11 เม.ย. 2020 เวลา 06:00 • ไลฟ์สไตล์
วันนี้ลุงเงี่ยมทานจุขึ้น🍱🍲🍚🌭🍕🍗🥩🍩🍡 เลยมีพลังไปเจาะตปท. อิอิ 😁😁😁😁
อดีต ปธน.จนที่สุดในโลกไม่ขอรับเงินบำนาญ
นายโฆเซ่ มูฮิก้า กับบ้านโทรมๆ โดยรถโฟล์คคันนี้ได้รับการเสนอราคา 1 ล้านดอลล่าร์ แต่เขาปฏืเสธ ในปี 2014
ขับรถไถทำงานเอง
เขาแต่งกับนางลูเซีย โตโปลันสกี ภริยา
อดีตประธานาธิบดีโฆเซ มูฮิกา ของอุรุกวัย ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "ประธานาธิบดีที่จนที่สุดในโลก" จากการดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายสมถะ ได้ประกาศไม่ขอรับเงินบำนาญจากช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา
นายมูฮิกา ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (14 ส.ค.) โดยเขาดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2015 ภายหลังจากวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอุรุกวัยเป็นเวลา 5 ปีสิ้นสุดลง
นายมูฮิกา วัย 83 ปี ได้ยื่นจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการถึงนางลูเซีย โตโปลันสกี ซึ่งเป็นประธานวุฒิสภา ทั้งยังดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีอุรุกวัยคนปัจจุบัน และเป็นภริยาของนายมูฮิกามานาน 13 ปี
โดยนายมูฮิกาชี้แจงสาเหตุในการลาออกว่ามาจาก "ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่ยาวไกล" และจะไม่กลับมารับตำแหน่งอีกจนถึงปี 2020
โฮเซ มูฮิกา อดีตผู้นำอุรุกวัยที่ชนะใจคนทั้งประเทศ
ใครบ้างที่ผู้นำเวเนซุเอลาเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารด้วยโดรนติดระเบิด
Image copyrightEPA
อดีตกบฏฝ่ายซ้ายฝีปากกล้า
เนื้อหาในจดหมายลาออกของนายมูฮิกา ซึ่งเป็นอดีตกบฏฝ่ายซ้ายและเป็นที่รู้จักจากการเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาและใช้ภาษาที่เต็มไปด้วยสีสัน ยังได้กล่าวขออภัยเพื่อนร่วมอาชีพบางคนที่เขาอาจพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจในระหว่างการอภิปรายทางการเมืองที่ดุเดือด
เมื่อปี 2013 เขาเคยต้องกล่าวคำขอโทษนางคริสตินา แฟร์นันเดซ เด เคียร์ชเนอร์ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินาในขณะนั้น หลังจากเรียกเธอว่า "แม่มดแก่" รวมทั้งยังเรียกสามีของเธอคือ อดีตประธานาธิบดีเนสเตอร์ เคียร์ชเนอร์ ที่เป็นโรคสายตาขี้เกียจ (Lazy eye) ว่า "ชายตาเหล่" โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในการแถลงข่าวงานหนึ่งซึ่งนายมูฮิกาพูดออกมาโดยที่ไม่รู้ว่าไมโครโฟนได้เปิดใช้งานอยู่
นอกจากนี้ ในปี 2015 นายมูฮิกา ยังเคยพูดว่า ประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา "บ้าราวกับแพะ"
Image copyrightAFP
คำบรรยายภาพ
นายมูฮิกา และภรรยา ใช้ชีวิตในฐานะคู่ชีวิตมานาน ก่อนที่จะแต่งงานกันอย่างเป็นทางการในปี 2005
ชีวิตติดดิน
อย่างไรก็ตาม การเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายติดดินและไม่ยอมเข้าพักในทำเนียบประธานาธิบดีที่หรูหราในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนั้น คือสิ่งที่ทำให้นายมูฮิกาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเขาและภรรยา ซึ่งเป็นทั้งคู่ชีวิตและเป็นสหายในกลุ่มกบฏ ก่อนที่จะแต่งงานกันอย่างเป็นทางการในปี 2005 นั้น ได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่บ้านสวนของภรรยาแถบชานกรุงมอนเตวิเดโอ มาโดยตลอด
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นายมูฮิกาได้บริจาคเงินเดือนส่วนใหญ่ให้องค์กรการกุศล และสมบัติชิ้นเดียวที่เขาครอบครองตอนเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2010 ก็คือรถเต่า "โฟลค์สวาเกน บีเทิล" รุ่นปี 1987 สีฟ้าอ่อน ซึ่งกลายเป็นรถที่โด่งดังไปทั่วโลกหลังจากมีผู้เสนอขอซื้อรถคันดังกล่าวจากนายมูฮิกาในราคา 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2014 แต่นายมูฮิกาปฏิเสธข้อเสนอไปโดยให้เหตุผลว่าเขาจะไม่มีรถพาสุนัข 3 ขาไปไหนมาไหนหากขายรถเต่าคันนี้ไป
Image copyrightGETTY IMAGES
อย่างไรก็ตาม มีนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามบางคนแสดงความสงสัยกับการลาออกของนายมูฮิกาครั้งนี้ว่าจะเป็นการวางมือจากแวดวงการเมืองอย่างถาวรหรือไม่ โดยสมาชิกวุฒิสภา ลูอีส อัลแบร์โต แอร์แบร์ อ้างถึงกระแสข่าวลือที่ว่า นายมูฮิกาลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเพื่อเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในปี 2019
ที่มา: บีบีซีนิวส์ไทย 16 สค. 61
โฆษณา