28 มี.ค. 2020 เวลา 08:42 • ข่าว
#Louisianaระเบิดเวลาของสหรัฐ
Cr.Aljazeera/AFP Files
วันนี้ 28 มีนาคม ยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในสหรัฐทะลุ 1 แสนคนเป็นที่เรียบร้อย โดยยอดผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่สุดอยู่ที่นิวยอร์ค กว่า 44,365 เคส
ที่ยอดผู้ติดเชื้อในนิวยอร์คสูงโดดจากรัฐอื่นๆมาก เพราะรัฐนี้ใช้โมเดลการตรวจเชื้อแบบเกาหลีใต้ คือตรวจให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ทันกับการแพร่กระจายเชื้อ ตัวเลขอาจดูตกใจในช่วงแรกๆ แต่ถ้าไล่ทันการแพร่กระจาย ตัวเลขก็จะเริ่มนิ่ง
แต่มันก็สูงจนน่าตกใจอยู่ดี แล้วรัฐอื่นๆในสหรัฐที่ไม่ได้มีงบประมาณมากเหมือนกับนิวยอร์ค ที่จะสามารถหาชุดตรวจเชื้อได้จำนวนมาก จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อตกสำรวจมากมายมหาศาลขนาดไหน ไม่มีใครรู้ได้
และรัฐที่หลายคนกำลังเป็นห่วง และอาจเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ในสหรัฐ อยู่ที่รัฐหลุยส์เซียน่า รัฐทางตอนใต้
จากตารางอันดับรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐล่าสุด ตัวเลขของหลุยส์เซียน่าอยู่ที่อันดับ 9 2,746 เคส และมีผู้เสียชีวิต 119 ราย
Cr. CNN
ตัวเลขอาจจะดูน้อยมาก หากเทียบกับนิวยอร์ค แต่ทราบหรือไม่ว่าในหลุยส์เซียน่า พบผู้ติดเชื้อเคสแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมานี่เอง จากนั้นยอดก็เพิ่มอย่างก้าวกระโดดจนเกือบจะแตะ 3 พันเคส ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน
และหน่วยงานสาธารณสุขประจำรัฐค่อนข้างเชื่อว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้ที่ไปร่วมงาน Mardi Gras งานเทศกาลใหญ่ที่สุดประจำปี ซึ่งปีนี้ได้จัดไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในเมืองนิว ออร์ลีนส์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ และคาดว่ามีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.4 ล้านคน
บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยงานรื่นเริง มหรสพ มีทั้งขบวนแห่ แฟนซี ปาร์ตี้ ผู้คนออกมาฉลองกันเต็มถนน ทั้งเบียด ทั้งแน่น เฮฮาทั้งวัน และเป็นงานเทศกาลที่คนทั้งเมืองรอคอย
Cr. New Orleans City
สิ่งที่ทางการของรัฐเป็นห่วงอยู่ลึกๆก็คือการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่า แต่เนื่องจากเป็นงานประจำปีไฮไลท์ของรัฐ และในหลุยส์เซียน่ายังไม่พบผู้ติดเชื้อในตอนนั้น จึงอนุมัติให้จัดได้
จนกระทั่งวันนี้ หน่วยงานของรัฐก็ยอมรับว่าเสียใจ เราน่าจะยกเลิกงานในปีนี้ไป เพราะยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากจบงานเทศกาล และอัตราการเพิ่มของเคส อยู่ในระดับเดียวกับอิตาลี และสเปนในช่วงขาขึ้น และมีเปอร์เซ็นต์การขยายตัวของผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับต้นๆของสหรัฐ
สถานการณ์ตอนนี้ที่หลุยส์เซียน่า มีผู้ป่วย Covid-19 ที่อาการเพียบ จนต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลแล้ว กว่า 700 ราย ในจำนวนนั้นมีถึง 300 รายที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
จากความเห็นจากหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐ หากสถานกาณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ไม่เกินวันที่ 2 เมษายน เราจะไม่มีเครื่องช่วยหายใจเพียงพอที่จะช่วยคนไข้แล้ว และอีกไม่นานหลังจากนั้น เราจะไม่มีแม้กระทั่งเตียงสำหรับผู้ป่วยรายใหม่😢
Cr.Aljazeera
สิ่งที่รัฐบาลกลางสหรัฐควรกังวล คือ ค่าเฉลี่ยความยากจนของประชาชนในรัฐหลุยส์เซียน่าสูงที่สุด ในบรรดารัฐที่อยู่ในระดับ Top 10 ที่พบผู้ป่วยติดเชื้อ
กว่า 24%ของชาวหลุยส์เซียน่ามีฐานะยากจน ครอบครัวที่มีรายได้น้อยมักอยู่รวมกันในบ้านเดียวเป็นครอบครัวใหญ่ ในชุมชนแออัด ดังนั้นเรื่อง Social Distancing ยิ่งเป็นไปไม่ได้
1 ใน 5 ของครอบครัวชาวหลุยส์เซียน่า ไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างมากสำหรับบ้านที่ไม่มีรถ ที่จะเดินทางไปตรวจเชื้อตามโรงพยาบาลที่รัฐจัดไว้ ยิ่งรัฐหลุยส์เซียน่าเพิ่งประกาศนโยบาย Lockdown ไปเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ยิ่งทำให้รถสาธารณะมีจำกัดยิ่งขึ้นไปอีก
ประกาศ มาตรการ Lockdown ของ หลุยส์เซียน่า
และสำหรับรัฐที่มีตัวเลขประชาชนที่อยู่ระดับยากจนสูง และงบประมาณของรัฐมีอยู่จำกัด เพราะหลุยส์เซียน่าเป็นรัฐที่เจอกับภัยธรรมชาติร้ายแรงบ่อยๆ เช่น พายุเฮอร์ริเคนคาทริน่า ในปี 2005 หรือ น้ำท่วมใหญ่ตอนปี 2016 จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อที่ยังตกสำรวจอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาล ที่จะมีจำนวนจำกัดลงไปเรื่อยๆ
น้ำท่วมใหญ่หลังเฮอร์ริเคน คาทริน่า Cr. Wikipedia
ดังนั้น รัฐหลุยส์เซียน่า จึงเป็นรัฐที่หลายฝ่ายจับตามองตัวเลขการแพร่ระบาดอย่างใจระทึก ว่าผลจากงานประจำปีอย่าง Mardi Gras จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นการระบาดครั้งใหญ่ในสหรัฐอย่างที่หลายคนกำลังกลัวหรือไม่ ต้องมาจับตากันนะค้า
แหล่งข้อมูล
โฆษณา