17 มี.ค. 2020 เวลา 09:24 • ข่าว
#คดีผีสวมสิทธิ์ที่เกาหลีใต้
#แง่คิดจากระบบจัดการหน้ากากของชาวโสมขาว
Cr. AFP/Getty Images
ช่วงนี้ที่เกาหลีใต้ ที่กำลังวุ่นๆกับการจัดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ก็เกิดคดีแปลกๆ ที่ชาวบ้านถึงกับต้องขึ้นโรงพักกันเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ เหตุเพราะโดนสวมสิทธิ์บัตรประชาชน
ต้นเรื่องเกิดจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ออกมาตรการเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายหน้ากากอนามัย โดยระบุให้ชาวเกาหลีใต้ 1 คน สามารถซื้อหน้ากากได้ 2 ชิ้น ในแต่ละสัปดาห์ และจำเป็นต้องแสดงหลักฐานบัตรประชาชน ก่อนซื้อด้วย เพื่อกันการเวียนซื้อซ้ำ
แต่ก็ปรากฏพบเหตุแอบสวมสิทธิ์กัน บ้านอยู่ทางเหนือ แต่ไปกลับมีคนใช้สิทธิ์ซื้อหน้ากากแล้วในเมืองใต้ คนละเขต คนละพื้นที่กัน วุ่นวายทีเดียว
จากคดีนี้ก็พอจะเห็นภาพว่าที่เกาหลีใต้ ขาดแคลนหน้ากากอนามัยกันขนาดไหน รัฐบาลจึงต้องดึงหน้ากากในท้องตลาดมาบริหารจัดการเอง เพื่อให้แน่ใจว่าชาวเกาหลีใต้ทุกคนสามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้แน่นอน อย่างน้อยก็อาทิตย์ละ 2 ชิ้น
แต่ยังไม่วาย ยังมีผีมาสวมสิทธิ์เสียนี่ 😑
Cr. Korean Times
วันนี้เราลองมาส่องกันดูหน่อยดีกว่า ว่าเกาหลีใต้ เขามีมาตรการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยในท้องตลาดอย่างไร เผื่อบ้านเราจะได้ลองเอาไปใช้บ้าง 😀
โดยทั่วไปแล้ว ในเกาหลีใต้มีโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยอยู่ประมาณ 140 แห่งทั่วประเทศ ที่สามารถผลิตหน้ากากเข้าสู่ท้องตลาดได้ราว 10 ล้านชิ้นต่อวัน ในจำนวนเหล่านี้ มีทั้งใช้ในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศ ในยามปกติถือว่าเพียงพอต่อความต้องการแล้ว
จนกระทั่งเกาหลีใต้จะเจอเหตุมนุษย์ป้า ที่แพร่เชื้อ Covid-19 ลุกลามใหญ่โตไปทั่วเมืองแทกู ช่วงปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลเกาหลีใต้จึงออกคำสั่งด่วน จำกัดการส่งออกหน้ากากอนามัยออกนอกประเทศ ให้น้อยกว่า 10% เพื่อให้แน่ใจว่า ประมาณหน้ากากกว่า 90% ยังคงอยู่ในประเทศ
แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอกับประชาชนกว่า 50 ล้านคน ที่หลายคนก็แตกตื่น ออกไปกว้านซื้อกักตุนหน้ากากไว้ใช้ ทำให้สินค้าขาดตลาด บางคนต้องออกไปรอที่หน้าร้านขายยาตอน 6 โมงเช้าทุกวันเพื่อรอซื้อ
และตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคมเป็นต้นมา ทางรัฐบาลเกาหลีใต้จึงออกมาตรการเด็ดขาด ระงับการส่งออกหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศทั้งหมด หน้ากากที่่ผลิตได้ทุกชิ้น ขายภายในประเทศเท่านั้น และอัดฉีดงบ เพิ่มการผลิตให้ได้ 14 ล้านชิ้นต่อวัน
Cr. Arirang News
หลังจากนั้นก็ออกมาตรการในการจัดจำหน่ายหน้ากากอนามัย มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ประชาชนได้สิทธิ์ซื้อหน้ากากเพียง 2 ชิ้น ใน 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยผู้ซื้อต้องแสดงบัตรประชาชน หรือ บัตรนักเรียน ส่วนชาวต่างชาติต้องยื่นพาสปอร์ต พร้อมบัตรประกันสุขภาพ
