17 มี.ค. 2020 เวลา 13:25 • ข่าว
ด้วยความสามารถของรัฐบาล ทำให้"ไต้หวัน" ได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยจากโคโรน่าไวรัสมากที่สุดในโลก ทั้งๆที่ภูมิศาสตร์อยู๋ห่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ ต้นตอจุดดำเนิดโรคแค่ไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น
1
ในวิกฤติโคโรน่าไวรัส เป็นโอกาสให้ผู้นำแต่ละชาติ ได้แสดงฝีมือในการแก้ปัญหา
เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่ากับชาติไหน มีลักษณะคล้ายกัน คือปัญหาเรื่องสาธารณสุข และเรื่องเศรษฐกิจ
และหนึ่งในชาติที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด คือ ไต้หวัน สาเหตุเพราะมีผู้นำที่วางแผน และจัดการปัญหาล่วงหน้าได้อย่างยอดเยี่ยมมาก
นับจนถึงวันที่ 17 มีนาคม ในขณะที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อทะลุ 170 ไปแล้ว
แต่ไต้หวันที่อยู่ใกล้จีนแผ่นดินใหญ่อย่างมาก
กลับมีผู้ติดเชื้อแค่ 67 คนเท่านั้น
ประธานาธิบดีของไต้หวันคือ ไช่ อิง-เหวินที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งสมัยที่สอง โดยมีคะแนนเสียงจากประชาชนสูงถึง 57.1%
ไช่ อิง-เหวิน จบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน
จากนั้นจบปริญญาโทที่คอร์เนลล์ มหาวิทยาลัยระดับไอวี่ลีก ที่สหรัฐฯ
ก่อนจะจบปริญญาเอกที่ มหาวิทยาลัยลอนดอน สคูลส์ ออฟ อีโคโนมิกส์ ที่ประเทศอังกฤษ
หลังเรียนจบ ไช่ อิง-เหวิน ทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยวิชากฎหมาย
เธอพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะลงเล่นการเมือง และได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้นำประเทศในที่สุด
สำหรับกรณีโคโรน่าไวรัส ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดรุนแรง
หน่วยข่าวกรองของไต้หวัน ได้รับทราบข่าวมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมว่ามีโรคนี้เกิดขึ้นที่อู่ฮั่น
ดังนั้นไช่ อิง-เหวิน จึงทำการลดจำนวนเที่ยวบินไป-กลับ จากจีนกับไต้หวัน และมีกระบวนการสกรีนผู้โดยสารที่สนามบิน
จากนั้นในวันที่ 20 มกราคม ณ เวลานั้นที่จีน มีผู้ติดเชื้อเพียง 198 คน ประเทศอื่นยังไม่ไหวตัว คิดป้องกันอันตราย
แต่ไช่ อิง-เหวิน ตั้งหน่วยงานป้องกันโรคระบาด ชื่อย่อ CECC เพื่อไว้ดูแลออกกฎหมายพิเศษสำหรับวาระโรคระบาดโดยเฉพาะ
จากนั้นได้มอบหมายให้ เฉิน ไช่-ชุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่เรียนจบปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์เป็นผู้สรุปสถานการณ์ให้ประชาชนฟังทุกวัน
พร้อมอธิบายถึงแนวทางของรัฐบาลด้วยว่า จะมีนโยบายล่วงหน้าอย่างไร เพื่อให้ประชาชนจะได้เตรียมพร้อมรับมือถูก
วันที่ 24 มกราคม จีนมีผู้ติดเชื้อเกิน 1 พันคน ทำให้ไต้หวันเห็นภาพว่าอีกไม่นาน จีนจะต้องการนำเข้าหน้ากากอนามัยแน่นอนดังนั้นจึงระงับการส่งออกหน้ากากอนามัยทุกประเภทเป็นประเทศแรกของโลก
แนวทางของไช่ อิง-เหวิน คือคนไต้หวันต้องมีหน้ากากใช้เพียงพอก่อน แล้วค่อยเผื่อแผ่ให้คนชาติอื่น
1
จากนั้น ไช่ อิง-เหวิน ร่วมกับออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ทำแอพพลิเคชั่นสำหรับการซื้อหน้ากาก แบบ Interactive
กล่าวคือ ไต้หวันนั้นต้องการให้ประชาชน เห็นความโปร่งใสว่าหน้ากากที่ผลิตมาจากโรงงาน กระจายไปขายที่ไหนบ้างรัฐบาลจึงทำแอพให้มีลิสต์ของร้านขายยา และจุดจำหน่ายทั้งหมดในประเทศ
อัพเดทแบบ Real-Time ว่าแต่ละร้าน มีหน้ากากเหลืออยู่เท่าไหร่แล้ว ประชาชนจะได้รู้ว่า ถ้าคิดจะซื้อหน้ากาก จะไปซื้อที่ไหน
1
จากนั้น 18 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวิน ออกกฎหมายให้ โรงพยาบาล และคลีนิค สามารถเข้าถึงข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศของคนไข้ได้ 100% เพื่อป้องกันกรณีพวกที่แอบเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง แล้วอาจเป็น Super Spreader ได้
1
ส่วนภาคธุรกิจ ก็ไม่ได้ละเลย รัฐบาลดึงงบกลางราว 2.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 หมื่น 7 พันล้านบาท เข้ามาพยุงธุรกิจที่กำลังลำบาก
อย่างเช่นบริษัททัวร์ เอเยนซี่ ที่ได้รับผลกระทบหนักมาก เพราะลูกค้าเมื่อไปเที่ยวไม่ได้ก็ต้องคืนเงินให้ลูกค้า แต่โรงแรมหรือตั๋วเครื่องบินที่จ่ายล่วงหน้าไปแล้ว ก็เอาเงินคืนไม่ได้ ดังนั้นทางรัฐบาลไต้หวัน จึงจ่ายเงินชดเชยให้บริษัททัวร์เหล่านี้ตามสมควร
นอกจากนั้นยังเปิดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำพิเศษให้สายการบินที่ได้รับผลกระทบ สามารถกู้เงินเอาไปหมุนเวียนในระบบได้ก่อนด้วย
สำหรับขั้นตอนต่อมา เมื่อรัฐบาลไต้หวัน ป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเข้าประเทศเพิ่มเติมได้แล้ว จึงออกนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
ให้คูปองร้านอาหาร ตลาดนัดกลางคืน และธุรกิจต่างๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศซบเซา รายได้จากต่างชาติอาจลดลง แต่อย่างน้อยธุรกิจในประเทศก็หมุนเวียนได้ ผู้คนกล้าออกมาซื้อของ หรือทานอาหารนอกบ้าน เพราะมั่นใจในความปลอดภัยว่ารัฐจะไม่เอาผู้ติดเชื้อเข้ามาเพิ่มในประเทศแน่นอน
1
ด้วยกฎหมาย และนโยบายต่างๆ ที่ไช่ อิง-เหวิน งัดออกมาแก้สถานการณ์ ทำให้ ณ เวลานี้ ไต้หวันได้รับการยกย่องว่า เป็นประเทศที่ปลอดภัยจากโคโรน่าไวรัสที่สุดในโลก
โดยประชาชนชาวเน็ตของไต้หวัน กล่าวสดุดีว่า พวกเขาตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีได้อย่างถูกคนจริงๆ
อัพเดทล่าสุด ถึงวันที่ 17 มีนาคม ไต้หวันที่มีประชากร 23 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อเพียง 67 คน
1
ในขณะที่ประเทศอื่นๆ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละ หลายร้อย ถึงหลายพัน
แต่ไต้หวัน มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 1 คนเท่านั้น
โฆษณา