22 มี.ค. 2020 เวลา 02:00 • กีฬา
[ #ความเรียบง่ายคืออาวุธ ]
ไม่นานมานี้ เฟร็ด เพิ่งจะออกมาพูดผ่านสื่อขอบคุณ ไมเคิ่ล คาร์ริค ที่สนับสนุนช่วยเหลือเต็มที่จนทำให้ฝ่าอุปสรรคได้สำเร็จ
จากนักเตะถูกวิจารณ์ว่าเป็นการซื้อที่ห่วยแตกสุดของแมนฯยูไนเต็ด มาวันนี้กลายเป็นหัวใจหลักในแดนกลาง
จากบราซิเลี่ยนของปลอมก็อปมาจากจีน ตอนนี้ เฟร็ด เผยอัตลักษณ์ความเป็นแซมบ้าของจริง ด้วยสไตล์การเล่นที่เรียบง่ายในการจ่ายบอล แต่ได้คุณภาพครบเครื่อง
"คาร์ริค คือผู้อยู่เบื้องหลังที่ช่วยเหลือผมในการปรับตัวอย่างหนัก ช่วงแรกๆเลยข้อเสียคือผมชอบครองบอลในแดนกลางมากเกินไป"
"แล้วแทบทุกครั้งที่ช้า อย่างน้อยจะมีผู้เล่น 2 คนของฝ่ายตรงข้ามบีบมาแย่งทันที แน่นอนผมมักจะเสียการครอบครองเสมอ"
"เขาติวเข้มให้ผมต้องมีความไวมากขึ้น มีการตัดสินใจที่รวดเร็วและร่างกายที่แกร่งพร้อมจะรับมือ"
"คาร์ริค ยังสอนผมแบบส่วนตัวตลอดเวลาฝึกซ้อม จนผมเข้าใจหลายอย่างได้ดีขึ้น"
เฟร็ด เฉลยเอาไว้ถึงสาเหตุที่เขาพัฒนาแบบก้าวกระโดด ทำให้หลายคนแปลกใจและอยากรู้ถึงเคล็ดลับอันน่าทึ่งนี้
ยกตัวอย่างที่ชัดเจนเลยคือเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งแมนฯยูไนเต็ดบุกไปเดอะ บริดจ์โม่กับเชลซี โดยต่างฝ่ายกำลังขับเคี่ยวแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์
ผลคือปีศาจเข่นชัย 2-0 ว่ากันตามตรงแล้วเซอร์ไพรส์พอสมควร แม้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะทำคนละประตู แต่เสียงชื่นชมตกอยู่กับ เฟร็ด ไม่น้อย
สถิติของกองกลางแซมบ้าในเกมคือ สัมผัสบอล 83 ครั้ง , ผ่านบอลสำเร็จ 82 เปอร์เซนต์ (46/56) , ผ่านบอลขึ้นหน้า 69 เปอร์เซนต์ (20/29) , แย่งบอลคืน 14 ครั้ง , แย่งโหม่งชนะ 67 เปอร์เซนต์และเข้าสกัด 2 ครั้ง
ตัวเลขนี้อาจไม่โดดเด่นนัก แต่เมื่อเทียบกับซีซั่นแรกที่ย้ายมา แตกต่างกันอย่างมาก รวมทั้งส่งผลต่อความสมดุลในแดนกลางของแมนฯยูไนเต็ดด้วย
มันมาชัดเจนยิ่งขึ้นในเกมยูฟ่า ยูโรปา ลีกรอบ 32 ทีมสุดท้ายเลกสองถล่มคลับ บรูชกระจุย 5-0 โดย เฟร็ด เหมาคนเดียวสองประตู
นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กันยายน 2018 ที่เขาทำสกอร์ได้สำเร็จ แถมมาทีเดียวสอง แม้กระทั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดไม่ได้จะต้องเล่นมุก
"ตอนแรกผมไม่แน่ใจว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าเมื่อเขายิงได้อีกครั้ง แต่นี่หนึ่งประตูจากขวาและอีก 1 จากซ้าย สะท้อนถึงความพยายามมุ่งมั่นและผมต้องยินดีกับเขา"
ฤดูกาลนี้ เฟร็ด รับใช้แมนฯยูไนเต็ดทะลุ 3,000 นาที ในขณะที่ซีซั่นก่อนเล่นไปเพียงแค่ 1,700 นาทีเท่านั้น