Cr. Arirang News
2.ลำดับการซื้อหน้ากากใช้ระบบ 5 วัน จันทร์-ศุกร์ โดยดูจากเลขท้ายปีเกิดตามคริสตศักราช
เลข 1 และ 6 วันจันทร์
เลข 2 และ 7 วันอังคาร
เลข 3 และ 8 วันพุธ
เลข 4 และ 9 วันพฤหัส
เลข 5 และ 0 วันศุกร์
Cr. Arirang News
ยกตัวอย่างเช่น กง ยู เกิดปี 1979 ลงท้ายด้วยเลข 9 ต้องมาซื้อวันพฤหัส ส่วน ซง เฮ-เคียว เกิดปี 1981 ลงท้ายด้วย 1 ก็ต้องมาเข้าคิวซื้อวันจันทร์
หากใครมาตามวันที่กำหนดไม่ได้เพราะติดธุระ ให้มาซื้อเอาวันเสาร์-อาทิตย์ แทน
โควต้า อาทิตย์ละ 2 ชิ้น ไม่มีการทบ หากโอ้ปป้าฮยอน บิน มาไม่ทันทั้งอาทิตย์เพราะติดภารกิจที่เกาหลีเหนือ ก็ถือว่าสละสิทธิ์ จะมาทบต้น ทบดอกขอซื้อเป็น 4 ชิ้นในสัปดาห์ถัดไปไม่ได้
และที่สำคัญคือ ซื้อแทนกันไม่ได้ แม้แต่คนในครอบครัว ต้องแสดงตัวพร้อมบัตรประชาชนเท่านั้น จึงจะซื้อได้
โดยทางรัฐบาลจะดึงหน้ากาก 20% ไว้ เผื่อให้กับทางบุคลากรการแพทย์ และอีก 80% จัดโควต้าสินค้า กระจายตามร้านขายยา และห้างร้าน ทั้งเล็ก ใหญ่ ให้ที่ละ 10,000 ชิ้นเท่ากัน และเพื่อความสะดวก รัฐบาลได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านไปรษณีย์ด้วย
ราคาหน้ากากชิ้นละ 1500 วอน หรือ ประมาณ 40 บาท
Cr. ABC News
แต่ขนาดกำหนดเงื่อนไขขนาดนี้ ก็ไม่วาย มีปัญหาสวมสิทธิ์กัน ที่บางคนอาจจะเคยทำบัตรประจำตัวหาย หรือ ขโมยใช้กันดื้อๆเลย ก็ต้องตามไปสืบสวนกัน
สิ่งที่น่าสนใจของข่าวนี้คือ ชาวเกาหลีใต้ไม่ได้มีปัญหากับกติกาการจัดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบนี้ มีแค่เรื่องผีสวมสิทธิ์
และมีหลายแง่มุม ที่เราน่าจะลองพิจารณามาใช้แก้ปัญหาหน้ากากอนามัยของประเทศเราบ้าง
- ความเท่าเทียม
รัฐบาลเกาหลีใต้ จัดระเบียบให้ประชาชนมีสิทธิ์ซื้อหน้ากากได้ทุกคนในจำนวนเท่ากัน ความเท่าเทียมนี้ ไม่มีข้อยกเว้นแม้เด็ก หรือผู้ใหญ่ หรือใครมาก่อน มาหลัง ทุกคนได้เท่ากัน แม้แต่ร้านค้าที่จัดจำหน่ายก็ไม่มีสิทธิ์กักตุน ได้ทุกร้านเท่ากัน คือ 10,000 ชิ้นต่อวัน
- วินัยสังคม
เมื่อกติกาสังคมออกมาแบบนี้ เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิ์ได้ของ แต่ต้องทำตามระเบียบกันอย่างเคร่งครัด เว้นแต่ชาวผีสวมสิทธิ์ ซึ่งเขาก็ไปซื้อในวันที่กำหนดเหมือนกัน
- การกระจายเทคโนโลยีฐานข้อมูล
ร้านค้าไม่ว่าเล็ก ใหญ่ เข้าถึงฐานข้อมูลใหญ่ที่สามารถตรวจสอบการใช้สิทธิ์ได้แม่นยำ ผ่านเครือข่ายที่เข้าถึงผู้คนได้ทุกระดับ และใช้งานได้จริง
1
- การสื่อสารของภาครัฐ
แจ้งข้อมูลให้ประชาชนรับทราบได้กระจ่าง ชัดเจนในหลักการ และทุกหน่วยงานสื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน เป้าหมายเดียวกันหมด เพื่อลดความสับสนในสังคม และสร้างความเชื่อมั่นได้ในการขอความร่วมมือจากประชาชนได้
- การแก้ปัญหา
สามารถทำได้อย่างตรงจุด เป็นขั้นตอน เห็นผลในเชิงปฏิบัติ มีการยกระดับตามสถานการณ์จริง
จากเรื่องราวเล็กๆ ในจุดวิกฤติของเกาหลีใต้ก็ให้แง่คิดกับเราได้หลายอย่าง ที่หากปัญหาบ้านเรามันแก้ยากนัก จนมุม มืด 8 ด้านแล้ว จะก๊อบเขามาใช้ก็ได้นะค้า ไม่ว่าอะไรหรอกค่า 😀
แหล่งข้อมูล
โฆษณา