีผลงานมานำเสนอในขณะที่หัวหน้าท่านอื่นก็มี
แต่งานปรับปรุงแบบขอไปที
1
ผ่านไป 9 เดือน บริษัทสามารถเพิ่มผลกำไรได้ 31 ล้านบาท
วันหนึ่ง งานเข้าพี่เล็ก จังๆ
มีช่างหน้าเครื่องปรับเครื่องไม่ได้ไปปรับค่าเครื่องฉีด
เพิ่มน้ำหนักชิ้นงานพลาสติก
ทำให้อัตราการหดตัวจาก 2% เหลือค่า 1.5%
คนงานหน้าเครื่องก็ไม่รู้ก็ทำการเจาะรูตาม
ตำแหน่งจิ๊กในเครื่องสว่านที่ที่เล็กทำให้
เมื่อผ่านไป 1 เดือนลูกค้ารับสินค้าพบว่า
ตำแหน่งรูเจาะคลาดเคลื่อนไป 0.5 มิลลิเมตร
เลยทำข้อร้องเรียนมาที่ QC บริษัท..
ผู้จัดการ ผลิต QC ผู้บริหารประชุมหาสาเหตุ
สรุปว่า เป็นความผิดของ พี่เล็กที่
ทำการปรับปรุงกระบวนการผลิตแบบไม่รอบครอบ
(รีบปิดประเด็นความผิดที่ลูกน้องตัวเองไม่ตรวจงาน
รีบสรุปปิดให้ผลิตผิดแทน)
ผู้จัดการผลิต ผมไม่รู้เรื่องเลยครับ ผมย่ำแล้ว ย่ำอีก
ว่าอย่าผิดพลาดนะ ก็ยืนยัน ( อันนี้ก็เข้าท่าดีโยนให้ลูกน้องดีกว่า
 QC ชงมาแล้วนี้ ดีกว่าตัวเองรับเต็ม ๆจะได้สรุปปิด)
ผู้จัดการ QC คนมันไม่มีความรู้คุณปล่อย
เค้าทำเองอย่างนี้ มันเสียหายรู้ไม่
ผู้จัดการบัญชี บริษัทเสียหายเท่าใหร่รู้มัย (อันนี้หลุดโลกไปเลย)
ผู้จัดการฝ่ายขาย ผมต้องไปให้ลูกค้าด่าว่าตั้งนาน
ฝ่ายผลิต QC จะรับผิดชอบยังไง
สรุป.......ทุกเหตุการณ์มันต้องมีคนผิดครับ...เรื่องจริงในสังคมไทย
บุคคล.....อย่างนี้ต้องออกใบเตือนคะ....
จะได้เป็นเยี่ยงอย่างให้คนอื่นระวังมากกว่านี้
ใช้ๆ ความรู้ไม่ถึง มือไม่ถึงก็อย่ามาทำ
ทุกคนสบายใจ....เพราะมีคนรับผิดแล้วในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ไม่มีคนพูดถึงผลกำไรที่เพิ่มขึ้นของบริษัทจากการปรับปรุง
พัฒนาของพี่เล็กเลยแม้แต่คนเดียว ( เพราะอะไรเพราะทุกคนเป็นลูกจ้าง
หมดจะพูดยังไงว่ารักบริษัทก็ไม่รักเท่าเจ้าของเงินครับ)
หัวหน้างานโดยตรงพร้อมกับฝ่ายบุคคล ผู้จัดการโรงงาน
เรียกพี่เล็กมาที่ห้องพร้อมพูดสาธยายความผิดตามกฎบริษัท
พร้อม แจกใบเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรให้เซ็นรับทราบ
ทางผู้จัดการฝ่ายผลิต กำชับ บอกว่าวันหลังอย่าทำผิดอีก
อย่าทำอย่างนี้อีก....
หัวหน้าโดยตรงหน้าบึ้งตึง...
สิ้นปี...
ปรับเงินเดือน....เนื่องจากพี่เล็กโดนใบเตือนไป....
การพิจารณาปรังเงินเดือนเลยน้อยกว่าคนทั่วไปคนอื่น 1800 บาท
พี่เล็กขึ้น 300 บาท เพราะทำผิด
สรุป.....
ลูกน้องเกลียดเพราะทำงานหนัก
หัวหน้ารุ่นเดียวกัน หมั่นไส้
เจ้านายไม่ชอบเพราะสร้างปัญหา
พี่เล็กนั่งกินข้าวที่โรงอาหาร....หัวหน้าโต๊ะข้างๆ
พูดแว้ว...ลอยตามลมมา
เป็นไงหละประหยัดให้บริษัทเป็นล้าน...
เงินเดือนขึ้นเท่าใหร่วะ..ฮ่าๆๆๆ
เสียงลูกคู่หัวเราะตามมาเป็นพรวน
( ถ้าเป็นหนังไทยก็แตะปากกันไปแล้ว)
เพื่อนๆ รู้ยังครับทำไมบริษัทถึงสร้างนวัตกรรมยาก...
ปัจจุปันพี่เล็กเลิกปรับปรุงงานยังครับ....
หลายคนบอกว่าเลิกแล้ว......
ยังปรับปรุงอยู่ครับแล้วทำมากกว่าเดิมด้วย
เพราะแกภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งที่ดีขึ้นคนอื่นไม่รู้ พี่แกรู้ครับ
พี่แกชอบนั่งกินเบียร์กับผมตอนเย็นๆ...ชอบเล่นกีฬา
แล้วมีความสุขในการปรับปรุงโน้นนี้นั่นเสมอ
ผมเคยรวบรวมผลงานที่พี่เล็กทำตลอดๆหลายๆปี
ตัวเลขคราวๆที่ แกปรับปรุงให้บริษัทน่า
เกือบๆ 100 ล้านบาทในรอบหลายสิบปีที่พี่เล็กอยู่
บางโครงการ ประหยัด หลักหมืน บ้าง พันบ้าง
แต่พี่แกไม่เคยหยุด
แล้วพี่ก็เกษียณด้วยตำแหน่งเดิม...
ไม่มีความก้าวหน้าอันไดในบริษัท
ฮา....อารมย์อยากระบายครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ
อ้อ....เรื่องแต่งไม่ใช้เหตุการณ์จริงครับ...ฮึ่ม..ฮึ่ม
++หัวกลวง++
โฆษณา