ค่าเฉลี่ยในการผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมก็พุ่งขึ้นด้วย เกือบ 65 ครั้งใน 90 นาทีหรือต่อหนึ่งเกม เช่นเดียวกับการเปิดไปข้างหน้าพื้นที่ฝ่ายตรงข้ามก็เพิ่มด้วย
ส่วนการเข้าสกัดบอลและทำได้สำเร็จก็เยอะกว่าเดิม ตรงนี้พอจะการันตีได้ว่า เฟร็ด พัฒนาทั้งเกมรับและรุก สองอย่างตีคู่ไปพร้อมกัน
1
ยังมีที่น่าสนใจคือค่าเฉลี่ยในการสปรินท์หรือความเร็วของการวิ่งออกตัวก็ทำได้ดีกว่าใครด้วย เหนือกว่าพวกจรวดทางเรียบทั้ง มาร์กซิยาล หรือ แดน เจมส์ ด้วยซ้ำ
นอกจากความอดทนมุ่งมั่น ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองไป ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของ เฟร็ด การได้รับความช่วยเหลือจาก คาร์ริค ก็มีส่วนไม่น้อยเช่นกัน
นอกจากจะเป็นผู้ช่วยของ โซลชา ในปัจจุบัน คาร์ริค ยังเป็นที่รู้จักสมัยค้าแข้งว่าเป็นกองกลางเชิงดีมีคุณภาพคนหนึ่ง
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตามส่องฟอร์ม คาร์ริค ตั้งแต่สมัยเติบใหญ่มากับเวสต์แฮม ยูไนเต็ดแล้ว
กระทั่งนักเตะโยกมาอยู่สเปอร์ส ดีกรีความประทับใจก็ยังไม่ลดลง จนต้องดึงมาร่วมทีมในที่สุดเมื่อปี 2006
คาร์ริค อาจไม่ใช่ตัวแทนของ รอย คีน ที่จากไปอยู่กับกลาสโกว์ เซลติก เพราะมีบุคลิกและสไตล์ที่แตกต่างออกไปค่อนข้างชัด
แต่การมาของเขาช่วยให้เกิดความสมดุลในแดนกลางของปีศาจแดงมากขึ้น
บางครั้ง คาร์ริค มักจะถูกวิจารณ์ว่าเล่นง่ายสบายเกินไป เหมือนเอาตัวรอด มักจะแปะบอลคืนหลัง ไม่คืบไปข้างหน้าอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตามเหมือนที่เขาติวให้ เฟร็ด นั่นแหล่ะ ในแดนกลางคุณจะมัวยึกยักครองบอลนานเกินไปไม่ได้เด็ดขาด ต้องคิดข้ามช็อตเสมอก่อนบอลมาถึง ออกให้เร็วเข้าไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องโดนแย่ง
เพราะหากเสียบอลตรงกลาง หมายความว่าจะโยนภาระให้แผงหลังเหนื่อยขึ้นอีก รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการเสียประตูด้วย
การเล่นบอลง่าย ไม่เน้นครองนานคือจุดแข็งที่ เฟอร์กี้ มองเห็นในตัว คาร์ริค นี่แหล่ะ
ถ้าโดนรุมเข้ามา อย่าไปดื้อดึงฝืนเด็ดขาด อย่าลืมว่าคุณไม่ใช่ ดีเอโก้ มาราโดน่า หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ที่จะเอาตัวรอดได้ในพื้นที่แคบหรือแบบฉุกเฉิน
แต่ไม่ได้หมายความว่า คาร์ริค จะเน้นส่งคืนหลังเท่านั้น
หลายครั้งที่เราได้เห็นการสวิตช์บอลเปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็วอย่างแม่นยำ ปรับจังหวะจากรับเป็นรุกทันที
คาร์ริค อยู่โยงกับแมนฯยูไนเต็ดถึง 12 ปี คว้าแชมป์หลักๆคือพรีเมียร์ลีก 5 สมัย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับยูฟ่า ยูโรปา ลีกอย่างละหนึ่ง อีกทั้งยังผงาดแข้งยอดเยี่ยมประจำสโมสรในฤดูกาล 2012/13 ด้วย
ในสนามที่เห็นทั้งง่ายและเงียบ
นอกสนามของ คาร์ริค ก็ไม่แตกต่างกันเลย
เขายังเคยได้รับการยกย่องจากวงการดีไซเนอร์ว่ามีรสนิยมในการแต่งตัวที่ดูดี ตรงกับรูปร่างและบุคลิก ในความเรียบจากเสื้อผ้าเอิร์ธโทน มันซ่อนความหรูไว้ในสายตาของคนที่พบเห็น
เวย์น รูนี่ย์ แสดงความชื่นชมต่อ คาร์ริค อย่างไม่มีอะไรต้องปิดบัง นี่คือหนึ่งในเพื่อนสนิทที่เป็นคนดีมากๆ เป็นสุภาพบุรุษเสมอและความนิ่งเงียบของเขา กลับเป็นอาวุธที่ดี โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในห้องแต่งตัว
หาก คาร์ริค เปิดปากพูดอะไร มันเหมือนสะกดสายตาและดึงจิตให้ทุกคนหันมาสนใจ นั่นคืออิทธิพลที่ชัดเจน โดยเฉพาะในวันที่กลายเป็นนักเตะอาวุโสของทีม
ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยแม้ในวันที่ เฟอร์กี้ ล้างมือในอ่างทองคำ คาร์ริค ยังคงได้รับความไว้วางใจจากเจ้านายคนใหม่เสมอ
ทั้งยุคของ เดวิด มอยส์ ต่อเนื่องมายัง หลุยส์ ฟานกัล ที่มอบตำแหน่งรองกัปตันทีมให้ รวมทั้งยังเป็นคีย์แมนตอนที่ได้ โชเซ่ มูรินโญ่ มากุมบังเหียน
หลังจากเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บมาตลอดในช่วงสุดท้ายของการค้าแข้ง คาร์ริค ตัดสินใจเลยว่าจะรีไทร์เมื่อฤดูกาล 2017/18 สิ้นสุดลง แต่ยังไม่ทันเลิกทางการก็มีข้อเสนอให้รับบทสต๊าฟฟ์ทีมชุดใหญ่ยื่นมาให้
1
จริงๆ เฟอร์กี้ เคยแนะนำไว้แล้ว ชีวิตหลังแขวนสตั๊ดของเขาต้องสายโค้ชเท่านั้นเหมาะสมสุด รับรองเลยว่าจะไปได้สวยแน่นอน
คาร์ริค อาจจะเงียบขรึม แต่ผู้เล่นภายในทีมสามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก เพราะมีมนุษยสัมพันธ์ดีมากๆ พร้อมให้คำแนะนำอยู่เสมอ
แล้ว เฟร็ด เองก็มีบุคลิกคล้ายกัน ไม่ค่อยสนทนากับใครนักและพร้อมที่จะทุ่มเทเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าดีพอ
อาจจะใช่ที่ คาร์ริค เหมือนเห็นตัวเอง เพราะผลงานสำหรับนักเตะอาชีพไม่ใช่คำพูด แต่คือเกมในสนาม
สิ่งที่ คาร์ริค ย้ำกับ เฟร็ด เสมอในวันที่เล่นแย่ ฟอร์มไม่เอาไหน โดนสื่อวิจารณ์ขนานใหญ่คือ อย่าไปกังวลกับเสียงคนอื่นมากเกินไป ฟุตบอลคือเกมต้องใช้เวลา ตอนนี้ไม่ดีไม่ได้หมายความว่าจะต้องล้มเหลว
แน่นอน เฟร็ด ต่อสู้ด้วยตัวเองจนลบคำวิจารณ์ราบคาบ แต่ต้องไม่ลืมว่าคำแนะนำจาก คาร์ริค คือหนึ่งในแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
อาจจะเร็วเกินไปหากจะบอกว่า คาร์ริค จะประสบความเร็จบนเส้นทางสายกุนซือหรือ เฟร็ด จะไปได้ตลอดรอดฝั่งในสีเสื้อของแมนฯยูไนเต็ด
แต่ที่เราพอมองเห็นคือความเรียบง่ายมันเป็นอาวุธที่ทรงพลังเลยจริงๆ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา